xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำ-หุ้นสหรัฐฯบวก รอผลประชุมเฟด น้ำมันปิดลบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนส.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ระดับ 1,118.40 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ทรุดตัวในเดือนส.ค. แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 เพราะได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อใหม่และยอดส่งออก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 17 ส.ค. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 67.78 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 17,545.18 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 10.90 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,102.44 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 43.46 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 5,061.70 จุด

ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปกว่า 100 จุด หลังจากมีรายงานว่าดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ร่วงลงในเดือนส.ค. เนื่องจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และยอดส่งออก

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดหุ้นนิวยอร์กพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกและปิดตลาดปรับตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้นในเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 61 ใน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2005 ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นของบริษัทจดทะเบียนต่าง รวมทั้งดิสนีย์ ที่หุ้นขยับขึ้น 1.8% หลังเผยแผนเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สวนสนุกของพวกเขา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ และบริษัทแอปเปิล กับแมคโดนัลด์ เพิ่มขึ้น 1.0% และ 1.4% ตามลำดับ

นักลงทุนกำลังจับตาผลประกอบการของบริษัท วอล-มาร์ต ซึ่งจะเปิดเผยในวันอังคาร และผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะเปิดเผยในวันพุธ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานที่ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่น หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 63 เซนต์ ปิดที่ 41.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 48.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และการส่งออกอยู่ในภาวะซบเซา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด โดยโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอยู่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น