สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) หรือไลต์สวีตครูด ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ (7 ส.ค.) จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่สูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ปรับลดลงมากกว่า 3 ดอลลาร์ และจ่อทุบสถิติต่ำสุดรอบ 6 ปีครั้งใหม่ หลังเคยลงไปถึง 43.46 ดอลลาร์์/บาร์เรล เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 43.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 91 เซนต์ ปิดที่ 48.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า ตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอยู่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนสัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ นิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ (7 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่สดใส ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ แต่มองว่าข้อมูลดังกล่าวยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ระดับ 1,094.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนวันศุกร์ (7 ส.ค.) หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ค. ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ลดลง 46.37 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 17,373.38 จุด ดัชนี S&P500 ขยับลง 5.99 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 2,077.57 จุด ดัชนี NASDAQ อ่อนตัวลง 12.90 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 5,043.54 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังถือว่าแข็งแกร่ง จึงเกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 43.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 91 เซนต์ ปิดที่ 48.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า ตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอยู่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนสัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ นิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ (7 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่สดใส ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ แต่มองว่าข้อมูลดังกล่าวยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ระดับ 1,094.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนวันศุกร์ (7 ส.ค.) หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ค. ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ลดลง 46.37 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 17,373.38 จุด ดัชนี S&P500 ขยับลง 5.99 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 2,077.57 จุด ดัชนี NASDAQ อ่อนตัวลง 12.90 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 5,043.54 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังถือว่าแข็งแกร่ง จึงเกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
