ราคาทองคำปิดที่ระดับ 1,184.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Gold Spot) ลดลงเหลือ 8.59 ดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันราคาลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,179.43 ดอลลาร์สหรัฐโดยแรงกดดันมาจากการจ้างงานภาคเอกชนที่ออกมามากกว่าที่คาดที่ 201,000 ตำแหน่ง ในเดือน พ.ค.จากที่คาดไว้เพียง 198,000 ตำแหน่ง และรายงานกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Beige Book) ชี้ให้เห็นว่า มีการขยายตัวขึ้นในเดือน เม.ย.ถึงปลาย พ.ค. ขณะที่ ECB ยังคงนโยบายการเงิน และคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ส่งผลให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นหลัง รมว.คลัง ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยอีก เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งแรกสามารถช่วยเหลือผู้ส่งออกได้เพียงพอแล้ว โดยล่าสุด อยู่ที่ 33.63 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คืนนี้ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน วันศุกร์ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม อัตราการว่างงานสหรัฐฯ การประชุม OPEC และการเจรจาหนี้สินกรีซ SPDR ลดรายงานการถือสถานะทองคำที่ระดับ 709.89 ตัน ไม่เปลี่ยนแปลง
ราคาทองคำโลกเช้านี้ (4 มิ.ย.) (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ 1,185 ดอลลาร์สหรัฐ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2558 (GFM15) ราคาเปิดใกล้ระดับ 19,000 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,800 บาท ราคาเสนอขาย 18,900 บาท
แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานสำคัญของสหรัฐฯ กลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง ทำให้ระยะสัปดาห์แนวโน้มยังเป็นเชิงลบ แนวรับ 1,175 ดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานในวันพรุ่งนี้