xs
xsm
sm
md
lg

คุมโจ๋มือเผาอำพรางสาวประเภทสองทำแผนฯ รับถูกกดดันในการใช้ชีวิต (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - รรท.ผบช.น.แถลงจับโจ๋วัย 19 ปี ฆ่าสาวประเภทสอง รับเป็นแฟนแต่ถูกบังคับและกดดันในการใช้ชีวิต ก่อนมีปากเสียงกันและได้กระทืบบริเวณลำคอจนผู้ตายแน่นิ่ง จากนั้นนำศพไปเผาอำพรางลานขยะวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม ขณะคุมตัวทำแผนฯ เกิดลิฟต์ค้าง ผู้ต้องหาหมดสติจนต้องยกเลิกการทำแผน-นำตัวส่ง รพ.แทน



ที่ สน.ประเวศ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมตัว นายภัทภูมิ แย้มคง อายุ 19 ปี หลังก่อเหตุฆ่าเผาอำพรางศพนายสมพงษ์ บุญยืน หรือเจ๊หนุ่ย อายุ 58 ปี สาวประเภทสอง ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, เคลื่อนย้ายทำลายศพและลักทรัพย์

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ รับแจ้งพบศพถูกเผาทิ้งอำพรางคดีภายในวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม ตั้งอยู่ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 55 (ซอยวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม) แขวงและเขตประเวศ กทม. เมื่อไปตรวจสอบ พบชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผาทิ้งเพื่ออำพรางคดี ทราบชื่อต่อมาคือนายสมพงษ์ จากการสอบถามพยานและรวบรวมพยานหลักฐานทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายภัทภูมิ ก่อนจะควบคุมตัวไว้ได้

ด้านนายภัทภูมิให้การรับสารภาพว่าเป็นลงมือผู้ฆ่านายสมพงษ์จริง โดยรู้จักกับผู้ตายที่สวนหลวงเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ขณะที่ตนไปออกกำลังกายเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนตกลงคบหาเป็นแฟนโดยนายสมพงษ์ให้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 3 หมื่นบาท พร้อมกับซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 ให้ 1 เครื่อง หลังจากนั้นได้ย้ายไปอยู่กับผู้ตายที่คอนโดมิเนียมย่านวิภาวดี ส่วนสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจากผู้ตายชอบบังคับกดดันในเรื่องของการใช้ชีวิต เช่น เวลาไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าก็ห้ามเดินข้างหลัง ต้องเดินไปพร้อมกัน กินข้าวก็ต้องรอกินพร้อมกัน

ล่าสุดเมื่อวันที่เกิดเหตุ ผู้ตายบังคับไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน แต่ตนไม่อยากไปจึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายกัน ตนได้ใช้เท้ากระทืบไปที่ลำคอจนผู้ตายแน่นิ่ง จากนั้นพบว่าผู้ตายไม่หายใจแล้วจึงตกใจและกลัวความผิด ตัดสินใจนำศพผู้ตายยัดใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ และเก็บเสื้อผ้าตนเองใส่กระเป๋าเป้ นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินจำนวน 5 หมื่นบาท ก่อนขึ้นรถแท็กซี่เดินทางมาที่ลานเผาขยะของวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม เพื่อนำศพมาเผาอำพราง

ขณะที่พระปรากฏเปิดเผยว่า นายภัทภูมิเป็นเด็กวัดที่คอยดูแลอยู่ที่กุฏิ เป็นเหลนของป้าที่ฝากมาให้ดูแล ทราบว่าจบการศึกษาชั้น ป.3 อ่านเขียนไม่ค่อยได้ ก่อนเกิดเหตุนายภัทภูมิบอกว่ามีคนมาชวนให้ไปอยู่ด้วย ตนเห็นว่าไปแล้วน่าจะอยู่สุขสบายจึงไม่ได้คิดห้ามอะไร แต่ในวันเกิดเหตุก็รู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ ก็เดินทางกลับมาหากลางดึก ส่วนจุดที่มีการจุดไฟเผาเป็นสถานที่ทิ้งขยะ และมักมีการเผาขยะเป็นประจำอยู่แล้วจึงไม่ได้เห็นว่าผิดสังเกตแต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องสะเทือนใจต่อประชาชนทั่วไป หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยางเต็มที่และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่วัดดังกล่าว เนื่องจากหลังจากที่ผู้ต้องหาเผาทำลายศพแล้วก็ได้เข้าไปนอนในกุฏิวัดจนรุ่งเช้าเพื่อนผู้ตายได้ไปตามหาตัวผู้ตายที่วัดแต่ไม่พบ ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าผู้ตายไปไหน เพื่อนผู้ตายสงสัยจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมาเวลา 11.20 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ นำตัวนายภัทภูมิไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกที่วัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม วัดที่นายภัทภูมิพักอาศัยอยู่และเป็นจุดที่นำศพผู้ตายมาเผาอำพราง โดยนายภัทภูมินำกระเป๋าซึ่งบรรจุศพนายสมพงษ์ไปที่ลานเผาขยะท้ายวัด จากนั้นนำรถเข็นที่ไว้ใช้เข็นจานนำมาบรรทุกโซฟาแล้วนำไปที่ลานเผาขยะ ก่อนจะหยิบยางล้อรถเก่าจำนวน 4 เส้นที่วางพิงไว้กับอาคารมาที่ลานเผาขยะทีละเส้นๆ จนครบ จากนั้นนำน้ำมัน 2 แกลลอน รวม 10 ลิตร มาเทราดและใช้ไฟแช็กจุดผ้าขนหนูผืนเล็กโยนผ้าเข้าไปทำให้ไฟลุกไหม้จนท่วม โดยขณะนั้นเป็นเวลา 02.00 น.วันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีใครพบเห็น จากนั้นนายภัทภูมิได้เดินกลับเข้าไปนอนภายในกุฏิวัด ต่อมาจุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายภัทภูมิมายังปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 จุดที่นายภัทภูมินั่งแท็กซี่มาซื้อน้ำมัน 2 แกลลอน รวม 10 ลิตร ก่อนจ่ายเงินค่าน้ำมันและนั่งรถแท็กซี่ออกไป

จากนั้นได้นำตัวนายภัทภูมิไปทำแผนต่อจุดที่ 3 ห้องพักเลขที่ 63/193 หรือห้อง 621 ชั้น 6 ในประเสริฐสุขเพลส ซอยวิภาวดี 16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) ถ.วิภาวดี แขวงจอมพล เขตจตุจักร ห้องพักของนายสมพงษ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายภัทภูมิเข้าไปในลิฟต์ เพื่อขึ้นไปยังชั้น 6 แต่ลิฟต์เกิดมีปัญหาค้างอยู่ที่ชั้น 4 ทำให้ผู้ต้องหาเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องพยุงผู้ต้องหาออกมาจากลิฟต์และเดินขึ้นบันไดมายังชั้น 6 ก่อนจะนำตัวเข้าห้องที่เกิดเหตุเพื่อให้พักผ่อน พร้อมกับยกเลิกการทำแผนไปก่อน เนื่องจากทางนายภัทภูมิมีอาการเครียด อ่อนเพลีย และเป็นลมจนตำรวจต้องนำส่งโรงพยาบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น