ตะลึง ร้อยเอก ดร.ผู้ต้องหาอ้างตัวที่ปรึกษา “บิ๊กทหาร”บีบอธิบดีกรมสรรพากร อนุมัติเงิน 23 ล้าน พบข้อมูลปี 2557 ออกงานในฐานะที่ปรึกษา คสช. “ธรรมดาเกิดมาเป็นชาย แม้จะแสวงหาเจ้านายซึ่งจะเป็นที่พึ่งนั้นก็ให้พิเคราะห์ดูน้ำใจเจ้านายที่โอบอ้อมอารีย์ เป็นสัตย์เป็นธรรม จึงเข้าอยู่ด้วย”....คำคมสามก๊ก....
สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักกระผม “บิ๊กเกรียน”ขอรายงานตัวทำหน้าที่รายงานการเคลื่อนไหวในแวดวงสีกากีในรอบสัปดาห์...เริ่มจากยุทธการ “ยกทัพ จับสึก”พระธัมมชโย แห่งวัดพระธรรมกาย ทำท่าจะกลายเป็นซีรี่ย์ติดตามกันจนตาแฉะ....หลังทางการออกหมายจับศิษย์ยานุศิษย์ออกฤทธิ์ปกป้องอย่างเต็มที่...ทั้งรั้วลาดหนามหีบเพลง รถเกรดขนาดใหญ่นำมาปิดประตูเข้า-ออก แถมระดมสรรพกำลังเรือนหมื่นเข้าวัดเตรียมรับมือ....”ขอบคุณ”ลุงตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่สุขุมคำภีรภาพ ไม่บู่มบ่ามเอาใจ “บ่าง”เพราะเหตุไม่คาดฝัน เหตุแทรกซ้อน หรือ “น้ำผึ้งหยดเดียว”อาจทำให้เสียความชอบธรรมไปทั้งขบวน....แต่....การทอดเวลาจับวันไหนก็ได้..จับวันไหนก็เหมือนกัน...”บิ๊กเกรียน”ของเรียนว่า...ไม่เหมือนครับ...ไม่เหมือน..!!??
00000.....เพราะปรากฏการณ์ปกป้องหลวงพ่อ ทางหนึ่งคือการท้าทายอำนาจรัฐ ทั้งลุงตู่-ปู่ป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จะบอกว่าไม่น่าหนักใจ ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษขอให้ระวังจะถูกมองว่ากำลังโดดเดี่ยว “บิ๊กต๊อก”.....ทำมาดีตลอดพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ทั้งโยกทั้งคลึงประสานกับปฏิบัติการของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ “รุกคืบ”จนถึงฉากสุดท้ายแต่ “ปิดเกม”ไม่ได้....”ข่าววงใน”...ปฏิบัติการ “รบทัพ จับสึก”หยุดพักเพื่อเดินหน้าใหม่....เมื่อ “ธัมมชโย”เป็น “ไข่แดง”ยากแก่การเข้าถึงตัวบรรดา “แกนนำ”ธรรมกายเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี “หลายคน”มีความผิดเข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงาน องอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ฯออกแถลงโต้ตอบกระบอกเสียงรัฐ 3 เวลาหลังอาหารโปรดระวังตัวไว้....ประสา “บิ๊กเกรียน”ปฏิบัติการ “ล้ม-ธรรมกาย”อาจ “ไม่หมู”....ข่าวฉากหน้าก็ว่ากันไปส่วนการเจรจา “ต่อ-รอง” ก็ว่ากันอีกเรื่อง....”ธรรมกาย”เติบโต-กว้างขวาง-แทรกซึม มีเครือข่ายโยงใยไปทั่วโลก “ปิดจ๊อบ” ธัมมี่ “ตัวสำรอง” 1-2-3 อาจสร้างอาณาจักร ให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเก่า....ดูตัวอย่าง “สันติอโศก”ซึ่งมีแค่หยิบมือของ “ธรรมกาย” จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นไงมีใครทำลายศรัทธาได้
00000.....อื่มมม!!??....ดูเหมือนว่ายุทธการ “รบทัพ จับสึก”ของรัฐอาจจะส่งผลให้ห้องเครื่อง “รวน” ยิ่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งมาตรา 61 วรรค 2หรือกฎหมายลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ....เริ่ม “ขว้างก้อนหิน”กันคนละก้อน-สองก้อน ส่อแนวโน้ม “ขอเลื่อน”จาก 7 สิงหาฯ 2559 ไปอย่างไม่มีกำหนด....คนหนักใจอันดับ 1 ไม่พ้น “ลุงตู่”จะเอาไง...เลื่อน-ไม่เลื่อน...”บิ๊กเกรียน”ประชาชนคนเดินดิน ไม่มีสีไม่มีข้าง เห็นอะไร รู้สึกอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น....ขอเตือน “ลุง”ต้องมีคำตอบให้กับชาวบ้าน ร้านตลาด ตกลงว่ามันจำเป็นขนาดไหน ไม่เกี่ยวกับการ “ดึงเช็ง”หวงอำนาจ....แจงคนไทยเสร็จก็ต้องแจงชาวโลก และโปรดอย่าเชื่อคนเก่ง เชื่อไอ้ห้อยไอ้โหนด้วยวาทะกรรมเดิมๆคือเรื่องของชาติไทย (ของกู) เรื่องของอธิปไตย (ของกู)คนอื่นอย่าเสือก.....แฮ่มมม!!??...วันนี้ลำบากกันมาพอหรือยัง....ข้าราชการ หรือรอบๆตัวลุง เอาที่แย่ที่สุดถึงเวลามีทั้งเงินเดือน เบี้ยประชุม อุจจาระหมู-แมวล่อกันเรือนแสนเรือนหมื่น แต่ประชาชีหาเช้า-กินค่ำ วันนี้...ขอโทษ...ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำมาหากินทั้งฝืดทั้งเคือง...ร้านรวงปิดกันเป็นแถว ลองไปดูเหอะตลาดประตูน้ำ - จตุจักร -สำเพ็ง -โบ้เบ้ “ผีหลอก”กันเป็นแถว!!??
00000.....เข้าแวดวงสีกากีกันดีกว่า....โผนายพันที่ขบขันกันทั้งเมืองถือว่าได้สร้างความปั่นป่วน -สับสน-บั่นทอนขวัญ -กำลังใจ และทำลายความเชื่อมั่น “ทำดี-ได้ดี”จนหมดสิ้น....”บิ๊กเกรียน”มิได้มองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป แต่ความจริงก็คือความจริง...ติดค้างมาแต่คำสั่งแรก...พ.ต.อ.อรรถพร สุริยะเลิศ ผกก.สส.บช.น. หัวหน้าศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ “โดนพิษ” ย้ายมั่วให้ไปประจำศูนย์ฝึกอบรม บช.น. เก็บข้าวของยังไม่เสร็จ คำสั่งที่ 2 เด้งออกนอกหน่อยให้ไปเป็น ผกก.ผ่ายอำนวยการ จ.ปทุมธานี....เรื่องการโยกย้ายถือเป็นปกติของชีวิตข้าราชการ แต่ถ้า “ผิดฝา-ผิดตัว”ความเสียหายที่เกิดขึ้นใครรับผิดชอบ....พ.ต.อ.อรรถพร เติบโตในสายสืบสวนมากว่า 20 ปีมีความเชี่ยวชาญเรื่องการโจรกรรมรถยนต์ อย่างหาตัวจับยากจนตำรวจฝ่ายสืบสวนยกให้เป็นอาจารย์...หน้าที่หลักของศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ บช.น.มิได้มีเพียงติดตามรถที่ถูกขโมย หรือรถผิดกฎหมายเท่านั้นแต่ยัง...อบรมเพิ่มทักษะให้กับเจ้าหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จดจำรถทุกชนิดที่ถูกคนร้ายนำไปประกอบระเบิดเป็นคาร์บอม....ถามว่าย้าย “อรรถพร”ไปแล้วให้ใครมาแทน....ถูกฝาถูกตัว มีความชำนาญเหมาะสมกับภารกิจหรือไม่
00000.....ไม่ธรรมดา..ปฏิบัติการ “ล็อก”ขบวนการข่มขู่ข้าราชการกรรมสรรพากร...ข่าวไม่เล็กไม่ใหญ่กรณีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.รวบยกแก๊งบีบบังคับให้นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากรให้อนุมัติเงิน 23 ล้านบาทแก่บริษัทไซท์เพรพพาเรชั่น แมนเนจเมนท์ จำกัดทั้งที่ทำผิดสัญญาและไม่ผ่านการตรวจรับงานประมูลฯ....3 ผู้ต้องหาได้แก่ นายวรกร สมานญาติ หรือ ร้อยเอก ดร.วรกร สมานญาติ นายวิรัติศักดิ์ จิรพาพงษ์ และนายเกรียงไกร โชติกุล...ปัญหาอยู่ที่ผู้ต้องหาคนแรกมีนามบัตร-และอ้างเป็นที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รวม.กลาโหม.....ข่าวระบุด้วยว่าไม่เพียงแอบอ้างเป็นคนสนิท “ปู่ป้อม”แต่ยังเคยเป็นที่ปรึกษานายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.
ร้อยเอก ดร.วรกร เป็นใครมาจากไหน...ในยุค คสช.หน้าไหนจะกล้ามาอ้างกันง่ายๆไม่เกรงกลัวกฎหมาย....ปี 2553 เขามีบทบาทเคลื่อนไหวต่อต้านระบอบ “ทักษิณ” ปี 2557 ปรากฏตัวต่อสาธารณะด้วยการสวมหมวก “ที่ปรึกษา คสช.”......ข่าวลึก-ปมลับ แบบนี้ใครจะสาวต่อ...เชิญ...ส่วน “บิ๊กเกรียน” คนโจทก์เยอะขอหลบก่อน!!??
00000.....”ขายขี้หน้า”...อ่านว่า...ขายขี้หน้า...กรณีกรมแรงงานออกตรวจพื้นที่ย่านสะพานควาย จับต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทยแล้วถูกแฉกลับมาจ่ายค่าคุ้มครองให้กับตำรวจ 3 หน่วยไปแล้วคือ สน.บางซื่อ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว โดยมีการแจกสติ๊กเกอร์ “โดราเอม่อน” เลียนแบบ “ส่วยรถบรรทุก”ปรากฏว่าบรรดาตำรวจน้อย-ใหญ่ แห่งทุ่งนครบาล ออกมาปฏิเสธพันพัลวัน.....หลังถูกเปิดโปงส่วยแขกขายถั่ว มีคำสั่งภายในให้กวดขันแรงงานต่างด้าว...ตำรวจไทยไม่ต้องทำอะไร เห็นแขก เห็นลาว เห็นพม่า-ขแมร์ จับตรวจหมด...นี่แหละหนาจึงตกเป็นเหยื่อให้ปากหอย ปากปู มันนินทาเอา....”นครบาล”น่ะ “ตัวดี”ในฐานะข้าวของบ้าน...กล้าออกมาปัดความรับผิดชอบโยนให้หน่วยอื่นทั้งที่ปากยังเปื้อน “อึ” ถ้าท้องที่ไม่รู้ไม่เห็นแขกมันจะปักหลักขายถั่ว ขายผลไม้รถเข็นยังไงอยู่หลายปี ส่วน ตม.-ท่องเที่ยว ก็เอากับเขาด้วย แม้จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน -หาใบเสร็จไม่ได้เจอแต่สติ๊กเกอร์ “โดราเอม่อน”ถ้าผู้บังคับบัญชาเอาจริง ควรตั้งคณะกรรมการสอบสวน....ตำรวจท้องที่แล้วแต่ “แป๊ะเล็ก”จะตั้งใคร ส่วน ตม.พล.ต.ต.สุวิชณ์พล อิ่มใจรัชต์ ผบก.สืบสวน สตม. และพล.ต.ต.ศุภพล อรุณวิตร ผบก.ตม.1 อย่าทำเป็นเฉย -ตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็ต้องโดดมาล้างน้ำเน่าที่ลูกน้องทำงามหน้าไว้
00000.....เอ้า!!??...ไหนๆก็ไหนๆ...กรมแรงงานฯอย่าทำฟิตแค่สะพานควาย..โน่นมหาชัย -สมุทรสาคร ดง”พม่า” ทั้งตำรวจท้องที่-ตำรวจ ตม.-ตำรวจท่องเที่ยว-ฝ่ายปกครองและอีกสารพัดถือเป็น “หม้อข้าว-ขุมทอง” ทุกตำแหน่งหากได้ย้ายมาประจำที่นี่ล้วน “สายแข็ง”กระจิบกระจอกอย่ามาเสนอหน้า....”ตบท้าย-บิ๊กเกรียน”ขอเปิดลายแทงยุคพม่าครองเมืองมหาชัย โดยมีเจ้าหน้าที่ไทยรู้เห็นเป็นใจด้วย...พม่ามหาชัย พ.ศ.นี้เป็นเถ้าแก่เต็มไปหมด โลกหมุนกลับกลายเป็น “นายจ้าง”คนไทย ทั้งที่”จ้างจริง-จ้างปลอม” ให้คนไทยปลอมเป็นเจ้าของร้านบ้าง เจ้าของกิจการบ้างคนทำหน้าที่ก็แสร้งโง่ หลิ่วตาข้าง แบมือข้างรับทรัพย์กันไป...กฏหมายออกมากี่ฉบับกลับเป็นเครื่องมือให้คนมีหน้าที่ไปทำมาหากิน.....ตลาดทะเลไทย พม่าขายอาหารทะเล เป็นเจ้าของร้านเองไม่ต้องกลัวเกรงกฎหมายเพราะล้วนขาใหญ่ ใช้เงินพูด...ตลาดมหาชัยเปิดร้านขายของเพียบ ไทยยูเนี่ยน-คลองครุ วิลล่าหมู่ 4 วัดทอง ไม่รู้ใครไทยใครพม่าใครเขมร...ตามตลาดนัดร้านขายเครื่องไฟฟ้า โชห่วย วินมอเตอร์ไซด์ ทางเท้าแม่ค้าพ่อขายล้วนพม่า......ยังมีอีก...ร้านรับทำกรอบรูป ขายกับข้าว แถววัดโคกก็หนีไม่พ้นพม่า...ที่บ้านแพ้วมีต่างด้าวมาเช่าที่เปิดตลาดแข่งคนไทยขายทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่เว้นรถไอติมก็พม่า...อีกปรากฏการณ์หนึ่งที่มหาชัย...ตอนนี้อาหารไทยฝีมือพม่าทั้งเป็นลูกจ้าง และขายข้าวแกงเป็นกิจการของตัวเอง หลายรายสร้างฐานะซื้อรถ ซื้อบ้าน ปักหลักปักฐานเจ๋งกว่าคนไทย....สัปดาห์นี้พอหอมปากหอมคอสัปดาห์หน้ามาว่ากันใหม่...สวัสดีครับ