หึ่ง... “นายพลดอกดิน” รวยจัด!!??..บินเมืองนอก “ช็อป”บ้านหรูต่างประเทศ....สมาชิกสภาขับเคลื่อนฯมีมติเร่งปฏิรูปตำรวจหวังแก้ปัญหา “จับตา” จามจุรีคอนเน็กชันหนุน “เดชณรงค์” ขึ้นทาบรัศมี “ปู”
“ทุกคนมีอำนาจ ต่างกันบ้างก็ที่มีอำนาจมาก มีอำนาจน้อย ถ้าคนใช้เป็นอำนาจก็มีประโยชน์ คนใช้ไม่เป็นก็กลายเป็นคนบ้าอำนาจ”......สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รัก..ก่อนเข้าเรื่องเขย่าแวดวงสีกากี “บิ๊กเกรียน”ขอถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันสักหน่อย....เปิดเทอมแล้วเป็นไงบ้าง..สะตุ้งสะตังค์เหลือติดตัวกันบ้างหรือเปล่า...เห็นชาวบ้านแบกถังแก๊สไปจำนำเราว่าลำบากแล้วยังมีคนที่หนักกว่าอีกมากมาย...มนุษย์เงินเดือนยังพอไปไหว....ข้าราชการเช้าชาม-เย็นชาม ไงสวัสดิการก็เพียบแต่บรรดาคนหาเช้ากินค่ำต้องบอกว่าลำบาก แสนลำบาก...หาไม่พอใช้ไม่พอกินก็แย่แล้วดันมาเกิดภัยโจรผู้ร้ายเต็มบ้านเต็มเมืองซ้ำเข้าไปอีก....วันก่อนดูคลิปข่าวโจรกระซวกอกหนุ่มวิศวเพื่อชิง จยย. บอกตรงๆว่าโคตรเสียว - สั่นสะเทือนความรู้สึกเพราะล่อกันอุกอาจกลางกรุง แถมยังมีผู้คนพลุกพล่าน....คดีนี้แม้มีสิทธิ์ออกหัว-ก้อย “ชิงทรัพย์ - ชู้สาว”แต่ความน่าสะพรึงแผ่ไปทุกหย่อมหญ้า “ให้ดี”พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ต้องตามลากคอไอ้ฆาตกรให้ได้โดยเร็ว
00000.....แท่นแทนแท๊นนนนน....นาทีนี้ไม่พูดเรื่องแต่งตั้ง-โยกย้าย “นายพัน”ก็คงไม่ใช่วิสัย....พฤหัสฯที่ 26 พ.ค.2559 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ยืนยันว่าคำสั่งที่เหลืออีกกว่าพันนายนั้นจะออกมาทั้งหมดในวันสองวันนี้...แถมด้วยการดำเนินคดีกับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ “วีรบุรุษประชาธิปไตย”ในข้อหาหมิ่นประมาท และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์...”บิ๊กแป๊ะ”เอาแน่ถ้าใครวิจารณ์ตำรวจโดยไร้เหตุผล... “ตบท้าย”เอ่ยปากขอความร่วมมือจากผู้ใต้บังคับบัญชาและขอให้รับการเปลี่ยนแปลง “ตอนนี้ก็เหมือนรองเท้าใหม่ ใส่แล้วกัดเท้าบ้างแต่เดี๋ยวจะสวมสบาย”.....เอ้า!!??..ก็ว่ากันไป..จะตัดตีนให้พอดีรองเท้า หรือใส่รองเท้าที่พอดีตีน.... ไงตำรวจชั้นผู้น้อยก็ไม่หือไม่อือ ไม่กล้ามีปากเสียงกับท่านอยู่แล้ว แต่ที่อดเป็นห่วงไม่ได้ก็คือการออกมาใช้ “ไม้แข็ง”กับ ดร.อาทิตย์ นั่นแหละ...ถามจริงเอากันขนาดนั้นเลยเรอะ !!?? 00000.....ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นใครมาจากไหน “บิ๊กเกรียน”คงไม่ต้องสาธยาย ทางที่ดีก่อนหุนหันใช้อำนาจ ไม่ลองปรับ-จูน ทำความเข้าใจไม่ดีกว่าหรือ.....ใครซื้อ-ใครขาย(ตำแหน่ง)มีหลักฐานขอให้บอก...ตำแหน่งอะไร ที่ไหน ขายกันเท่าไหร่.....โฮ้...ของแบบนี้มันจะมีแมวตัวไหนกล้าบอก กล้าพูด เพราะผิดทั้งอาญา ผิดทั้งวินัย แถมขายขี้หน้าชาวพาราต้องเอาหัวเดินต่างตีนกันเลย....”บิ๊กเกรียน”ขออนุญาต “เผือก”อย่างตรงไปตรงมาว่าข่าวซื้อขายตำแหน่งที่โผล่ออกมาคนที่พูดก็คือตำรวจนั่นแหละ ส่วนจะซื้อจากใครไม่มีการระบุชัดเจน รวมๆเหมากันว่ามาจากสาย “นายพลดอกดิน”....ทุกเสียงไม่มีพาดพิงถึง “บิ๊กแป๊ะ”หรือแม้แต่ “บิ๊กเกรียน”ก็มั่นใจว่าทั่น ผบ.ตร.ไม่มีวันทำมาหากินกับเรื่องแบบนี้....ที่เชื่ออย่างนั้นมันมีเหตุผลสนับสนุนอยู่ทั้ง “เนื้อแท้”ของการทำงาน-อุปนิสัยใจคอที่ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้อง -สมถะ-ติดดิน... แถมฐานะครอบครัวเรียกว่า “มีจนล้น”ไม่จำเป็นใดๆต้องเอาเงินที่เสมือนเลือดของผู้ใต้บังคับบัญชามาดื่ม
00000.....แต่!!??...มิได้หมายความว่า “บิ๊กแป๊ะ”ไม่เอาแล้วคนอื่นจะทำแบบนี้ไปด้วย....คนรอบตัวน่ะสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็น “นายพลดอกดิน”หรือบรรดาผู้มีอุปการะคุณทั้งหลาย...แน่ใจนะว่าไม่มีใครแม้แต่คนเดียวขอการสนุบสนุนเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งโดยไม่มีผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน....ดังนั้นความหมายของการซื้อ-ขายตำแหน่ง (ตำรวจ)จึงกว้างไกลไปถึงการคอรัปชันอำนาจ...ให้ยศให้อำนาจกับคนไม่ควรได้...ให้ตำแหน่งแห่งหนที่สามารถมีช่องทางเศรษฐกิจ หรือคุมหน่วยงานดีๆทั้งที่บุคคลคนนั้นไม่มีความเหมาะสม ขาดความรู้-ความสามารถ-ขาดความอาวุโสแต่ดีที่ปลอกคอแข็ง....แบบนี้ท่านทั้งหลายคิดว่าเข้าข่ายความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่....นี่ไม่รวมปฏิบัติการ “เปิดหลุม”หรือ “จ้างให้ออก”นะฮะ....ว่ากันเป็นหลักล้านแต่ของแบบนี้ใครมันจะบอก - ใครมันจะพูด ถึงจะถูกเบี้ยวจ่ายไปแล้วไม่ได้ตามตกลงก็ต้องเงียบ หรือขอผลัดไปเที่ยวหน้า.....”บิ๊กแป๊ะ”เคยได้ยินไหม...ลือกันขนาดว่าแอบไปซื้อบ้านทิ้งไว้ที่ต่างประเทศ...เตรียมทางหนี-ทีไล่ไว้เผื่อตอนผลัดแผ่นดิน!!??
00000.....พูดถึงการซื้อ-ขายตำแหน่ง (ตำรวจ)ต้องขออนุญาตว่ากันยาวๆยกงานวิจัยของ ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการคนดังมาอ้างกันสักนิด.....งานวิจัยหัวข้อ “คอรัปชั่นกับประชาธิปไตย”เมื่อปี 2537 ระบุระบบตำรวจไทยว่ามีลักษณะบางด้านคล้ายกับระบบกินบ้านกินเมืองในสมัยโบราณ กล่าวคือหลังการปฏิวัติ พ.ศ.2475 จนถึงปี 2531 ตำรวจถูกใช้เป็นเครื่องมือพิทักษ์ผลประโยชน์ทางการเมืองของรัฐ มีบทบาทในการกำจัดศัตรูทางการเมืองเพื่อประโยชย์ชนชั้นนำทางกลุ่มการเมืองกลุ่มใหม่.....ยุคพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นอธิบดีกรมตำรวจ หรือปี 2494 - 2500มีการกระทำกับศัตรูทางการเมืองอย่างกว้างขวาง มีการการตายอย่างลึกลับของนักโทษการเมืองฝ่ายตรงข้ามภายใต้การอารักขาของตำรวจ...ยุคจอมพลประภาส จารุเสถียร เป็น รมว.มหาดไทยและ อธิบดีกรมตำรวจ มีการกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ซื้อที่ดินจากญาติในราคาแพงเกินจริงเพื่อนำไปสร้างโรงพัก (ยุคนี้กินโรงพัก-รับเงิน-ทิ้งงาน) เก็บค่าคุ้มครอง อมเงินสวัสดิการลุกน้อง....ยุค มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เคยเอ่ยไว้ว่ากรมตำรวจคือ กรมทศกีฑา วิ่งเต้นกันสิบทิศ.....บทวิจัยยังระบุด้วยว่าผลประโยชน์จากการเลื่อนชั้น-ยศ พิจารณาจากระบบโควตา เด็กฝาก มีคำแนะนำจากผู้มีอำนาจหรือผู้ใหญ่ ส่วนราคาตำแหน่งให้ดูจากประโยชน์ในพื้นที่ ประโยชน์มากราคาก็สูง หรือต้องใช้แรงสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ....ข้อมูลปี 2537 ระบุว่าท้องที่ตำรวจเกรด A ต้องจ่ายเงิน 1-5 ล้านบาท บางคนโอนที่ดินเพื่อแลกตำแหน่ง...มีตำรวจนักสะสมทรัพย์สินมหาศาลการซื้อขายจึงขึ้นอยู่ที่นายชอบอะไรด้วย....ชอบพระก็หาพระให้...ชอบเงินก็หาเงินให้ !!??
00000.....จากยุควินเทจมาสู่ดิจิตอล...คุณพี่ตำรวจ(บางคน)เล่นกลยุทธ์ “เปิดหลุม”เรียกว่าคุณคิดได้ยังไง ก่อนมีคำตอบว่า...ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้....ขณะที่ สตช.กำลังเตรียม “หวด”คนวิจารณ์การซื้อขายตำแหน่ง(ตำรวจ)กลุ่มการเมืองประชาธิปัตย์ สาย กปปส.ก็เริ่มออกมา “กระตุก” 16 พ.ค.2559 นายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย (สปท.)เสนอให้เป็นวาระด่วนปฏิรูปตำรวจเนื่องจากมีข้อครหาต่างๆมากมาย ทั้งการรับส่วยและวิ่งเต้นจ้างให้ลาออกจากราชการด้วยเงินหลักล้าน หรือที่เรียกกันว่า “เปิดหลุม” ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นด้วย 105/11 เสียง คณะกรรมาธิการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมดำเนินการภายใน 30 วัน.....อื่มมม...แบบนี้ สตช.จะว่าไง...จะดันทุรังใช้กฎหมาย “หุบปาก”ผู้คนอีกไหม
00000.....พูดถึงบทบาทของ “วิทยา แก้วภราดัย”คงต้องมองไกลไปถึงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (คนใหม่)กันสักหน่อย....เกี่ยวอะไรกัน..ทำไมช่วงนี้ชื่อพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา สบ.10 ว่าที่จเรตำรวจ จึงโผล่ขึ้นมาให้ชาวประชาสีกากีประหลาดใจ.....”แวดล้อม”นายตำรวจผู้นี้”ไม่ธรรมดา” ยิ่งกว่าเพลงฮิตไชยา มิตรชัย เสียอีก... ข่าวว่าศิษย์ร่วมสำนัก “จามจุรีโรย”ช่วยกันหนับหนุนอย่างเต็มที่ เห็นชัดๆอยู่ 2 พระหน่อทั้งคุณน้าวิทยา และคุณพี่ถาวร เสนเนียม ล้วนแต่เหล่า “นกหวีด”ปรี๊ดๆๆ....งานนี้คนไม่บายใจไม่ใช่ “บิ๊กแป๊ะ”ที่เชื่อแน่ๆว่า “นอนมา”นาทีนี้อาจไม่ชัวร์กลายเป็น “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง.... คงไม่ลืม “ปักหมุด”ตรวจสอบ “ความมั่นคง”ของตัวเองด้วย...ช่วงนี้ “ข่าวลือ” ความขัดแย้ง 2 ผู้ยิ่งใหญ่หนาหูขึ้นทุกวัน...ใคร “สายลุงตู่ -ปู่ป้อม”กระชับพื้นที่แต่เนิ่นๆป้องกันความผิดหวัง...เด้อขรับ!!??
00000.....”ตบท้าย” คดีอุ้มฆ่า-เผานั่งยาง ท้องที่สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี วันนี้ตัวเลขกลมๆมีคนหายในลักษณะถูก “อุ้ม”ไปฆ่าโดยฝีมือใครไม่รู้แต่เชื่อว่ามีสีกากีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย 30 ศพเป็นอย่างน้อยทั้งหญิง-ชาย บ้างเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นผัว เป็นเมีย....เรื่องแดงโร่จนต้องแถกันรายวัน...ล่าสุดพิชิตคดีเจ้าแม่เงินกู้บังอร ทองอ่อน แบบสุดทุลักทุเล ได้ผู้ต้องหา 2 เป็นพลเรือน1 ตำรวจ 1 แต่อยู่ในคุก....ผู้สันทัดกรณีชี้ว่าชีวิตดาบโมทย์ บุพศรี ในเรือนจำอาจไม่ปลอดภัย เตรียมระวังถูก “ปิดปาก” !!??....ว่าตามเนื้อผ้า “สุสานคนเป็น” หรือที่เกิดวาทะกรรม “สุสานคนเก่ง - สุสานนักค้ายาเสพติด” ถามว่าตำรวจใหญ่แห่งภาค 4 (บางคน)กำลังคิดอะไร...ต้องการ “กลบขี้”ที่คนสีเดียวกันทำไว้ใช่ไหม...ผู้เสียหาย 41 รายรุมแจ้งความเพื่อขอตรวจ ดีเอ็นเอ.แต่ตำรวจพื้นที่ ทำงานช้า “ดึงเช็ง” จนขัดหูขัดตา...ยุคคืนความสุข มิใช่ยุคทมิฬหินชาติ....วันก่อน น.ส.อรุณี พลรัตน์ ไปเที่ยวดูหลอลำซิ่ง ขากลับถูกคนร้ายอุ้มหาย...ญาติเข้าแจ้งตำรวจบึงกาฬ มาพบกลายเป็นศพถูกเผาทิ้งอยู่ในป่าละเมาะใก้ลวัดดานศรีสำราญ อ.พรเจริญ.....พล.ต.อ.เฉลิมเกรียติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 อย่ามัว “ลูบหน้าปะจมูก” เหิมเกริมกันขนาดนี้น่าขายขี้หน้านะครับ.....กลัวไม่เละ สังคมออนไลน์แพร่ภาพชาวบ้านขึ้นป้าย “ห้ามนำศพมาทิ้ง” ทางเข้าเขาภูพาน อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์....มันจะอะไรกันนักกันหนาครับคุณตำรวจ....ฮ้วยอิหยังว่ะ!!??