เกิดเรื่องขายขี้หน้าชาวโลกขึ้นในการประชุมการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการระดับนานาชาติ โดย ปลัด พม.ได้ยิงมุกตลกล้อความพิการใส่ผู้แทนของกรมการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการซึ่งเป็นคนแคระ ว่า "please stand up" จากนั้นทีมผู้แทนไทยต่างนั่งหัวเราะรับมุกนายอย่างสนุกสนานเฮฮา แต่คณะกรรมการและทุกคนที่เป็นต่างชาติในห้องกลับเงียบกริบ ไม่ฮาด้วย หลายคนรับไม่ได้ที่ตัวแทนไทยโชว์อคติเหยียดคนพิการเยี่ยงนี้ กระทั่งวันต่อมาได้ถูกคณะกรรมการในที่ประชุมตำหนิสั่งสอน จนคนไทยหน้าชา!
ควรไหม? ยิงมุกตลกใส่คนแคระ ในการประชุมคนพิการ!
สำหรับการประชุมคณะกรรมการสิทธิคนพิการ สมัยที่ 15 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมี นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นผู้นำคณะ มีภารกิจนำเสนอรายงานประเทศภายใต้พันธกรณีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ ซึ่งเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2559
ทว่า ระหว่างการประชุมนั้นเกิดเรื่องที่ไม่ตลกขึ้น...เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งใช้ชื่อว่า “Nat Varoth” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ความขายขี้หน้าระดับนานาชาติ presented by กระทรวง พม.” พร้อมแนบภาพบันทึกจากหน้าโพสต์เฟซบุ๊กผู้ใช้รายหนึ่ง โดยปกปิดชื่อผู้โพสต์ แต่ระบุสถานที่ว่า “United nations human rights” ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
“เมื่อวานนี้เป็นการพิจารณาความคืบหน้าการปฏิบัติตามอนุสัญญาการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการของประเทศไทย แต่ที่น่าตลก…แต่ไม่ตลกคือปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้เล่นตลกกับความพิการของน้องผู้หญิงที่พิการตัวแคระในทีมต่อหน้าคณะกรรมการและทุกคนในห้อง คณะผู้แทนไทยก็หัวเราะรับมุกกันเอง แต่ทั้งห้องเงียบกริบ หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงกลับมีทัศนคติเช่นนี้ บอกตรงว่ารับไม่ได้จริงๆ แถมตอบไม่ตรงคำถามสักข้อ รู้สึกอับอายที่เป็นคนไทยด้วยกัน ณ บัดดล”
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nat Varoth ยังเผยแพร่คลิปของปลัด พม.ยิงมุกตลกล้อคนพิการที่เป็นประเด็นออกมาด้วย ได้ความว่า
"Let me introduce Err.. Miss Jenjeera to the audiences, to the committee" (ผมขอแนะนำ เอ่อ .. นางสาวเจนจีรา ให้กับคณะกรรมการ)
"Please, stand up" (โปรดยืนขึ้นด้วยครับ)
"Please, stand up" (ยืนขึ้นด้วย...ท่านยิ้ม พร้อมเสียงหัวเราะคิกคักจากผู้แทนจากไทย)
“เราเข้าไปดูคลิปแล้ว ในฐานะคนที่อยู่ต่างประเทศมาสิบกว่าปี ลุงปลัด ไม่สมควรอย่างยิ่ง และที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้หญิง ที่นั่งข้างลุง ที่นั่งหัวเราะขำ คืออย่างนี้ วัฒนธรรมต่างชาตินะ หากไม่มีอะไรที่น่าขำจริงๆ เขาจะไม่หัวเราะนะ หากคนที่เล่าโจ๊กไม่หัวเราะกันเอง เขาจะไม่คิดว่าเป็นโจ๊ก ดังนั้นหากมีคนหัวเราะ เขาจะคิดว่า มีคนมองเป็นเรื่องตลก แน่นอน ซึ่งคนไทยบางทีเอะอะอะไรก็หัวเราะ ยิ้มขำ แบบสยามเมืองยิ้มน่ะ ซึ่งต่างชาติสามารถเข้าใจผิดได้ แล้วยิ่งเป็น UN นะครับ คุณมาปล่อยมุกอะไรกันตอนนั้น!” ความคิดเห็นท่านหนึ่งหลังได้ดูคลิป
คนไทยหน้าชา...ขายขี้หน้าระดับโลก!
จากนั้นในเช้าวันถัดมาคือวันที่ 31 มี.ค.2559 ได้มีองค์ประชุมท่านหนึ่งได้ขอถามคำถาม 2 ข้อในที่ประชุม แต่ก่อนถามขอกล่าวอะไรบางอย่างก่อน...ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นคำกล่าวตำหนิที่โหดมากสำหรับการประชุมระดับนานาชาติของ UN ที่มักมีการประนีประนอมสูงแล้ว
“มิส เทเรเซีย ดีกานา "...เมื่อวานนี้ เรารู้สึกระอาใจในวิธีการที่ตัวแทนจากผู้นำรัฐบาลไทย แนะนำตัวสุภาพสตรี ที่เป็นตัวแทนผู้ทุพพลภาพ "
ทว่า ความขุ่นเคืองนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากถ้อยแถลงของกลุ่มองค์กรเพื่อผู้พิการของประเทศไทย ที่เพิ่งมาถึงฉันเมื่อเช้านี้ เพราะองค์กรเพื่อผู้พิการของไทยไม่ได้รับสิทธิให้พูด ฉันจะไม่อ่านข้อความดังกล่าว แต่จะขออ่านเพียง 3 ประโยค (ซึ่งหมายถึงข้อความ "ยืนสิครับ" ที่ปลัด พม.พูด ผู้พูดคนดังกล่าวจึงเลี่ยงไม่พูดข้อความดังกล่าวซ้ำ เนื่องจากรบกวนจิตใจจนเกินไป)
"ผู้แทนฯไทย ล่วงละเมิดทางวาจา ต่อ ตัวแทนผู้ทพพลภาพหญิง เมื่อเชิญเธอขึ้นพูดต่อหน้า ที่ประชุม UN ในเรื่องสิทธิของผู้ทุพพลภาพ"
"องค์กรผู้แทนเพื่อผู้ทุพพลภาพ รู้สึกว่าเราจำเป็นต้องแสดงเจตจำนงว่า เราเห็นการกระทำดังกล่าว เป็นการดูแคลนศักดิ์ศรี และ ลดทอนคุณค่า ความเป็นมนุษย์ "
"การกระทำดังกล่าว สะท้อนถึง การขาดความรู้และ ความเข้าใจ และการตระหนักถึง ศักดิ์ศรีและ สิทธิของผู้ทุพพลภาพ" องค์ประชุมท่านหนึ่ง กล่าวตำหนิคณะผู้แทนไทยที่ดูแคลนคนพิการไทยทีมเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ยังมีความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับมุกตลกล้อเลียนคนแคระแบบนี้ด้วย ว่ารากฐานสังคมไทยมักตลกกับมุกแบบนี้มาช้านานแล้ว เล่นมุกนี้ทีไรก็เรียกเสียงฮาได้ตลอด
“ในยุค 90 วงการตลกคาเฟ่ไทยยังใช้คนพิการ(คนแคระ) สร้างเสียงหัวเราะอยู่เลย ออกทาง TV ก็ยังมี แถมมุกตลก ผมก็มั่นใจว่าคนไทยเกิน 90% ในยุค 90 ก็เคยหัวเรากับมุกตลกแบบนั้น หากมุกตลกประสบความสำเร็จได้แสดงว่าเราจะโทษแต่คณะตลกคาเฟ่ว่าจิตใจต่ำทรามไม่ได้ แต่เราต้องกล้าที่จะยอมรับและเคยรับได้กับการนำเรื่องความพิการมาล้อเล่นเป็นเรื่องตลกมาก่อน จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่ระดับปลัดกระทรวงจะเล่นมุกแบบนี้ และคณะผู้แทนไทยก็ยังขำกันได้ เพราะรากฐานสังคมเรามันเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ซึ่งน่าเศร้าแต่จริงเป็นที่สุด สังคมไทยควรต้องกล้ายอมรับว่าสังคมเราเพิ่งพยายามพัฒนาในเรื่องสิทธิคนพิการมาในช่วงไม่กี่ปีนี่เอง และสังคมเราก็พยายามแก้ไขเรื่องนี้อยู่”
เมื่อเรื่องดังกล่าวแพร่สะพัดไปไม่นานนัก ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ เลขาธิการสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นคณะผู้แทนไทยในนามคนพิการที่ไปประชุมที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Wiriya Namsiripongpun” พร้อมขอโทษ ปลัด พม.ที่ทำให้ถูกเข้าใจผิด
“กาวา (เจนจีรา) ได้รับทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา และกลับมาทำงานที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวง พม. ได้รับการชื่นชมจากท่านอธิบดี และท่านปลัดกระทรวง พม. หน้าตาก็สวย มีน้ำใจ พาผมเดิน ผมต้องขอโทษท่านปลัด ที่พยายามให้ กาวา ได้มีโอกาสแสดงความสามารถในการตอบคำถามในที่ประชุม กรรมการ CRPD และเพื่อให้ กรรมการ ทราบว่า กาวา แม้จะเป็นคนตัวเล็ก แต่ก็มีความสามารถ กลับทำให้คนอื่น เข้าใจผิดว่าท่าน ทำให้กาวา เป็นตัวตลก ไม่เหมาะสม ผมต้องขอโทษท่านปลัดอีกครั้งหนึ่ง ที่พยายามให้เกียรติคนพิการ แต่ก็ถูกเข้าใจผิด และถูกตำหนิ การที่ผมเอารูปกาวา มาออกครั้งนี้ คงไม่เข้าใจผิดว่า ผมเอา กาวา มาเป็นตัวตลก นะครับ ผมเพียงต้องการบอกว่า แม้กาวาตัวเล็ก ก็มีน้ำใจ ช่วยพาคนตาบอดเดิน ขอให้ คนอื่น ได้ดูเป็นเยี่ยงอย่างด้วยนะครับ พบคนตาบอดที่ไหน ช่วยนำทางด้วยนะครับ ขอบคุณกาวา มากๆ นะครับ (ช่วยกันแชร์ด้วยนะครับ)”
เหยื่อโดนล้อไม่ถือสา! ยันซี้ปลัด พม. ท่านหยอกเพราะเอ็นดู!
ลองมาฟังอีกมุมจาก เจนจีรา บุญสมบัติ หรือ กาวา ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากประเด็นถูกล้อเลียนดังกล่าว เธอได้โพสต์ข้อความและรูปภาพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Jenjeera Boonsombat ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นการบิดเบือนความจริงอย่างที่สุด ยืนยันสนิทกันมาก เคารพปลัด พม.เสมือนพ่อ
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเจนจีรา บุญสมบัติ ชื่อเล่น กาวา ค่ะ หนูทำงานอยู่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำงานมาที่นี่ประมาณสี่ปีกว่า และเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการรายงานอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพิการ ซึ่งเป็นงานที่มีความสำคัญมากต่อประเทศไทยเรา ในการทำงานครั้งนี้เราต้องทำงานกันเป็นทีมงานร่วมกันกับผู้แทนที่เกี่ยวข้อง และทางผู้ใหญ่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเฉพาะท่านปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ท่านได้มองเห็นความสำคัญในประเด็นเรื่องคนพิการ และการทำรายงานครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่การเตรียมการและการเดินทางเข้าร่วมการรายงานต่อคณะกรรมการอนุสัญญาอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ ทุกท่านในคณะทำงานได้ร่วมกันทำงานกันอย่างหนักตลอดทั้งกระบวนการจนทำให้การทำงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
อย่างไรก็ตาม หนูได้รับข่าวสารที่กระจายอย่างรวดเร็วเรื่องการล้อเลียนคนพิการในที่ประชุม หนูจะขอเรียนให้ทราบว่า ข่าวนี้ได้บิดเบือนความจริงที่สุด และทำให้ผู้ใหญ่ที่หนูเคารพที่สุดเหมือนคุณพ่อของหนูอีกท่าน ที่คอยดูแล และเอาใจใส่เราตลอดเวลาที่เดินทางด้วยกัน ได้รับความเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก และไม่สบายใจเลยกับการกระทำของตัวท่านเอง เพราะท่านเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ท่านมีความตั้งใจที่จะให้โอกาสข้าราชการเด็กรุ่นใหม่อย่างเรา
ดังนั้นท่านจึงมีความตั้งใจที่จะแสดงศักยภาพของเราให้ผู้อื่นได้เห็นว่าเราประสบความสำเร็จแค่ไหนถึงแม้ว่าเราตัวเล็ก และทุกคนท่านในคณะผู้แทนได้มีการยิ้มรับเพราะว่าทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านพูด เนื่องจากหนูเป็นเด็กที่สุดและมีบุคลิกขี้เล่นในคณะผู้แทน ทุกท่านจึงให้ความรัก ความเอ็นดู และให้ความสนิทเป็นพิเศษค่ะ
ขออย่าให้ในสิ่งที่เห็นเป็นเครื่องตัดสินใจและทำลายความตั้งใจของท่านผู้ใหญ่ที่พร้อมให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่อย่างหนู ในโอกาสนี้ หนูขอขอบคุณท่านปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะผู้แทนไทยทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำงานจนลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ ทั้งนี้ หนูขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเป็นห่วงในเรื่องนี้ และขอยืนยันว่า หนูไม่ได้ถูกทำให้เป็นตัวตลกเหมือนอย่างที่มีการปล่อยข่าวแต่อย่างใดค่ะ” เจนจีรา ชี้แจง
จำเลยสังคมอ้าง! ไม่ได้ล้อจนน่าเกลียด
ล่าสุด นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทนกระแสสังคมไม่ไหวชี้แจงเหตุผลสั้นๆ ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ว่า ไม่ใช่ความจริง ไม่ได้หยอกล้อผู้พิการจนน่าเกลียดตามที่ถูกกล่าวหา สามารถตอบข้อซักถามของต่างชาติได้ และไทยได้รับคำชื่นชมที่สามารถดูแลสวัสดิภาพผู้พิการได้อย่างดี
เช่นเดียวกับ นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ชี้แจงสั้นๆ ผ่านแอปพลิเคชันไลน์เช่นกันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความเข้าใจที่แตกต่างกัน เราตั้งใจจะยกย่องให้ความสำคัญ แต่การเข้าใจของคนอื่น กลับการเข้าใจว่าเป็นการดูถูก แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่เราจะได้ระมัดระวังมากขึ้น และทำความเข้าใจกับผู้คนทั่วไปเรื่องการแสดงออกต่อคนพิการ
ขอขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Wiriya Namsiripongpun และ Jenjeera Boonsombat
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754