MGR Online - ตำรวจตามรวบ 2 แท็กซี่ทิ้งนักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน หลังว่าจ้างให้ไปส่งที่พัทยา ก่อนจะออกลายปล่อยเหยื่อให้รอขณะเติมแก๊สแล้วหลบหนี พร้อมทรัพย์สิน อ้างจะนำไปส่งคืนผ่านทาง สวพ.91 เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ-รับของโจร
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.15 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.เธียรธวัช อรรจนะเวทางค์ รอง ผกก.6 พ.ต.ท.สุรชัช สุวรรณศรี รอง ผกก.6 พ.ต.ท.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ สว.กก.6 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ทท.และ นายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการขนส่งทางบก ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโกวิทย์ สมพัด อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 132 หมู่ 1 ต.ป่าสังข์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด และ นายชูศักดิ์ บุดดา อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 111/626 ซ.ช่างอากาศอุทิศ 27 แยก 4-5 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางกระเป๋าเดินทางของผู้เสียหาย ด้านในมีเสื้อผ้าและเงินสกุลต่างประเทศ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2559 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ทท.รับแจ้งจากสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 ราย ถูกผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทิ้งระหว่างเติมแก๊สภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.กิ่งแก้ว (ฝั่งตรงข้าม รพ.จุฬารัตน์ 9) จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบ นายโมชตาห์ ฮูสเซน (Moshtagh Hossein) อายุ 42 ปี และนายโมฮัมหมัดเดรซา เฮดารี โมกัสดัม (Mohammadreza Heidari Moghaddam) อายุ 43 ปี ทั้งคู่เป็นชาวอิหร่าน ให้การว่า ได้เรียกรถรถแท็กซี่ป้ายแดง ทะเบียน ก 9647 กทม. จากซอยนราธิวาส 6 เขตสาธร กรุงเทพฯ เพื่อโดยสารไปพัทยา จ.ชลบุรี ในราคาเหมาจ่ายค่าเดินทางเป็นเงิน 1,400 บาท รวมค่าทางด่วน และให้จ่ายก่อนถึงปลายทาง โดยคนขับแท็กซี่ขับพาขึ้นทางด่วนมาลงที่แยกบางนา วิ่งตามถนนบางนา-ตราด มาเข้าถนนกิ่งแก้ว และขอแวะเติมแก๊ส ที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวในช่วงเวลาที่รอคิว ผู้เสียหายทั้ง 2 คน จึงไปดื่มกาแฟที่ร้านค้าภายในปั๊มประมาณ 20 นาที เดินกลับมาก็ไม่เจอรถและคนขับ จึงโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากมีทรัพย์สินหลายรายการติดไปกับรถแท็กซี่ด้วย โดยผู้เสียหายได้ถ่ายรูปรถแท็กซี่ไว้
ทางชุดสืบสวนจึงตามแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์ที่ติดอยู่ท้ายรถแท็กซี่คันดังกล่าว จนทราบว่ามีนายโกวิทย์ สมพัด เป็นผู้ขับขี่ในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุ โดยเช่ารถมาจากอู่แท็กซี่ไม่มีชื่อ ซอยพหลโยธิน 48 แยก 21 จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ ระหว่างทางพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับอยู่ในซอยพหลโยธิน 48 จึงได้เรียกให้จอดรถ และแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบ พบว่านายโกวิทย์เป็นคนขับ และยอมรับว่าวันเกิดเหตุได้รับผู้โดยสารชาวอิหร่านทั้ง 2 คนมาจริง และได้เก็บทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวผู้เสียหายทั้งสองไว้ในบริเวณห้องเช่าของตนภายในซอยสุขเสมอ เตรียมจะนำส่งคืน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางเข้าตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าว พบนายชูศักดิ์อยู่ในห้องด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้เสียหาย ปรากฏว่าของทั้งหมดไม่ได้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมส่งคืนแต่อย่างใด โดยเสื้อผ้าถูกนำออกจากกระเป๋าเดินทางแบ่งแยกเก็บไว้ตามจุดต่างๆ ของห้อง ส่วนเงินนายชูศักดิ์ได้เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ซึ่งอยู่ในกางเกงที่สวมใส่อยู่ โดยทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้ทอดทิ้งผู้โดยสาร แต่หากันไม่เจอจึงนำกระเป๋ากลับขึ้นห้องพักเตรียมนำส่งคืนผ่านทาง สวพ.91 ในวันรุ่งขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีนายโกวิทย์ในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ, ใช้รถที่ยังมิได้จดทะเบียนโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และขับขี่รถโดยใบอนุญาตขับขี่สิ้นสุด โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และดำเนินคดีนายชูศักดิ์ในข้อหารับของโจร ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.บางแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป