MGR Online - คุณตา จนท. รดน้ำต้นไม้ บ.เอ็มไทย วัย 62 ปี พาหลานชายวัย 7 ปี ขึ้นรถบรรทุกน้ำติดไปที่ทำงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอ็มไทย เนื่องจากเป็นวันหยุด เกิดซุกซนปีนขึ้นหลังคารถก่อนตก ศีรษะกระแทกพื้นเป็นแผลฉกรรจ์ รีบนำตัวส่ง รพ. แต่ช่วยไม่ทันเสียชีวิตในที่สุด ด้าน ตำรวจเตรียมสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากการประมาทหรือสุดวิสัย
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.ธีรวัฒน์ ศรีสุข ร้อยเวร รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางเสาธง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเด็กตกจากหลังคารถบรรทุกน้ำ ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอ็มไทย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสถูกนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 5 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.ท.ปราการ จงประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บางเสาธง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงห้องฉุกเฉินของ รพ.จุฬารัตน์ 5 พบศพ ด.ช.อรรถชัย สบายดี อายุ 7 ปี สภาพศพเป็นแผลฉีกขาด กะโหลกแตกกลางศีรษะ สอบสวน นายสังวาลย์ สบายดี อายุ 62 ปี เลขที่ 44/1 หมู่ 15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ให้การว่า ตนเป็นตาของ ด.ช.อรรถชัย สบายดี หรือ น้องเปา อายุ 7 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเรียนอยู่ที่ ร.ร.คลองเจริญราฏร์ ชั้น ป.1 โดยตนทำหน้าที่เป็นคนงานของบริษัท เอ็มไทย จำกัด มีหน้าที่รดน้ำต้นไม้ และสนามหญ้าในบริเวณวงเวียนนิคมอุตสาหกรรมเอ็มไทย หมู่ 1 ต.บาเสาธง และวันนี้ได้พาน้องเปา ซึ่งเป็นหลานขึ้นรถยนต์ 6 ล้อบรรทุกน้ำ สีเขียว ไม่มีทะเบียน มาด้วย เนื่องจากเป็นวันหยุด
นายสังวาลย์ กล่าวอีกว่า ขณะที่จอดรถเพื่อรดน้ำต้นไม้ตามปกติที่วงเวียนนั้น ตนได้ลากสายยางออกมารดน้ำต้นไม้ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากคนงานที่ผ่านมาเห็น ร้องตะโกนบอกว่า หลานของตนได้ตกมาจากด้านบนของหลังคารถบรรทุกน้ำที่ตนได้พานั่งมาด้วยความสูงประมาณ 2 เมตร ตนจึงวิ่งไปดูพบว่าที่ศีรษะของน้องเปามีแผลฉกรรจ์ลึก เลือดไหลนอง และสลบไป ตนจึงนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 5 ที่อยู่ใกล้จากจุดเกิดเหตุ โดยแพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตน้องเปาอย่างสุดความสามารถ แต่คาดว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ด้วยความเป็นเด็กอาจจะซุกซนปีนขึ้นไปบนหลังคารถ โดยที่นายสังวาลย์ไม่ทันได้สังเกต และพลาดหล่นลงมากระแทกกันชนเหล็กด้านท้ายของรถบรรทุก จนเกิดบาดแผลใหญ่ที่ศีรษะและทนบาดแผลไม่ไหวทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย หรือประมาท หากพบว่าประมาทก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป