xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนญี่ปุ่น-ฮ่องกง เตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SET คาดเริ่มเชื่อมั่น ศก.ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลท.เผยผลโรดโชว์ญี่ปุ่น-ฮ่องกง นักลงทุนสนใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุนจากผลประกอบการ บจ.ไตรมาส 1/59 เติบโตได้ดี และแนวโน้มจีดีพีของไทยเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นชัดเจน และในช่วงครึ่งปีหลังยังจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย ขณะที่การเมืองเดินหน้าตามแผนโรดแมป ซึ่งประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสำคัญ คือ เรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การเดินทางไปโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่ฮ่องกง และญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24-27 พ.ค.59 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และนักลงทุนให้ความสนใจที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมายังประเทศไทยมากขึ้น จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยในช่วงไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมา มีการเติบโตได้ดี

ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นหลังไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยเติบโตกว่าที่คาด และในช่วงครึ่งปีหลังยังจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย จากก่อนหน้านี้ ได้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไปค่อนข้างมาก

สำหรับในประเด็นที่นักลงทุนให้ความสำคัญหลักๆ คือ เรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งทาง ตลท.นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และอีกประเด็น คือ การเมืองในประเทศ ซึ่งได้นำเสนอว่าจะเป็นไปตามโรดแมปที่ภาครัฐวางไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปี 60

“การมาโรดโชว์ครั้งนี้เราได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก ถึงกับต้องเพิ่มรอบการเข้าพบกองทุน เป็นผลจากความแข็งแกร่งของ บจ.ไทย และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี นอกจากนี้ เรายังได้ชูประเด็นที่ทางรัฐบาลไทยจะมีการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับ บจ.ที่ร่วมในการไปโรดโชว์ครั้งนี้มี 12 บริษัท ร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนในรูปแบบการประชุม one-on-one และ small group ได้แก่ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (DELTA) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมกันประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ 25 พ.ค.2559) โดยมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้าร่วมจำนวน 47 กองทุน และมีจำนวนการประชุมทั้งสิ้น 237 ประชุม

ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลท.เตรียมเดินทางโรดโชว์เพิ่มเติมอีก ได้แก่ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4
กำลังโหลดความคิดเห็น