บล.เอเชียเวลท์ มองภาพรวม SET Index สัปดาห์นี้อยู่ในกรอบ 1,378-1,404 คาดราคาน้ำมัน และผลประกอบการ บจ.ยังชี้นำตลาดหุ้น พร้อมฟันธง กนง.มีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% และยังไม่น่ามีการประกาศมาตรการกระตุ้น ศก.ด้านการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการออกมาตรการด้านการคลังเป็นจำนวนมากผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งยังจะดำเนินต่อไปอีก
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า บริษัทมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ในสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,378-1,404 จุด โดยมีความผันผวน และอาจมีการปรับตัวลดลงจากปัจจัยบวกที่ยังมีน้อย ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นที่มีเรื่องราวชัดเจน มีปัจจัยทางเทคนิคมาสนับสนุน และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง
สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นโลก ด้านตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (Non-farm payroll) ออกมามีนัยสำคัญที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้น โดยตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดหุ้น Wall street ปรับตัวลงในช่วงแรก แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียด อัตราเฉลี่ยค่าจ้างงานรายชั่วโมง และรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นดีตามคาด ตัวนี้สำคัญ เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญต่อตัวเลขนี้มาก เนื่องจากบ่งชี้ถึงสภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มขยับตัวขึ้น ทำให้โดยรวมไม่ได้เลวร้ายนัก แต่ก็ไม่ได้ดีจนต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย จึงได้ส่งผลให้ตลาดหุ้น Wall street บวกขึ้นเล็กน้อย นอกจากนั้น ที่หุ้นสหรัฐฯ ยังเดินหน้าไม่ได้เต็มที่ก็เนื่องจากตลาดกลับมามีความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีก
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ วันที่ 11 พ.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และยังไม่น่ามีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมา มีการออกมาตรการด้านการคลังเป็นจำนวนมากผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายของรัฐบาลซึ่งยังจะดำเนินต่อไปอีก ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการเพิ่มเติมอีก
นอกจากนี้ ในวันที่ 13 พ.ค. จะมีตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 1/59 ของกลุ่มยูโรโซนออกมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตลาดจับตามองเช่นกัน ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และไทยยังเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดด้วย
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ แนะนำหุ้น บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) จากความคาดหวังการฟื้นตัวของผลประกอบการในปีนี้หลังจากเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในเชิงบวกตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเริ่มฟื้นตัวเป็นครั้งแรกในเดือน ธ.ค.58 ที่ผ่านมา และสูงขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 1 ปีนี้
นอกจากนั้น ผลประกอบการของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ในธุรกิจซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างงวดไตรมาส 1/59 ล่าสุด ที่ประกาศออกมาเห็นการฟื้นตัวช่วยสะท้อนมุมมองว่า SCCC จะสามารถฟื้นตัวตามได้ การฟื้นตัวของ SCCC จะเริ่มชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังจากการเร่งรัดโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ซึ่งจะช่วยหนุนให้เกิดความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ยังคงมีแนวโน้มสดใสในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV จากแผนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่ยังขาดแคลนในประเทศที่กำลังเติบโตเหล่านี้
ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิของ SCCC ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว YoY ก่อนจะฟื้นตัวเต็มที่ในปีหน้า 12% YoY ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะมีการปรับประมาณการกำไรขึ้น หลังจากบริษัทฯ ประกาศผลประกอบการออกมา ราคาหุ้นปัจจุบันยังมีความน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ระดับ PER ปีนี้ที่ 14.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต 5 ปี ที่ 20.0 เท่า และยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.6% ต่อปี ด้านราคาเป้าหมายปี 59 ตามปัจจัยพื้นฐานที่ 360.60 บาท