MGR Online - ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ หน้าตลาดสดพิชัยหัว ถ.ท่าน้ำปากเกร็ด วอด 8 คูหา ก่อน จนท. ระดมรถดับเพลิงร่วม 10 คัน เข้าระงับเหตุ หนึ่งในผู้เสียหายเผย บ้านของตนได้รับความเสียหายน้อยสุด เชื่อ เพราะบารมีของในหลวง เนื่องจากบริเวณชั้น 2 ได้ติดพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ตลอด ด้าน พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 พ.ค. 59 ร.ต.อ.ภาณุรัตน์ หะรังศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ บริเวณหัวถนนท่าน้ำปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยนายสมยศ ศิลปีโยดม นายอำเภอปากเกร็ด พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธ์วงศ์ ผกก. นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด พร้อมด้วยรถน้ำดับเพลิง จำนวน 10 คัน มาอำนวยการดับไฟ
พบเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ 2 ชั้น ปลูกเรียงรายกันหลายสิบคูหาหน้าตลาดสดพิชัย มีเพียงกลุ่มควันหนาแน่นที่ลุกไหม้อยู่บนชั้นสองของอาคาร โดยมีกลุ่มควันเกิดขึ้นที่ร้านขายทอง แต้มั่งเชียง เลขที่ 300 ก่อนลุกลามไปยังเลขที่ 301 302 303 304 305 306 307 รวม 8 คูหา บริเวณชั้นบนของอาคารทั้งหมดได้รับความเสียหายทั้งชั้น
นางสิริญา นามพันธ์ เจ้าของร้านถ่ายภาพ “ล.เจริญศิลป์” เลขที่ 307 กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยเสียงอันสั่นเครือน้ำตาคลอ ว่า ที่ร้านของตนเองได้รับความเสียหายน้อยที่สุด ส่วนมากจะเป็นน้ำที่ฉีดกลุ่มควันที่พวยพุ่งอาคารที่เกอดเหตุ “ตนเองเชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปกป้องไม่ให้ร้านตนโดนไฟไหม้ในครั้งนี้ เนื่องจากบริเวณหน้าต่างบนชั้นสองตนเองได้ติดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านไว้ตลอดเวลา จึงคาดว่าเป็นเพราะพระบารมีที่ทรงปกป้องดิฉันและร้านถ่ายภาพเอาไว้ในครั้งนี้”
ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ เพื่อยืนยันว่าต้นเพลิงมาจากร้านไหนกันแน่ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างบอกว่าไม่ใช่มาจากร้านตน ส่วนอาคารทั้งหมดนั้นถือเป็นอาคารเก่าแก่ที่ปลูกมานานกว่า 30 ปี แล้ว บริเวณชั้นบนจะเป็นแผ่นยิปซัมติด ๆ กันทุกอาคารเมื่อเกิดเปลวไฟจึงมักลามไปติดอาคารใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่มีระบบสายไฟที่เก่าแก่ในแต่ละอาคาร
