MGR Oline - เยาวชน 16 ปี ก่อเหตุฆ่าสาวพนักงานแนะนำสินค้า บิ๊กซี เมกาบางนา เสียชีวิต ภายในห้องพัก เขตประเวศ เดินทางเข้ามอบตัว สน.อุดมสุข สารภาพก่อเหตุจริง หลังทราบฝ่ายหญิงคบหาแฟนหนุ่มนักบอล ด้านแม่ผู้ตายร่ำไห้ ไม่ปักใจเชื่อคนร้ายรู้จักกับลูกสาว
สืบเนื่องจากกรณี น.ส.อัญชลี หรือ อัน เทียนนาค อายุ 28 ปี พนักงานแนะนำสินค้า ห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาเมกาบางนา ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต ภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ถนนรามคำแหง 2 ซอย 23 แยก 7 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขโมยเอาสร้อยทองหนัก 2 สลึง มือถือซัมซุง 1 เครื่อง พร้อมทั้งรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ แอททราจ สีไทเทเนียม ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ย 8592 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา จากนั้น ตำรวจ สน.อุดมสุข ได้ขออนุมัติหมายจับ ก่อนเร่งออกติดตามคนร้าย ต่อมาเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 14 พ.ค. นายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์คันที่ขโมยไปมาที่ สน.อุดมสุข เพื่อขอเข้ามอบตัว
ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 11.00 น. สน.อุดมสุข นางละมัย คล้ายทอง มารดา น.ส.อัญชลี พร้อมญาติ เดินทางมาเพื่อติดตามคดีการเสียชีวิตของบุตรสาว พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ด้วยว่า ตนทราบเรื่องว่าผู้ต้องหามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน จึงรีบเดินทางมาดูด้วยตนเอง ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อว่าคนร้ายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุตรสาว รวมทั้งสอบถามเพื่อนผู้ตายต่างไม่มีใครรู้จักผู้ต้องหารายนี้ ทราบเพียงว่าได้คบหากับแฟนหนุ่มนักฟุตบอลเท่านั้น และพักอาศัยที่ห้องพักแห่งนี้ได้ประมาณ 5 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ้านเกิดต่อไป
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การอ้างว่า รู้จักและพูดคุยกับผู้ตายผ่านแอปพลิเคชันบีทอล์กมาสักระยะ จากนั้นช่วงต้นดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ และมาพักอาศัยกับพี่สาว ซึ่งห้องพักอยู่ติดกับห้องผู้ตายพอดีแต่เมื่อมาถึงทราบว่าผู้ตายคบหากับแฟนหนุ่มแล้ว จึงหึงหวงเกิดบันดาลโทสะ โดยช่วงก่อเหตุได้หยิบมีดปอกผลไม้ แล้วปีนออกจากระเบียงหลังห้องพี่สาวข้ามไปยังห้องผู้ตาย ซึ่งระยะห่างเพียง 1 เมตร พบว่า ผู้ตายยังมีสติจึงตัดสินใจกระหน่ำแทงบริเวณหน้าอก 5 ครั้ง แต่ผู้ตายพยายามปัดป้องสุดชีวิต จนทำให้ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บมีแผลถูกข่วนที่แขนด้วย ก่อนหลบหนีไปได้ขโมยทรัพย์สินหลายรายการติดตัวไป โดยใช้รถยนต์ของผู้ตายขับไปยัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิด ต่อมาพอทราบข่าว รวมทั้ง ครอบครัวเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวกับตำรวจ จึงเดินทางมาดังกล่าว ส่วนสร้อยคอทองคำ และ โทรศัพท์มือถือ นำไปขายเพื่อเอาเงินไปใช้เที่ยวเตร่จนหมด สำหรับสาเหตุการกระทำครั้งนี้ เนื่องจากหึงห่วงที่ผู้ตายมีชายใหม่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การผู้ต้องหา เนื่องจากพบว่าเคยมีประวัติเกี่ยวข้องคดียาเสพติด และได้ถูกดำเนินการให้เข้าสถานพินิจ จ.บุรีรัมย์ มาแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ผู้อื่น ในเคหสถานเวลากลางคืน พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป