“ณัฐวุฒิ” นำทีม นปช. เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ 8 ผู้ต้องหาผิด พ.ร.บ. คอมฯ มั่นใจ “พีซทีวี” ดำเนินการตรงไปตรงมาพร้อมให้สอบ หลังโดนแฉจ้างผู้ต้องหาบางรายทำเพจป่วน คสช.
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.วิจารณ์ จดแตง และ พ.อ.บุรินทร์ พล.ต.ต.สมบัติ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ผบก.สยศ. พร้อมคณะ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง โดย พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง พบการกระทำการที่เป็นการต่อต้านการทำงานของ คสช. รวมถึงรัฐบาล และ ผู้นำรัฐบาล โดยมีภาพและข้อความถูกเผยแพร่ทางเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ซึ่งข้อความเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ในระดับที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้น มีการยุยงปลุกปั่น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตาม จนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันกระทำผิดดังกล่าว
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาซักถามปากคำ และได้ส่งตัวมามอบให้พนักงานสอบสวนรับไว้ดำเนินคดี โดยทาง พล.ต.วิจารณ์ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ บก.ป. เพื่อดำเนินคดี ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับมอบตัวและควบคุมการสอบสวนดำเนินคดีด้วยตนเอง และทางผู้ต้องหาก็มีความประสงค์จะขอให้ทางสภาทนายความ จัดทนายความเข้ามาร่วมรับฟังการสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดพฤติการณ์นั้น สืบเนื่องจากมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งแบ่งการทำงานออกเป็นขั้นตอน มีผู้บงการ มีผู้รับคำสั่ง มีหัวหน้า มีผู้ปฏิบัติในการทำเว็บเพจขึ้นมา โดยเริ่มจากผู้สั่งการ คือ นายชัยธัช ต่อด้วย นายหฤษฎ์ ที่ทำเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์ และ เพจ ยูดีดีไทยแลนด์ ได้รับคำสั่งจากนายชัยธัช ได้เงินเดือน ๆ ละ 28,000 บาท โดย นายหฤษฏ์ เป็นผู้คัดเลือกข้อมูลกำหนดแนวทางให้ นางณัฏฐิกา ก็จะมีทีมงาน 6 คน ประกอบด้วย นายนพเก้า ซึ่งดูแลเว็บเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” ประกอบข้อความส่งให้ นางณัฏฐิกา มีการสื่อสารถึงกันทางช่องทางพิเศษ โดยจะได้รับเงินเดือน 16,000 บาท
รายต่อมา คือ นายวรวิทย์ จะทำหน้าที่อัปโหลดข้อความเข้าไปในเพจกลุ่มดังกล่าว ได้รับเงินเดือนจากนางณัฏฐิกา ได้รับเงินเดือน 16,000 บาท ส่วน นายโยธิน ทำหน้าที่ตรวจสอบการโพสต์ข้อความในเว็บเพจยูดีดี ไทยแลนด์ ได้รับเงินเดือน 18,000 บาท ต่อไป คือ นายธนวรรธน์ ทำหน้าที่ดูแลเพจพีซทีวี เป็นโปรดิวเซอร์ แต่ไม่ได้รับเงินเดือนจากนางณัฏฐิกา เนื่องจากมีหนี้สินต่อกัน จึงทำงานใช้หนี้แทน ขณะที่ นายศุภชัย ทำหน้าที่ดูแลเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” เช่นกัน มีหน้าที่ตัดต่อรูปและส่งต่อข้อมูลให้นางณัฏฐิกา เพื่อโจมตีการทำงานของ คสช. ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 17,000 บาท
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวอีกว่า สำหรับ นางณัฏฐิกา ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” และเป็นแอดมินเพจ ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ เว็บเพจ จตุพร พรหมพันธุ์ (Jatuporn Prompan), พีซทีวี (Peace TV.), เรารัก พล.อ.ประยุทธ์, ยูดีดี ไทยแลนด์ (UDD Thailand), เรด อินเทลิเจนซ์ (Red intelligence) และ เรด เดมอคเคซี่ (Red democracy) นอกจากนี้แล้ว ยังรับจ้างทำเว็บเพจให้กับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยได้รับค่าจ้างจากนายหฤษฏ์ เดือนละ 110,000 บาท แล้วนำมาแจกจ่ายให้สมาชิกตามที่ระบุไว้ โดยจะเหลือเงินไว้ใช้จ่ายจำนวน 25,000 บาท
“พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ร้องทุกข์ บันทึกซักถามต่าง ๆ ที่ทหารส่งมา และสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด อย่างไรก็ดี ในส่วนของ นายหฤษฏ์ และ นางณัฏฐิกา นั้น จากการตรวจสอบเว็บเพจส่วนบุคคล ยังพบว่า มีการกล่าวก้าวล่วงไปยังสถาบันเบื้องสูง ซึ่งทาง พล.ต.วิจารณ์ ได้พิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกด้วย”
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวและว่า การดำเนินการทั้งหมดทำอย่างรัดกุม และเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะคุมตัวไปขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไป
จากการสอบสวน นายกัณสิทธิ์ ให้การรับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ขณะที่ในส่วนของจำนวนเงินที่ผู้ต้องได้รับเป็นค่าจ้างนั้น ทุกคนให้การรับสารภาพว่ารับเงินเป็นทอด ๆ จริง แต่จำนวนไม่ตรงกับที่มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีเพียงนายหฤษฏ์เพียงคนเดียว ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้างใด ๆ ทั้งสิ้น
นางณัฏฐิกา กล่าวว่า ส่วนของค่าจ้างที่อ้างว่าตนได้รับนั้น ยืนยันว่า ตนรับเงินจริง แต่รับจากบริษัท พีซทีวี ในการดูแลเพจ จตุพร พรหมพันธุ์ (Jatuporn Prompan) และเพจพีซทีวี เป็นจำนวน 20,000 บาทต่อเดือน เท่านั้น ส่วนที่ตนและนายหฤษฏ์ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิด ป.อาญา มาตรา 112 นั้น ตนข้องใจ เพราะตนและนายหฤษฏ์รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก ไม่ได้สนิทสนมกันมาก่อน ซึ่งในการติดต่อกันพวกตนก็ไม่ได้พูดจาก้าวล่วงเบื้องสูงแต่อย่างใด เหตุใดจึงถูกดำเนินคดีหมิ่นสถาบันฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้มีการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการ อย่างน้อย 2 คน ส่วนจะเป็นระดับไหนนั้น อยู่ในสำนวนการสอบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่า หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้ใด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มียกเว้น ส่วนสาเหตุที่เว็บเพจในลักษณะล้อเลียนการทำงานของรัฐบาลมีมานานแล้ว และยังมีอีกหลายเว็บเพจ นั้น แต่ที่เพิ่งจะมาจับกุมและดำเนินคดีในช่วงนี้ ตนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากเป็นการดำเนินการของฝ่ายทหารที่จะเข้ามาร้องทุกข์ให้ตำรวจตรวจสอบและดำเนินคดี อย่างไรก็ดี ในส่วนของตำรวจก็มีหน่วยงาน อาทิ บก.ปอท. ที่จะตรวจสอบและดำเนินคดีในความผิดลักษณะดังกล่าวอยู่แล้ว หรือหากมีผู้ใดพบการกระทำความผิดและจะแจ้งเบาะแสให้ตำรวจก็ยินดี
หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า พวกตนเป็นห่วงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเดินทางมาร่วมหารือกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ พร้อมทั้งเข้าให้กำลังใจกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ามีเพียง 1 ราย ที่รับสารภาพ ส่วนที่เหลือให้การปฏิเสธ โดยในคืนนี้ทั้งหมดจะถูกควบคุมตัวไว้ที่ บก.ป. ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำไปฝากขังต่อศาลทหารในวันที่ 29 เมษายนนี้ อย่างไรก็ดี ทางญาติและทนายความ ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้เพื่อยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ ตนได้สอบถามผู้ต้องหาในระหว่างถูกคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ทราบว่าทั้งหมดไม่ได้ถูกกดดัน หรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
นายณัฐวุฒิ เปิดเผยด้วยว่า ภายหลังได้เข้าเยี่ยมและสอบถามผู้ถูกกล่าวหาแล้วก็ทำให้ตนสบายใจขึ้น ส่วนทางตำรวจได้ชี้แจงว่าขั้นตอนหลังจากส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลทหาร ทางเจ้าหน้าที่ทหารจะไม่เกี่ยวข้อง
ต่อข้อถามถึงแผนผังการกระทำความผิดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำมาแสดง โดยมีการพิจารณาดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และความผิดต่อสถาบันเบื้องสูง นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของข้อกล่าวหาดังกล่าว ตนยังไม่ได้รับทราบรายละเอียดต่าง ๆ จากทางเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ดี ตนคงต้องขอไปตรวจสอบภารกิจของพีซทีวี ที่มีการว่าจ้างผู้ถูกกล่าวหาบางรายในการดูแลเว็บเพจ แต่ตนยังเชื่อว่าการดำเนินการต่าง ๆ ของพีซทีวี เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา สามารถตรวจสอบได้ และเรื่องนี้ปกติทางคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้บริหารสถานี จะปรึกษากันในระหว่างทำงานตลอดเวลา หากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลอะไร ก็สอบถามไปได้ทุกเมื่อ