xs
xsm
sm
md
lg

วัดใจ“บิ๊กแป๊ะ”กล้าทำเพื่อลูกน้อง หัก“ คำสั่งคสช.”คืนความเป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - มีคำถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรีบเร่งดำเนินการเช่นนั้นให้กับตำรวจกลุ่มนี้หรือไม่ ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา ตำรวจที่ได้รับการเยียวยา เหมือนจะเป็นกลุ่มที่ถูกรังเกียจ ถูกกีดกัน ไม่ให้เข้ามาแบ่งโควตา แบ่งเก้าอี้ ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รองผบก.ประจำปี2558 ครั้งนี้

ดูท่าปม “เยียวยา” ตำรวจระดับ “นายพัน” ที่ได้รับการเยียวยาตามมติ อนุกรรมการข้าราชการตำรวจ(อนุ ก.ตร.) เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ชุดที่มีพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.(สมัยนั้น) เป็นประธานอนุกรรมการ ตามหนังสือคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีความเห็นเอาไว้ ยังคงตามหลอน “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ไม่จบไม่สิ้น

แม้จะมีคำสั่ง”หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ที่ 6/2559 เรื่องการคัดเลือก หรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะ ข้อ 1. ให้บรรดาการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกาศคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ หรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนิน การตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.57 จนถึงวันที่คำสั่งมีผลบังคับใช้ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย

น่าจะทำให้ปัญหาต่างๆหมดไป โดยเฉพาะการ “เยียวยา” ตำรวจที่อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ มีมติให้เยียวยากว่า100 ราย เพราะต่างมองว่าเมื่อมีคำสั่ง คสช. ตีตราประทับทุกคำสั่งย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 22พ.ย.57 เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ทุกอย่างก็น่าจะคลอบคลุมถูกต้อง แม้แต่เรื่องการ”เยียวยา”ก็ไม่น่าจะมีข้อยกเว้น

แต่เมื่อคำสั่ง คสช.ดังกล่าว เขียนไว้ในภาพรวมกว้างๆ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงรายละเอียดแต่ละเรื่อง แต่ละราว ทำให้ต่างฝ่ายต่างก็ตีความเข้าข้างตัวเอง และการตีความเข้าข้างตัวเอง ก็ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าหากจะดำเนินการสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อความผิดพลาด และเกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีกันในอนาคต

เช่นเดียวกับ “ก.ตร.” ต่างก็มีความกังวลต่อปัญหา “เยียวยา” ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามที่มีมติเอาไว้จะเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ เพราะอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ชุดที่พล.ต.อ.เอก เป็นประธานอนุกรรมการ มี พล.ต.อ.เขตต์ นิ่มสมบูรณ์ และ พล.ต.อ.เหมราช ธารีไทย เป็นรองประธาน อนุ ก.ตร. ร่วมกับอนุกรรมการ ทั้ง พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พล.ต.อ.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง พล.ต.ท.ธนู ชัยนุกูลศิลา พล.ต.ท.ประกาศ ศาตะมาน พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน และ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เป็นคำสั่งแต่งตั้งจากหัวหน้า คสช.เช่นกัน

และมีมติให้เยียวยาตำรวจที่ร้องทุกข์กลับไปดำรงตำแหน่งเดิม หรือ สน.ที่มีปริมาณงานและคุณภาพงานไม่ต่ำกว่าเดิม ในโอกาสแรกที่มีการแต่งตั้ง โดยทุกกองบัญชาการที่มีตำรวจที่ได้รับการเยียวยา ต้องรับไปดำเนินการแต่งตั้งทันที่ตามมติของ อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ เพราะในคำสั่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามดังกล่าวได้ให้อำนาจหน้าที่ อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ชุดนี้มีอำนาจหน้าที่ทำการแทน ก.ตร.ในเรื่องเกี่ยวกับการร้องทุกข์ของข้าราชการตำรวจอย่างเด็ดขาดนั่นหมายถึงเมื่อ อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ชี้ให้เยียวยา ก็เป็นอันจบขั้นตอน กองบัญชาการต่างๆต้องรับไปปฏิบัติ

ที่สำคัญการยื่นเรื่องร้องทุกข์ของเหล่าตำรวจดังกล่าว ก็ไม่ได้ร้องเรื่องคำสั่งแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นคำสั่งไม่ถูกต้อง หรือขอให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง แต่เป็นการร้องทุกข์ว่าได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม จน อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ที่พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งขึ้นมีการพิจารณารายละเอียดข้อมูลและมีมติให้ได้รับการ”เยียวยา”

ในการประชุม ก.ตร.ช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จึงมอบหมายให้พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร รองผบ.ตร. ในฐานะประธาน อนุ ก.ตร.กฎหมาย นำเรื่องที่ อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ มีมติให้เยียวยาตำรวจนั้น คำสั่ง คสช.ที่ 6/2559มีผลมาหักล้างได้หรือไม่

กระทั้งล่าสุดต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อนุ ก.ตร.กฎหมาย ที่มี พล.ต.อ.ชัยยง นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ประชุมกรรมการ ร่วมกับ กองคดี กองอุทธรณ์ สำนักงานกฎหมายและสอบสวน ตัวแทนนักกฎหมาย ตัวแทนกฤษฎีกา เพื่อหารือประเด็นดังกล่าว ได้ข้อสรุป มติ อนุ.ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ที่มีมติให้เยียวยาตำรวจนั้น คำสั่ง คสช.ที่ 6/2559ไม่มีผลมาลบล้างมติ

ว่ากันว่าผลการประชุมดังกล่าว อนุ ก.ตร. กฎหมาย ได้รายงานให้ ผบ.ตร. ทราบแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้ ตำรวจที่ได้รับการเยียวยาน่าจะ เฮ!!!!กันดังๆ หลังมีกระแสข่าวในทำนองให้สิ้นหวัง ไร้กำลังใจมาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนเสียงเฮ!!! ของเหล่า “นายพัน” ที่ได้รับการเยียวยา ซึ่งต่างมีความหวังจะได้รับการแต่งตั้งกลับคืนตำแหน่งเดิม หรือหน่วยงานเดิมตามติ อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง สารวัตร(สว.)-รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ประจำปี 2558 ที่มีกำหนดดำเนินการแต่งตั้งตลอดช่วงเดือนเม.ย.นี้ และคำสั่งมีผลพร้อมกับในวันที่ 29 เม.ย.2559

มีโอกาส เฮ...เก้อ สูง!!! เพราะตามไทม์ไลน์การแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพัน” ที่มีการเคาะเอาไว้ วันจันทร์ที่ 11 เม.ย.บช.จะส่งรายชื่อผู้ที่ไม่ครบ 2 ปี และกรณีที่ต้องขอรับความเห็นชอบหรือขออนุมัติจาก ก.ตร. และวันจันทร์ที่ 18เม.ย.บช.จะรับทราบผลกรณีดำรงตำแหน่งไม่ครบ 2 ปี วันอังคารที่ 26 เม.ย.จะรับทราบผลการพิจารณาจาก ก.ตร.และจัดทำคำสั่ง ถัดมาวันพุธที่ 27 เม.ย.ผบช.ก็มีคำสั่งแต่งตั้ง เพื่อให้มีผลบังคับใช้วันที่ 29 เม.ย.แล้ว

ไม่มีช่วงเวลาใดให้แทรกเรื่อง “เยียวยา” เข้าไปในระยะเวลาการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เลย เพราะความเห็นของ อนุ ก.ตร.กฎหมาย ชุดพล.ต.อ.ชัยยง นอกจาก ผบ.ตร.จะต้องพิจารณาแล้ว ต้องให้ ก.ตร.รับทราบผลการพิจารณาด้วย เมื่อยังไม่มีการนำเรื่องเสนอที่ประชุม ก.ตร. ความเห็นดังกล่าวก็ยังไม่มีผลใด

ยกเว้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะเร่งเปิดประชุม ก.ตร.วาระพิเศษ เพื่อเสนอความเห็นเรื่องการเยียวยาให้ ก.ตร.พิจารณา และแจ้งให้ บช.ทราบเพื่อนำรายชื่อตำรวจที่ได้รับมติเยียวยาไปดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายในบัญชีการแต่งตั้งของแต่ละกองบัญชาการ

แต่มีคำถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรีบเร่งดำเนินการเช่นนั้นให้กับตำรวจกลุ่มนี้หรือไม่ ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา ตำรวจที่ได้รับการเยียวยา เหมือนจะเป็นกลุ่มที่ถูกรังเกียจ ถูกกีดกัน ไม่ให้เข้ามาแบ่งโควตา แบ่งเก้าอี้ ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รองผบก.ประจำปี2558 ครั้งนี้

คงต้องจับตาและวัดใจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะแสดงความเป็นผู้นำ ปกป้อง ดูแล ให้ความเป็นธรรม “ลูกน้อง”แค่ไหน หรือจะเป็นแค่ ผบ.เสียทรง เสียหลัก อย่างที่ถูกตั้งฉายา.

มีคำถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรีบเร่งดำเนินการเช่นนั้นให้กับตำรวจกลุ่มนี้หรือไม่ ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา ตำรวจที่ได้รับการเยียวยา เหมือนจะเป็นกลุ่มที่ถูกรังเกียจ ถูกกีดกัน ไม่ให้เข้ามาแบ่งโควตา แบ่งเก้าอี้ ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รองผบก.ประจำปี2558 ครั้งนี้

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น