3 โจร “แก๊งอโศก” สิ้นท่าถูกตำรวจรวบคาถนน หลังก่อเหตุกระชากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวอินเดีย สารภาพก่อเหตุมาแล้วกว่าร้อยครั้ง โดยชักชวนพวกที่เหลืออยู่กลับมาตั้งทีมวิ่งราวฯ หลังสมาชิกคนอื่นถูกจับไปหมดก่อนหน้านี้
วันนี้ (6 เม.ย.) เวลา 22.00 น. ที่ สน.ดินแดง พ.ต.ท.วัชรชัย โฉมยา รอง ผกก.ป.สน.ดินแดง พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ดินแดง ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ศรีส่อง รอง สวป.สน.ดินแดง และ พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมตำรวจฝ่ายปราบปราม ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ร่วมกันจับกุมตัว นายสุรชิต อินทะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/25 ซอยชุมชนอโศก ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. นายเอกชัย สร้อยธรรมมา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/67 ซอยชุมชนอโศก ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. และ นายวรชน หรือแน็ค หุ่นทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/67 ซอยชุมชนอโศก ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเป็นสมาชิก “แก๊งอโศก” ตระเวนวิ่งราวทรัพย์ชาวต่างชาติ พร้อมของกลางกระเป๋าสตรีสีดำ 1 ใบ ต่างหูเพชร 1 คู่ มูลค่า 1 แสนบาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เอส สีทอง 1 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 4 กย 3144 กรุงเทพมหานคร และจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 กข 4735 กรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงค่ำ วันนี้ (6 เม.ย.) ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแยกใต้ด่วนดินแดงว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 2 รายถูกคนร้ายเป็นชาย 2 ราย ทราบชื่อนายสุรชิต และนายเอกชัย ขับขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว กระชากกระเป๋าสะพายภายในมีทรัพย์สินต่างหูเพชร 1 คู่ มูลค่า 1 แสนบาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เอส สีทอง 1 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท ไป ขณะนั่งโดยสารอยู่บนรถตุ๊กตุ๊กเพื่อกลับโรงแรม โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณปากซอยราชปรารภ 14 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. จากนั้นขับขี่จักรยานยนต์หลบหนี แต่ทว่ามีตำรวจ สน.ดินแดงปฏิบัติหน้าที่ใกล้เคียงจึงขับขี่ไล่ตามพร้อมแจ้งวิทยุมา
จนต่อมาบริเวณก่อนถึงจุดตรวจของ สน.ดินแดง ภายในซอยหมอเหล็ง คนร้ายทั้งสองจึงขับขี่หลบหนีไปรับคนร้ายอีกรายทราบชื่อ นายวรชน ที่รออยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ถนนราชปรารภ นั่งซ้อนสามมาจนถึงแยกหน้าสำนักงานเขตห้วยขวาง ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งมีตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งจุดสกัดจับอยู่ทำให้สามารถจับกุมนายเอกชัยไว้ได้พร้อมจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ส่วนคนร้ายอีก 2 รายได้วิ่งหลบหนีไปจี้ขู่บังคับชิงจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟที่มีประชาชนขับสัญจรอยู่บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 14 แล้วขับขี่หลบหนีอีกครั้ง ทำให้ทางตำรวจ สน.ดินแดง บางส่วนเร่งติดตาม ขณะคนร้ายทั้งสองขับขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีมาเฉี่ยวชนรถที่สัญจรบริเวณถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แยก 8 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. จนตำรวจ สน.ดินแดง สามารถติดตามจับกุมไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลางที่พบมาสอบสวนที่ สน.ดินแดง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนไม่มีอาชีพทำเป็นหลักแหล่งจึงตั้งแก๊งที่มีชื่อว่า “แก๊งอโศก” ที่เคยออกอาละวาดตระเวนวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เคยเป็นข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ แต่ระยะหลังถูกจับกุมไปเกือบหมดแล้ว โดยนายวรชน หรือแน็ค ชักชวนเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมกันตั้งก๊วนตระเวนวิ่งราวทรัพย์อีกครั้ง ก่อนก่อเหตุพวกตนได้วางแผน มีนายวรชน หรือแน็ค เป็นผู้สั่งการให้อีก 2 คนขับขี่จักรยานยนต์ไปตระเวนหาเหยื่อตามท้องถนน กระทั่งพบเหยื่อทั้งสองจึงลงมือก่อเหตุหลังจากนั้นได้หยิบทรัพย์สินในกระเป๋าแล้วทิ้งกระเป๋าใบดังกล่าวลงบึงมักกะสัน ก่อนมารับนายวรชนจะมารอที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว แต่ทว่ามาถูกจับกุมเสียก่อน
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายวรชน และนายสุรชิต รับสารภาพว่าก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วเป็นร้อยครั้ง ส่วนนายเอกชัยรับทำมาเพียง 10 กว่าครั้ง ส่วนใหญ่ในท้องที่ สน.ลุมพินี สน.ทองหล่อ สน.ปทุมวัน สน.บางรัก และ สน.พญาไท โดยมักเลือกเหยื่อที่เป็นชาวต่างชาติที่เดินเที่ยวหรือโดยสารรถ เนื่องจากไม่ระมัดระวังตัว และไม่ค่อยแจ้งความดำเนินคดี ส่วนทรัพย์สินที่ได้จะนำไปใช้เอง และเงินสดจะนำไปใช้เที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่านายวรชนมีหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 2 หมาย นายสุรชิตมีหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 1 หมาย
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลการจับกุมอีกครั้ง หากผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายกลุ่มนี้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวสามารถเดินทางเข้าอายัดตัวได้ที่ สน.ดินแดง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อหลบหนีให้พ้นการจับกุม ต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ต่อนายสุรชิต และนายวรชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป