MGR Online - ครอบครัวนักเรียนสาววัย 16 ปี จากสุราษฎร์ธานี โดนรถกระบะชนเสียชีวิตหลังอุบัติเหตุ จยย.ล้ม กลับตกเป็นผู้ต้องหาไม่ได้สิทธิเยียวยา เข้าร้องกระทรวงยุติธรรม น้าผู้เสียชีวิตเผยหลานถูกใส่ร้ายเพราะเป็นคนซ้อนท้ายไม่ใช่คนขับ จยย. ที่เกิดเหตุมีกล้อง ตร.กลับอ้างว่าภาพไม่ชัด
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ชั้น 8 สำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ น.ส.ราตรี รัตนชัย อายุ 40 ปี มารดา พร้อมด้วยนายบรรหาร รัตนชัย อายุ 37 ปี น้าชาย และ น.ส.สุดาทิพย์ รัตนชัย อายุ 29 ปี น้าสาวของ น.ส.วิลาวรรณ หลีดลหมาน อายุ 16 ปี เข้าขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลัง น.ส.วิลาวรรณ ถูกรถยนต์ชนเสียชีวิตแต่กลับตกเป็นผู้ต้องหา ส่งผลให้ไม่ได้รับสิทธิในการเยียวยาค่าเสียหาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
นายบรรหารกล่าวว่า วันเกิดเหตุเวลา 19.00 น. หลานสาวพักผ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 37 หมู่ 5 ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี มีเพื่อนผู้หญิง 2 คนเป็นพี่น้องกันขี่จักรยานยนต์มาที่บ้านเพื่อชวนหลานสาวตนไปเที่ยวงานวัดคีรีไพรสณฑ์ ห่างจากบ้านพักประมาณ 24 กิโลเมตร นั่งซ้อนท้ายกัน 3 คน มีหลานสาวนั่งซ้อนอยู่ตรงกลาง หลังจากงานวัดเลิกเวลาเกือบเที่ยงคืนและตอนขากลับมีเพื่อนผู้ชาย 2 คนขี่ซ้อนจักรยานยนต์อีก 1 คันร่วมเส้นทางกลับบ้านพร้อมกัน จนกระทั่งจุดเกิดเหตุบริเวณ กม.82 หมู่บ้านบางหมาน จักรยานยนต์คันผู้ชายขับขี่มาจอดส่งเพื่อนที่ซ้อนให้ลงกลับบ้านแต่เกิดอุบัติเหตุ จักรยานยนต์คันผู้หญิงซ้อน 3 คนมาชนท้ายทำให้ล้มทั้งคู่ แต่ รถจักรยานยนต์คันผู้หญิงเกิดล้มไปกลางถนน ซึ่งเพื่อนผู้หญิง 2 คนลุกขึ้นมาหลบริมทางได้ทัน ส่วนหลานสาวตนถูกจักรยานยนต์ทับขาอยู่ลุกขึ้นไม่ได้และก็ถูกรถกระบะ วีโก้ สีดำ ยกสูง ขับอย่างเร็วพุ่งชนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ตนสงสัยว่าทำไมเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันไม่ยอมช่วยเหลือปล่อยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
นายบรรหารกล่าวอีกว่า ส่วนคดีความอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบพยานซึ่งเป็นเพื่อนหลานสาวไป 3 คนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ แต่กลับอ้างว่าหลานสาวของตนเป็นผู้ขี่จักรยานยนต์คันเกิดเหตุ แต่แท้จริงแล้วหลานสาวตนนั่งซ้อนคนกลางไม่ใช่คนขี่ตามคำให้การ ตนจึงคิดว่าเป็นการโยนความผิดให้หลานสาวเพื่อให้คดีจบ อีกทั้งตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบกลับบอกว่าอยู่ระหว่างสืบสวนและมองว่าหากปล่อยไปนานเรื่องจะเงียบหายไป อย่างไรก็ตาม บริเวณจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดประมาณ 4-5 ตัวเชื่อว่าน่าจะสามารถจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ตำรวจกลับบอกว่าภาพไม่ชัดเจน ไม่ให้ความร่วมมือมากนัก
น.ส.ราตรีเปิดเผยว่า ตนไม่ได้ประกอบอาชีพเนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมีลูก 2 คน โดยคนโตเป็นผู้หญิง คือผู้เสียชีวิต กับคนเล็กเป็นผู้ชายยังเล็กอยู่ ฐานะครอบครัวยากจน สำหรับลูกสาวที่เสียชีวิตนั้นเป็นคนเรียนดีและกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.4 ร.ร.พนมศึกษา คาดหวังเป็นอนาคตของครอบครัวแต่สุดท้ายมาเกิดเหตุไม่คาดฝัน และคดียังไม่คืบหน้าจึงเดินทางมาร้องเรียน นอกจากนี้ ตอนงานศพเพื่อนผู้หญิง 2 คนที่นั่งซ้อนจักรยานยนต์ด้วยกันไม่เคยมาร่วมงานเลยมีแต่เพื่อนที่โรงเรียนคนอื่นๆ และอาจารย์มากันเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า เบื้องต้นจะประสานดีเอสไอ ศูนย์ภาคใต้ เพื่อช่วยติดตามหาพยานในคดีซึ่งเป็นเยาวชนและกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนและเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป รวมทั้งเพื่อรักษาสิทธิเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตหากตรวจสอบพบว่าไม่ได้กระทำผิดในคดีนี้