MGR Online - นักท่องเที่ยวจีนร้องตำรวจท่องเที่ยว นั่งแท็กซี่จากลาดกระบังมาข้าวสารเรียกเหม่าจาย 1,000 บ. ก่อนโดดลงเห็นมิเตอร์เห็นราคาแค่ 353 บ. ด้าน ตร. เปิดกล้องวงจรปิดตามตัวจนได้ พบไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
ตำรวจท่องเทียวแถลงข่าวแท็กซี่เรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตราที่ปรากฏบนมิเตอร์ จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ขอความช่วยเหลือมายังศูนย์รับแจ้งความ 1155 จากนั้นตำรวจท่องเที่ยวได้รวบรวมข้อมูล และติดตามตัวผู้ขับขี่ มาดำเนินการเปรียบเทียบปรับ และ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ในข้อหาเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ปรากฏจากมาตรแท็กซี่ จาก 300 เรียกเก็บ 900
โพสต์โดย MGROnline Live บน 4 เมษายน 2016
วันนี้ (4 เม.ย.) เวลา 16.30 น. ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.บวรภพ สุนทร เลขา สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท. พ.ต.ต.กมล จันทร์เพ็ญ สว.ส.ทท.5 กก.1 บก.ทท. และ นายจงกล วีระศิริวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายตรวจการ กองตรวจการขนส่งทางบก ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายกิตติรัตน์ นามเมือง อายุ 47 ปี คนขับรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทษ 7332 กทม. หลังเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินจากมาตรแท็กซี่กำหนด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา น.ส.จาง ม้อ อายุ 25 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน ได้เรียกรถแท็กซี่โดยสารคันดังกล่าว จากตลาดหัวตะเข้ ย่านลาดกระบัง ให้มาส่งยังถนนข้าวสาร กทม. เมื่อ น.ส.จาง ม้อ ขึ้นมานั่งบนรถ คนขับรถแท็กซี่ได้ออกรถทันทีพร้อมกดมิเตอร์โดยสาร ก่อนเรียกเก็บเงินค่าโดยสารในราคาเหมาเป็นเงิน จำนวน 1,000 บาท แต่ น.ส.จาง ม้อ เห็นว่า ราคาแพงเกินไปจึงต่อรองขอลดราคา ด้านคนขับรถแท็กซี่จึงยอมลดให้เหลือ 900 บาท
ขณะที่รถแท็กซี่วิ่งมาได้สักระยะเวลาหนึ่ง น.ส.จาง ม้อ ได้ถามถึงอัตราค่าโดยสารอีกครั้ง ซึ่งคนขับรถแท็กซี่ยังยืนยันจะเรียกเก็บเงิน จำนวน 900 บาทเท่าเดิม กระทั่งรถแท็กซี่ขับผ่านหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก่อนเลี้ยวขวามุ่งหน้าสะพานพระราม 8 เพื่อไปยังถนนข้าวสาร แต่คนขับรถแท็กซี่ได้กลับรถใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งไม่ใช่ที่หมาย น.ส.จาง ม้อ จึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลข 1155 ขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่แนะนำให้ น.ส.จาง ม้อ เข้ามาพบร้อยเวรที่ศูนย์รับแจ้งความ
จากนั้น น.ส.จาง ม้อ จึงขอลงระหว่างทาง ด้านคนขับรถแท็กซี่จึงหยุดรถ และมีสีหน้าไม่พอใจพร้อมเรียกเก็บเงินค่าโดยสาร จำนวน 900 บาท แต่ น.ส.จาง ม้อ จ่ายเงินเพียง 700 บาท เพราะเห็นว่ายังไม่ถึงที่หมาย ขณะเดียวกัน ก่อนลงจากรถ น.ส.จาง ม้อ สังเกตเห็นมิเตอร์แสดงราคาค่าโดยสารเพียง 353 บาท จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว
ต่อมาภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงสืบสวนจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบแท็กซี่คันดังกล่าว โดยมี นายกิตติรัตน์ เป็นผู้ขับขี่ จึงติดตามตัวมาดำเนินคดี โดย นายกิตติรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง พร้อมกับขอแสดงความรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นายกิตติรัตน์ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะอีกด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะ โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินอัตราที่ปรากฏจากมาตรแท็กซี่ โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการผลจับกุมรถแท็กซี่ที่กระทำผิดในข้อหาหลัก ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น จำนวน 1,741 ราย พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยว หากพบแท็กซี่ที่กระทำความผิด หรือถูกเอาเปรียบ สามารถโทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1155 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง