xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” ลั่นไม่หวั่นม็อบพระชงถอดตำแหน่ง มั่นใจทำตามกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - รมว.ยธ.ลั่นไม่กลัวพระเคลื่อนไหวยื่นถอดตำแหน่งปมสมเด็จช่วง มั่นใจยืนอยู่บนความถูกต้องเสมอ บังคับใช้ฎหมายเท่าเทียม เชื่อสังคมมองออกกลุ่มไหนต้องการอะไร ป้องประโยชน์ให้ใคร



วันนี้ (25 มี.ค.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณี สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) เตรียมยื่น 2 หมื่นรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถอดถอน พล.อ.ไพบูลย์ หลังก้าวล่วงสมเด็จช่วงว่า ถ้ากฎหมายมีก็ถอดถอนไป ตามกฎหมายไม่ทราบว่าทำได้หรือไม่ เพราะไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และอย่าเอาตนไปโยงกับกลุ่มเคลื่อนไหวและไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องนี้

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า หากถามประเด็นนี้ตนก็มีจุดยืนของตัวเอง โดยคนที่แต่งตั้งตนมาคือนายกรัฐมนตรี ให้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และท่านก็มีสิทธิ์จะให้ตนอยู่หรือไม่ก็แค่นั้น ไม่จำเป็นต้องมองว่าตนถูกหรือผิด แต่นายกรัฐมนตรีต้องดูในบริบทภาพรวมสอดคล้องกับสถานการณ์อย่างไร และตนจะไม่บ่นอะไรทั้งสิ้น และตั้งแต่มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้บอกหลายครั้งแล้วว่าตนไม่ได้เสนอตัวและไม่อยากเป็น แต่ท่านให้มาช่วยงาน และเมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องมีการปรับไม่ต้องคำนึงว่าตนจะยืนอยู่อย่างไร และไม่ต้องเกรงใจ เพราะท่านต้องมีความจำเป็นในการปรับคณะรัฐมนตรีให้ดีขึ้น รวมทั้งตนได้พูดกับท่านหมดแล้ว ทั้งหมดนี้คือจุดยืนของตน และไม่ขอพูดถึงใครจะมาทำนู่นทำนี่

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า เรื่องนี้สิ่งที่ตนทำงานอยู่คิดว่าภาคประชาสังคมจับตามองอยู่ก็น่าจะรู้และเข้าใจดีว่าใครมีจุดยืนที่เหมาะสมอย่างไร แต่สิทธิตามกฎหมายนั้นใครจะทำอะไรก็ว่ากันไป แต่ว่าประชาชนจะมองว่าใครยืนอยู่ในจุดที่เหมาะสม ในหน้าที่การงานเพื่อมุ่งสู่ประโยชน์ส่วนรวมหรือกลุ่มคณะอย่างไร และเชื่อว่าสังคมน่าจะเข้าใจดีสามารถแยกแยะได้ ทั้งนี้ ตนไม่ได้พูดว่ามีจุดยืนที่มองเห็นตัวเองดีกว่า แต่พูดถึงภาพรวม สังคมจะรู้ว่าคนนี้ทำเพื่อส่วนรวมหรือกลุ่มก้อน หรือแอบอิงผลประโยชน์ จะทำกฎหมายหรือกฎหมู่ เชื่อว่าสังคมมองรู้หมดว่าอะไรคืออะไร นอกจากนี้ ที่ตนพูดอย่างนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าสังคมจะพึงพอใจคำพูดของตนแต่ยืนยันจะพูดอย่างนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ถ้าออกหมายเรียกสมเด็จช่วงเข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่ขอให้สัมภาษณ์ เรื่องนี้ต้องไปถาม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพราะตนจะไม่เข้าไปเชื่อมโยงกับเรื่องต่างๆ

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องการทำคดีใหญ่ๆ จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างหนัก พล.อ.ไพบูลย์กล่าวเพิ่มว่า ตนยืนหยัดเสมอว่าถ้าตนทำชั่ว ใช้อำนาจหน้าที่ในการประพฤติชั่ว เหล่านี้สังคมก็มาวิพากษ์วิจารณ์และสมควรโดนโยกย้าย แต่หากทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าใครทั้งนั้น ตนจะยืนหยัดบนความถูกต้องเสมอ ฉะนั้นคำถามนี้ตอบว่าไม่กลัว ถ้ากลัวก็อย่ามายืนตรงจุดนี้ อย่ามาดูแลกฎหมายทำเรื่องพวกนี้มันไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เดินมาหากระทรวงยุติธรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งตนไม่ได้เรียกร้องให้เรื่องนี้เข้ามาหากระทรวงยุติธรรม แต่กระทรวงยุติธรรมจำเป็นต้องเข้ามาข้องเกี่ยว โดยตนเป็นผู้บังคับบัญชาอยู่และมองเห็นจุดนี้บอกว่าไม่ทำ กระทรวงยุติธรรม และ ดีเอสไอ ไม่ยุ่ง ตนขอถามกลับว่าอันนี้เหมาะสมถูกต้องหรือไม่ที่ปฏิเสธทำคดีนี้ แต่หากรับมาทำแล้วต้องยืนหยัดบนความถูกต้อง กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย

“ผมเข้ามาวันที่ 22 พ.ค. 2557 สิ่งหนึ่งที่สังคมเรียกร้องคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าใครจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนั้นๆ อะไรมีข้อยกเว้นก็ต้องยกเว้นตามกฎหมายนั้นให้เหมาะให้ควร รวมทั้ง ไม่ควรมีใครมีสิทธิเหนือคนอื่นบนพื้นฐานของสถานะทางสังคม ดังนั้น คนที่เข้ามาทำงานในตรงส่วนนี้ต้องกล้ารับผิดชอบและกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง”


กำลังโหลดความคิดเห็น