ตร.ตลิ่งชัน จับมือ ตร.หลักสอง-ทหารกองพันปืนใหญ่ที่ 9 รวบโจ๋วัย 19 ปี หลังร่วมกับพวกก่อเหตุวิ่งราวมือถือ-กระเป๋าในพื้นที่ บก.น.7-บก.น.8 กว่า 10 ครั้ง สอบสวนรับทำไปเหตุหาเงินใช้เที่ยวเตร่ มุ่งเน้นเหยื่อใช้มือถือ-สะพายกระเป๋าไม่ระวัง
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 5 มี.ค. พ.ต.ท.ชัชชัย จักรวิวัฒนากุล รอง ผกก.ป.สน.หลักสอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส.สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 9 ร่วมกันจับกุมตัว นายธีรวัฒน์ อมฤตศักดิ์สิทธิ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ถนนศิริเกษม แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 136/2559 ลงวันที่ 9 ก.พ. 59 ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณด้านหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยเศรษฐกิจ 31-10-3 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.
พ.ต.ท.พงศ์สุรวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 12 พ.ย. 58 ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คนใส่หมวกนิรภัยทั้งคู่ ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแลกซี เอส 6 ของผู้เสียหายเป็นหญิงอายุประมาณ 35 ปี ที่ยืนรอรถประจำทางอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ด้านหน้าวัดมะกอก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน ท้องที่ สน.ตลิ่งชัน ก่อนจะหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายจนสามารถจับกุมหนึ่งในคนร้ายซึ่งทำหน้าที่ขับขี่จักรยานยนต์ตอนเกิดเหตุได้ ทราบชื่อนายชาคร ประเสริฐศักดิ์ อายุ 19 ปี เมื่อเดือน ก.พ. 59 จากนั้นทำการขยายผลจนทราบว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีกคนทำหน้าที่ลงมือกระชากมือถือของผู้เสียหาย จึงขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชันออกหมายจับ จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายธีรวัฒน์อยู่บริเวณหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยเศรษฐกิจ 31-10-3 จึงร่วมกับตำรวจ สน.หลักสอง เจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมตัวได้ ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่านายชาครผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนนั้นได้ร่วมกับนายธีรวัฒน์ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ บก.น.7 และ บก.น.8 มากว่า 10 ครั้ง ในช่วงเดือนก.ค. 58 ถึงประมาณ ก.พ. 59
สอบสวนนายธีรวัฒน์ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ทำอาชีพขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ร่วมกับนายชาคร ที่เป็นวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ย่านเดียวกันออกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยเน้นเหยื่อที่ไม่ระวังขณะใช้โทรศัพท์มือถือ หรือสะพายกระเป๋า เมื่อได้ของมาก็นำไปขายได้เงินแบ่งกันใช้เที่ยวเตร่ ครั้งละประมาณ 8,000-10,000 บาท โดยเริ่มทำตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. 58 จนกระทั่งนายชาครถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ตนจึงตัดสินใจเก็บตัวอยู่บ้านไม่ขับวินจักรยานยนต์ ไม่ออกไปไหน และไม่สุงสิงกับใคร ขนาดจะกินข้าวยังขอให้พ่อแม่ออกไปซื้อให้ จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายธีรวัฒน์ให้พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป