ตะครุบโจ๋วิ่งราวทรัพย์ เลือกเหยื่อสาวใจกลางกรุง

ชุดสืบสวน บก.น.2 ตะครุบตัวโจ๋วิ่งราวทรัพย์แถวป้ายรถเมล์ย่านห้วยขวาง โดยเน้นเหยื่อผู้หญิงเป็นหลัก พบประวัติเคยต้องโทษคดีเสพยาบ้าและลักทรัพย์ และเพิ่งพ้นมาได้ไม่นาน

วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ประยูร ศาลาทอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดิศักดิ์ บุญโทแสง รองผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.พ.ต.ท.วีระพล เจริญวิศาล รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เจษฎาภรณ์ อ่อนทองคำ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุม นายพีรพงศ์ เทียมเมือง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 ซอยอินทรามาระ 22 แขวงและเขตดินแดง กทม. พร้อมด้วยของกลางจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ 5 สมุดบัญชีคุมรายการขายทอดตลาดและค้าของเก่า ของร้านบัสเตอร์โฟน 2 จำนวน 1 เล่ม หมวกกันน็อก รองเท้าแตะ เสื้อยืดสีดำ 1 ตัว กางเกงขาสั้นลายดอกไม้สีแดง 1 ตัว กางเกงขาสั้นสีฟ้าขาว แผ่นป้ายทะเบียนจักรยานยนต์ ทะเบียน 3 กส 1402 กทม. จับกุมได้บริเวณภายในตลาดนัดชานเมือง 2 ซอยชานเมือง 2 แขวงและเขตดินแดง กทม. เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 21.00 น. โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1427/2558 ลงวันที่ 23 มิ.ย. 2558 ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร

พ.ต.อ.ประยูรเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 21.30 น.ได้มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงกาแลกซี่เอ 7 จาก น.ส.นวลจันทร์ พรเพชร อายุ 40 ปี เหตุเกิดบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าบริษัทอัลโน่ ริมถนนพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.แล้วหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนตรสจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายและพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ภายหลังเจ้าหน้าที่ทราบว่านายพีรพงศ์ เทียมเมือง เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว จากนั้นได้ส่งพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาล จากนั้นเจ้าหนเาที่ได้เบาะแสจากสายลับว่านายรพีพงศ์หลบหนีไปอยู่บริเวณชานเมือง 2 ย่านดินแดง จึงติดตามตัวเข้าจับกุมตัวได้พร้อมยึดของกลางที่ตรวจสอบพบจากการกระทำผิด

จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า นายพีรพงศ์เคยก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง ช่วง พ.ค. 2558 จำนวน 1 ครั้ง โดยก่อเหตุบริเวณถนนรัชดาซอย 4 ใกล้แยกเทียนร่วมมิตร ได้ไอโฟน 4 จำนวน 1 เครื่อง ช่วงเดือน มิ.ย. 2558 จำนวน 3 ครั้ง โดยก่อเหตุบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าบริษัท อัลโน่ ถนนพระราม 9 ใกล้แยก อสมท. จำนวน 2 ครั้ง และบริเวณถนนรัชดาใกล้แยกเทียนร่วมมิตร 1 ครั้ง ได้โทรศัพท์ 3 เครื่อง โดยนำไปขายที่ร้านขายโทรศัพท์ใกล้เคียงพื้นที่ก่อเหตุ พฤติการณ์จะขี่จักรยานยนต์รอเหยื่อตามป้ายรถเมล์ เลือกเหยื่อที่เป็นหญิงคนเดียวเล่นโทรศัพท์รอรถเมล์แล้วลงมือกระชากแย่งโทรศัพท์แล้วหลบหนี ปกติจะก่อเหตุคนเดียวโดยตระเวนขับขี่จักรยานยนต์หาเหยื่อ ที่ทำเพราะไม่มีงานทำยังอยู่ระหว่างรอผลสมัครงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร และหาเงินเลี้ยงลูก 2 คน และภรรยาที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาบ้า สน.ดินแดง 2 ครั้ง เมื่อปี 2553 และปี 2555 ก่อนถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์จักรยานยนต์ สน.สุทธิสาร 1 ครั้ง เมื่อปี 2555 ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี เพิ่งได้ออกมาเมื่อต้นปีก็ลงมือก่อเหตุอีกครั้ง ชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางดำเนินคดีตามกฎหมาย