xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวสิงคโปร์ผ่านเลนส์ Galaxy S6 สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งประวัติศาสตร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


>>เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่เก็บกระเป๋ากันแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว เมื่อรู้ว่าจะได้ไปสัมผัสกับสุดยอดสมาร์ทโฟนขอบจอโค้งสองด้านครั้งแรกของโลก แต่เราก็ไม่รอช้ารีบตอบรับคำเชิญของ ซัมซุง (ประเทศไทย) ร่วมเดินทางสู่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อยลโฉมและสัมผัส “ซัมซุง กาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์ (GALAXY S6 & GALAXY S6 Edge)” สมาร์ทโฟนสองรุ่นล่าสุดที่มาสร้างนิยามใหม่ให้แก่วงการสมาร์ทโฟน

ทันทีที่ได้รับ Invitation Card สารภาพเลยว่าเป็นความดีใจปนตื่นเต้น ที่จะได้เดินทางไปสัมผัสโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด ซัมซุง กาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์ เพราะโดยส่วนตัวก็เป็นแฟนของสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้อยู่แล้ว เมื่อเราเดินทางมาถึงสนามบินชางฮี เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาต้อนรับและแนะนำให้เรารู้จักกับโทรศัพท์มือถือ ซัมซุง กาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์ อย่างคร่าวๆ พร้อมกับส่งเครื่องให้เราได้มีโอกาสทดลองจับและลองใช้งานกับฟังก์ชันต่างๆ ของโทรศัพท์ จึงตัดสินใจว่าจะเก็บภาพความประทับใจของทริปนี้ผ่านโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดเครื่องนี้

ด้วยความที่อยากจะสร้างความประทับใจให้กับการมาเยือนสิงคโปร์ครั้งนี้ ทางทีมงานซัมซุงอยากให้เราได้สัมผัสกับความเป็นสิงคโปเรียนของจริง จึงจัดมื้อแรกที่ขึ้นชื่อที่สุดของสิงคโปร์มารับรอง นั่นคือ “ข้าวมันไก่” สิงคโปร์ กับร้านข้าวมันไก่เจ้าดัง “Boon Tong Kee” ที่มีความเจ๋งอยู่ที่ข้าวมันที่ทำจากข้าวหอมมะลิของไทย และไก่ตอนเนื้อแน่น หนานุ่ม อิ่มท้อง อารมณ์ดีตั้งแต่มื้อแรกที่มาถึง
วิวกลางคืนจากบริเวณ Boat Quay
จะว่าไปแล้วประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเปลี่ยนแปลงทางอากาศอยู่ตลอดเวลา ด้วยความที่เป็นเกาะมีทะเลล้อมรอบ บางช่วงอาจจะมีเมฆครึ้มแต่สักพักก็แดดออกจ้าได้ โดยระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปที่ถนนอลิซาเบธวอล์ก ซึ่งเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำสิงคโปร์นั้นจู่ๆ ก็มีเมฆก้อนใหญ่เทฝนลงมา แต่เมื่อเรามาถึง “เมอร์ไลอ้อน” รูปปั้นครึ่งสิงโตที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ฝนก็หยุดตกให้เราได้เก็บภาพอ่าวมารีน่า โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครเอสพลานาด อันโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างคล้ายหนามทุเรียน อีกทั้งเรายังสามารถเห็นวิวของ Singapore Flyer และ Marina Bay Sand อีกด้วย

และเพื่อให้การเดินทางมาร่วมงานเปิดตัว “ซัมซุง กาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์” ในครั้งเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเราเอง เราได้ไปสักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว ณ ย่านไชน่าทาวน์ โดยวัดแห่งนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมในแบบยุคราชวงศ์ถัง เป็นที่ประดิษฐานของพระทนต์ (ฟัน) ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งวัดแห่งนี้ได้รับความเคารพจากชาวพุทธในสิงคโปร์เป็นอย่างมาก

หลังจากที่เข้าไปพักผ่อนอิริยาบถ ณ โรงแรมมารีน่า แมนดาริน สักพักเราก็ตัดสินใจว่าเราอยากจะไปลองประสิทธิภาพกล้องของกาแลกซี เอส 6 และเอส 6 เอดจ์ กันสักหน่อย โดยย่านไนต์ไลฟ์ที่มีสีสันแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ก็คือ “Boat Quay” ย่านธุรกิจการค้าสำคัญของสิงคโปร์ อยู่ริมแม่น้ำสิงคโปร์ และสามารถทะลุไปยังอ่าวมารีน่าได้ โดยในช่วงหัวค่ำที่นี่จะเต็มไปด้วยหนุ่มสาววัยทำงานที่มานั่งสังสรรค์หลังเลิกงานกันและที่นี่ยังเป็นจุดขึ้นเรือสำหรับล่องเรือในแม่น้ำเพื่อชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของสิงคโปร์อีกด้วย โดยหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วเราได้ใช้กล้องซัมซุง Galaxy S6 และ S6 Edge ถ่ายภาพวิวกลางคืนในย่าน Boat Quay พบว่าสามารถเก็บรายละเอียดภาพในขณะแสงน้อยได้อย่างชัดเจนดีทีเดียว อีกทั้งยังให้โทนสีที่ดูสมจริงอีกด้วย
วิวสวยๆ จากสำนักงานภาคพื้นทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของซัมซุง (ประเทศสิงคโปร์)
เช้าวันต่อมาเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรา เพราะเรากำลังจะได้ไปพบปะ พูดคุยกับ “Hong Yeo” ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบกาแลกซี เอส 6 และเอส 6 เอดจ์ ที่สำนักงานภาคพื้นทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของซัมซุง (Regional Headquarters) ได้เข้าไปอยู่ในบรรยากาศการทำงานของทีมทำงานของซัมซุงพูดคุยถึงการทำงานพร้อมชมแอกเซสซอรีของกาแลกซี เอส 6 และเอส 6 เอดจ์ โดย Hong Yeo เล่าว่า

“คีย์หลักๆ ในการออกแบบของเราคือเรื่องของวัสดุ ต้องดูหรูหราและแข็งแรง เราเล็งเห็นว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่เราจับ สัมผัส และพกพาไปด้วยทุกที่ ฉะนั้น เราจึงอยากให้ซัมซุง กาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์ ดูพรีเมียมขึ้น เราออกแบบตัวเครื่องด้วยวัสดุโลหะชั้นเลิศและกระจกชนิดที่แข็งแรงที่สุดในโลก “Corning® Gorilla Glass® 4” ใช้งานได้ในทุกสภาวะ และครั้งนี้เราออกแบบสีพิเศษขึ้นมาคือสีเขียว เอมเมอรัลด์ ซึ่งความจริงส่วนหนึ่งก็มาจากความชอบส่วนตัว (หัวเราะ) อย่างไรก็ดีเราก็ต้องทำการวิจัยและทำงานอย่างใกล้ชิดกับวิศวกรอีกด้วย ซึ่งผลที่ออกมานั้นสวยงามและแข็งแรงมากจริงๆ เราหวังว่าทุกคนคงจะชอบ”

หลังจากพูดคุยเสร็จแล้วเรายังมีโอกาสเดินชมออฟฟิศของซัมซุง โดยจุดหนึ่งที่ดูจะสร้างบรรยากาศการพักผ่อนสำหรับพนักงานที่ทำงานที่ออฟฟิศนี้อย่างดีก็คือ ที่นี่มีร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ส่วนตัวในมุมเล็กๆ ไว้คอยบริการพนักงานอย่างสะดวกสบายชนิดที่ไม่ต้องเดินออกไปซื้อข้างนอก หากต้องการเบรกจากการทำงานก็สามารถมานั่งดื่มกาแฟ และชมวิวทะเลสวยๆ ได้ทันที

และช่วงเวลาไฮไลต์ของการเดินทางครั้งนี้ก็มาถึงโดยตอนเย็นของวันนั้นเป็นวันจัดงานเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นแห่งประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับงาน “Samsung GALAXY Southeast Asia World Tour 2015” ณ ห้องอมารา โรงแรมเซนโตซ่า สิงคโปร์ โดยภายในงาน ซัมซุงโชว์ความอลังการ ด้วยการจัดงาน “กาแลกซี เอส6 เวิลด์ ทัวร์” อย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอสมาร์ทโฟนแฟลกชิปแห่งปี “กาแลกซี เอส6 และกาแลกซี เอส6เอดจ์

สำหรับงานซัมซุงจัดโชว์เคสครั้งนี้ ถูกจัดภายใต้ธีม “Next is Now” ที่ผสมผสานระหว่างแฟชั่น ศิลปะ และเทคโนโลยีอย่างลงตัว โดยร่วมมือกับศิลปิน ดีไซเนอร์ และเซเลบริตี้ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Fann Wong, Jeffrey Tay, Max Tan, Joe Chia และPhuong Vy ในการสร้างสรรค์การแสดง แฟชั่นโชว์ และนิทรรศการที่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์อันหรูหราและสีสันดุจอัญมณีของกาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความต้องผู้บริโภคด้านแฟชั่นอย่างแท้จริง รวมทั้งแฟชั่นโชว์สุดอลังการจากดีไซเนอร์และนางแบบระดับแถวหน้าอีกด้วย

โดยมี มร.โยง ซอง จอน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซัมซุง อิเลกโทรนิกส์ จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กล่าวต้อนรับกองทัพสื่อมวลชนจากหลายๆ ประเทศว่า “ปัจจุบันโลกแห่งแฟชั่นและเทคโนโลยีเชื่อมร้อยกันอย่างแนบแน่นจนมิอาจแยกออกจากกันได้ นวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นในอุตสาหกรรมหนึ่งช่วยหล่อเลี้ยงการเติบโตและแนวความคิดในอีกอุตสาหกรรมหนึ่ง และซัมซุงรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนำสมัยออกมาเป็นสมาร์ทโฟนกาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส6 เอดจ์ที่สวยงามเหนือกาลเวลา และเป็นดีไวซ์ที่ควรค่าแก่การเป็นเจ้าของในฤดูกาลนี้”

สำหรับซัมซุงประเทศไทยได้นำ “กาแลกซี เอส6” รุ่น 32 กิกะไบต์ วางจำหน่างในราคา 23,900 บาท และ “กาแลคซี่ เอส6 เอดจ์” รุ่น 32 กิกะไบต์ ราคา 27,900 บาท และรุ่น 64 กิกะไบต์ ราคา 30,900 บาท โดยสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมี 3 สีให้เลือก คือ สีทองแพลทินัม สีดำแซฟไฟร์ และสีขาวมุก ซึ่งวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศแล้ววันนี้

เรียกได้ว่าสุดยอดซัมซุงสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้จะกลายเป็น Must-have Item สำหรับแฟชั่นนิสต้าและสาวกเทคโนโลยีได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ :: Text by FLASH
วิวกลางคืนจากบริเวณ Boat Quay
Fact File

Samsung GALAXY S6 & GALAXY S6 Edge
>> จอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Quad HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi) สำหรับ Samsung Galaxy S6 และจอแสดงผลโค้งขอบข้าง กระจก Gorilla Glass สำหรับ Samsung Galaxy S6 edge
>> ชิปเซต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 Processor ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 Processor ความเร็ว 1.5 GHz
>> หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
>> หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
>> หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB, 64 GB และ 128 GB
>> แบตเตอรี่ Li-Ion 2550 mAh
>> กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
>> กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
>> รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop)



ศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร และวราภรณ์  ลิขิตจรรยากุล ผู้จัดการผลิตภัณ์ ธุรกิจคมนาคมและไอที บริษัท ซัมซุงอิเลกโทรนิกส์ จำกัด
มร.โยง ซอง จอนประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซัมซุง อิเลกโทรนิกส์ จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
Fann Wong เซเลบริตี้จากสิงคโปร์
Hong Yeo ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบซัมซุง กาแลกซี เอส 6 และกาแลกซี เอส 6 เอดจ์


กำลังโหลดความคิดเห็น