สมาคมรับสร้างบ้าน เปิดงานมหกรรมรับสร้างบ้าน 2014: Home Builder Expo 2014 บริษัทรับสร้างบ้านขนแบบบ้านลดสูงสุด 30% พร้อมอัดโปรโมชันแจก แถมจำนวนมาก คาดว่าจะมียอดสั่งจองบ้านภายในงานไม่ต่ำกว่า 3,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากยอดขาย 3,025 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา โอดต้นทุนพุ่ง 5-10% ไตรมาส 4 จ่อปรับขึ้นราคาสร้างบ้าน 5%
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเปิดงานมหกรรมรับสร้างบ้าน 2014 : Home Builder Expo 2014 ภายใต้แนวคิด “Integrated LIVING” บูรณาการเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2557 ณ เพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า สัญญาณการฟื้นตัวของตลาดรับบ้านมีความชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา ทำให้เชื่อมั่นว่าการจัดงานมหกรรมรับสร้างบ้าน 2014 หรือ โฮมบิวเดอร์ เอ็กซ์โป 2014 คาดว่า จะมียอดสั่งจองบ้านภายในงานไม่ต่ำกว่า 3,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากยอดขาย 3,025 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา
สำหรับงานรับสร้างบ้านมีแบบบ้านตั้งแต่ 1-250 ล้านบาท มาออกบูธ โปรโมชันและแข่งขันกันค่อนข้างดุเดือด โดยมีการลดราคาสร้างบ้านสูงสุด 30% พร้อมทั้งมีส่วนลดเงินสด ของแถม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น อาทิ บริษัท โฮมแสตนดาร์ด ส่วนลด 5-10% ฟรีชุดครัว กู้ดอกเบี้ย 0% 12 เดือน กลุ่มบริษัท บิวท์ทูบิวด์ ลดสูงสุด 20% หรือ 200,000 บาท ฟรีซัมซุงกาแลกซี่ S5 เครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำ บริษัท ซีคอนโฮม แถมทีวี แอลอีดี เครื่องทำน้ำอุ่น บริษัท โฟร์พัฒนา ส่วนลด 5% เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคา ชุดมุ้งลวด บริษัท แฮปปี้ โฮมบิวท์เดอร์ ส่วนลด 30% แถมรถ แถมสระว่ายน้ำ เป็นต้น
นายวิสิฐษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปัจจุบัน พบว่า จำนวนผู้ปลูกสร้างบ้านเองใน กทม.และปริมณฑล (รวมรายย่อย) มีปีละ 22,000 หน่วย หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 55,000 ล้านบาท แต่หากเฉพาะกลุ่มสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดว่า ปีนี้มีมูลค่าตลาดรวม 11,500 ล้านบาท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ตลาดซบเซาอย่างมาก แต่เชื่อว่า ครึ่งปีหลังนี้จะฟื้นตัวขึ้นได้ ทำให้ทั้งปีตลาดยังเติบโตได้ดีกว่าปี 2556 ที่มีมูลค่า 13,000 ล้านบาท
ในส่วนของพฤติกรรมผู้บริโภคในปีนี้ คาดว่า จะยังคงอยู่ในทิศทางเดียวกันกับงานมหกรรมรับสร้างบ้านปีที่ผ่านมา ที่มีสถิติราคาปลูกบ้านเฉลี่ยอยู่ที่ 7 ล้านบาท มีระดับราคาปลูกบ้านต่ำสุดอยู่ที่ 1.59 ล้านบาท และระดับราคาปลูกบ้านสูงสุด 77 ล้านบาท จากยอดจองปลูกบ้านในงานทั้งหมด 367 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งมูลค่าปลูกบ้านตามจำนวนหลัง 3 อันดับแรก ได้แก่ ระดับราคาไม่เกิน 2.51-5 ล้านบาท คิดเป็น 41.14% ระดับราคาบ้าน 5-10 ล้านบาท คิดเป็น 23.98% และระดับราคาบ้านไม่เกิน 2.5 ล้านบาท คิดเป็น 14.99%
นายวิสิฐษ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สมาคมฯ ยังกังวลในครึ่งปีหลัง คือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานฝีมือ และราคาวัสดุก่อสร้างที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก 5-10% หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าโครงการระบบสาธารณูปโภค รวมทั้งปัญหาขาดแคลนวัสดุ โดยเฉพาะ ทราย และคอนกรีต ซึ่งคาดว่า ภายในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้า ผู้ประกอบการจะต้องปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอนอย่างน้อย 5-10%
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการจัดทำแพ็กเกจครบวงจรสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน โดยจะดูแลตั้งแต่กระบวนการหาที่ดิน ถมดิน ปลูกสร้างบ้าน ตกแต่งภายใน ภายนอก รวมทั้งหาสินเชื่อให้ในวงเงินและดอกเบี้ยที่เหมาะสม โดยสมาคมฯ จะเป็นตัวกลางในการประสานงานให้กับสมาชิกของธุรกิจแต่ละประเภทที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น บริษัทก่อสร้าง บริษัทเฟอร์นิเจอร์ บริษัทตกแต่ง ซึ่งคาดว่า ภายในปลายปีนี้จะออกมาให้บริการได้ เพื่อขยายตลาดรับสร้างบ้านให้มีการเติบโตมากขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการปลูกบ้านให้ลูกค้าที่มีที่ดินแล้วเท่านั้น
“ขณะนี้ กำลังเจรจากับสถาบันการเงิน อาทิ ธนาคารกสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ดูด้านการออกสินเชื่อและดอกเบี้ยที่เหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะสินเชื่อซื้อบ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ในมุมมองของธนาคารอาจจะลืมไปว่า ลูกค้าจะต้องมีสินเชื่ออื่นๆ เพิ่มเติมด้วยในการให้บริการเกี่ยวกับบ้านที่ครบวงจร และก็จะเป็นลูกค้าของธนาคารตั้งแต่ต้นทาง ส่วนใหญ่คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังติดเรื่องการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม และออกเป็นแพ็กเกจเดียวกันได้หรือไม่ และการประเมินราคา ซึ่งมองว่าตลาดกลุ่มนี้ กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงตลาดบ้านเก่าที่ปรับปรุงใหม่ด้วย”