xs
xsm
sm
md
lg

ซัมซุงขนสินค้า IoT บุก CES 2016

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทิม แบกสเตอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของซัมซุง สหรัฐอเมริกา
ซัมซุงยกทัพบุกเวที CES 2016 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 ม.ค.ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โชว์สุดยอดนวัตกรรมสินค้าผสานเทคโนโลยี IoT ยกระดับการใช้ชีวิตเพื่อเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น เผย 3 กลยุทธ์พาซัมซุงก้าวขึ้นเก้าอี้ผู้นำด้วยเป้าหมายการเป็น 1 ใน 5 อินเตอร์แบรนด์ระดับโลกในปี 2020

ทิม แบกสเตอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของซัมซุง สหรัฐอเมริกา กล่าวว่ากลยุทธ์ 3 อย่างที่จะทำให้ซัมซุงก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำคือ 1.การก้าวเข้าสู่ Internet of Things หรือ IoT 2.ต้องเข้าให้ถึงปัญหาของผู้บริโภคให้ได้ และ 3.ทุกโปรดักต์ต้องเชื่อมโยงเข้ากับโมบาย ซึ่งถือเป็นแนวทางหลักที่ซัมซุงจะต้องทำในปีนี้ โดยซัมซุงเป็นเบอร์ 1 ในตลาดทีวีติดต่อกันเป็นปีที่ 10 แล้ว สิ่งที่ซัมซุงต้องทำต่อไปไม่ใช่การสร้างแบรนด์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องอีโคซิสเต็มส์ด้วย

“Innovation That Matters” คือ การนำเสนอนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคน ซึ่งเป็นการหลอมรวมเรื่องของ IoT เข้ากับการใช้ชีวิตของผู้คนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี โฮมแอปพลายแอนซ์ และโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความหมายได้เต็มรูปแบบในชีวิตประจำวัน

ที่ผ่านมา ซัมซุงมองการรวมตัวกันของเทคโนโลยีกับคอนเทนต์ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน แต่คอนเทนต์กับเทคโนโลยีที่จะเกิดในอนาคตจากเป้าหมายการโฟกัสที่ความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก จะทำให้ซัมซุงก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านทีวีของโลกด้วยความพยายามของซัมซุงในการพัฒนาโปรดักต์ให้มีความเฉลียวฉลาดมากขึ้น เพื่อให้เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งซัมซุงมีการลงทุนในการพัฒนาด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง
Samsung Family Hub Refriger
“ก่อนหน้านี้ เราพูดเรื่องIoT แต่มาถึงวันนี้ซัมซุงให้ความสำคัญต่อ IoT ในรูปแบบอีโคซิสเต็มส์ โดยมี สมาร์ท ธิงส์ (Smart Things) เป็นหัวใจหลักซึ่งมีนักพัฒนามากกว่า 2 หมื่นรายร่วมพัฒนาอยู่”

ผู้บริหารซัมซุง กล่าวว่า จากปีที่ผ่านมาที่ซัมซุงพูดว่าทีวีทุกเครื่องจะเป็น IoT ในปี 2020 แต่มาถึงวันนี้ซัมซุงกำลังทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัว USB Adapter ซึ่งสามารถควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ บนสมาร์ททีวีได้ โดยสามารถควบคุม หรือสั่งการได้มากกว่า 200 ดีไวซ์ ซึ่งรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วย โดยให้อุปกรณ์นี้แก่ผู้ที่ซื้อซัมซุง SUHD TV รุ่นปี 2016
Samsung Galaxy TabPro S
ซัมซุงมองว่าการมองจุดอ่อนของผู้บริโภคแล้วนำมาแก้ไขเป็นที่มาของการทำให้วิถีชีวิตการดูทีวีของคนจะเปลี่ยนไป ผู้บริโภคจะเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่มีข้อจำกัดระหว่างการโต้ตอบกันเป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดของการดูทีวีที่ผ่านมาโดยไม่มีความซับซ้อน ทำให้ง่ายขึ้นมาก โดยในปี 2016 ทีวีในความต้องการของผู้บริโภคจะเน้นเรื่องความคมชัด และดีไซน์เป็นหลักซึ่งซัมซุงจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในตลาด SUHD TV อีก 5 รุ่น คือ รุ่น 49, 55, 65, 78 และ 88 นิ้ว

ในครัวเรือนก็เช่นกันซัมซุง มองว่าจะทำ IoT เข้ามาในครัวได้อย่างไร สิ่งที่ซัมซุงจะทำคือ ตู้เย็นจะไม่ใช่แค่การเก็บอาหารอีกต่อไป แต่สามารถแชร์ข้อมูล และเป็นสื่อกลางระหว่างคนในครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น
Samsung Gear S2 Classic
ในส่วนโทรศัพท์มือถือ ผู้บริหารซัมซุงแสดงความเห็นว่า อีก 10ปี ข้างหน้าประชากรโทรศัพท์จะเพิ่มขึ้น และมีผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามาในตลาด คนจะเข้ามาเชื่อมต่อกันมากขึ้น สมาร์ทโฟนจะเชื่อมต่อถึงคนได้ดีขึ้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอย่างมาก คนจะต้องการบริโภคข่าวสารมากขึ้น รวดเร็วขึ้น โดยสิ่งเหล่านี้จะเป็นอนาคตของการเติบโตอย่างมากของธุรกิจโมบาย



สำหรับในงาน CES 2016 นี้ ซัมซุงเปิดตัว SUHD TV 2016 ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม QUANTUM DOT DISPLAY ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดด้านจอภาพที่ให้ความคมชัด แสดงเฉดสีได้มากกว่า 1 พันล้านสี พร้อมเทคโนโลยีอัลตราแบล็ก (Ultra Black) โดยสมาร์ท ทีวีรุ่นใหม่จากซัมซุงคว้ารางวัล CES Best of Innovation Award ด้านการเข้าถึงการใช้งานได้สะดวก

“การออกแบบทีวีที่มีคุณภาพดีที่สุด และการเข้าถึงการใช้งานได้สะดวกที่สุดถือเป็นเป้าหมายที่ซัมซุงตั้งใจจะทำให้สำเร็จผ่าน SUHD และสมาร์ท ทีวีของเรา” จอห์น ริว รองประธานฝ่ายธุรกิจจอภาพของซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าว
Samsung SUHD TV
สมาร์ท ทีวี ยังมีระบบออกคำสั่งด้วยเสียง ซึ่งเปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานหลากหลาย ฟังก์ชันของทีวีได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าเครื่อง การท่องเว็บ หรืออีกหลายฟังก์ชันที่เคยแต่ต้องใช้งานผ่านการอ่านหน้าจอเท่านั้น ที่สำคัญผู้บริโภคยังสามารถใช้น้ำเสียงปกติของตนเองในบทสนทนาสำหรับสั่งงานได้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งล่วงหน้าให้ทีวีเตรียมอัดรายการทีวี สั่งเพื่อบริหารจัดการแอปพลิเคชันของสมาร์ท ทีวี หรือสั่งให้หาข้อมูลรายการทีวีต่างๆ รวมทั้งยังมีฟังก์ชัน Amplify & Clear Voice ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น และระบบใช้งานรูปแบบกราฟิกใหม่ของสมาร์ท ทีวี ช่วยให้ผู้ใช้อ่านหน้าจอได้ง่ายขึ้น

ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านซัมซุงนำเสนอตู้เย็นที่เรียกว่า FAMILY HUB เป็นการนำเอาเทคโนโลยี IoT เข้ามาประยุกต์ใช้ ในตู้เย็นจะมีจอขนาด 21.5 นิ้ว ระบบสัมผัส ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวใช้ตู้เย็นร่วมกันได้โดยสามารถสั่งอาหารจากซูเปอร์มาเกตทางออนไลน์ได้ ที่น่าสนใจ เป็นเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ที่ซัมซุงสานต่อนวัตกรรมใหม่ที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาให้ผู้ใช้สามารถขยี้ผ้าก่อนซักได้ทดแทนการซักผ้าแบบเดิมๆ
ภาพจากกล้องในตู้เย็นแฟมิลี่ฮับสามารถเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ ซัมซุงยังใช้ IoT ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โมบายอื่น อย่าง เกียร์ วีอาร์, ซัมซุงเกียร์เอส โดยในงานนี้เปิดตัว เกียร์ เอส 2 คลาสิก 2 สีใหม่ คือ สีโรสโกลด์ และแพลทินัม ซึ่งนอกจากเชื่อมต่อกับซัมซุงกาแลกซีได้แล้ว ยังรองรับไอโอเอสด้วย รวมทั้งซัมซุง กาแลกซี่ แท็บ โปร เอส แท็บเล็ต ระดับพรีเมียมมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 12 นิ้ว ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ผสานคุณสมบัติเด่นของแล็บท็อป และแท็บเล็ตเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบแล็บท็อปในรูปแบบของแท็บเล็ตที่มีน้ำหนักเบา และพกพาได้สะดวก มาพร้อมกับแป้นพิมพ์ขนาดมาตรฐานช่วยให้การพิมพ์สะดวกขึ้น ในขณะที่ขาพับซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงช่วยให้ผู้ใช้งานหมุนหน้าจอได้สะดวก เพื่อมุมมองที่สะดวกต่อการใช้งานที่สุด รวมทั้งชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10.5 ชั่วโมง และยังมีปากกาบลูทูธเป็นอุปกรณ์เสริม

“ปัจจุบันซัมซุงเป็นผู้นำอันดับ 7 จากการจัดอันดับของอินเตอร์แบรนด์ระดับโลก เป้าหมายของซัมซุงคือ เป็น 1 ใน 5 ของผู้นำระดับโลกให้ได้ภายในปี 2020” ศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าวตบท้าย

วิดีโอแนะนำนวัตกรรมเด่นในงาน CES 2016 :


Company Related Link :
ซัมซุง



Instagram


กำลังโหลดความคิดเห็น