MGR Online - อธิบดีกรมกิจการสตรีนำทีมช่วยเหลือชายชราวัย 59 ปี ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์หลังเกิดอุบัติเหตุจักรยายยนต์ล้มคว่ำ ภรรยาคู่ชีวิตล่ามโซ่ใว้ในบ้านเนื่องจากไม่มีใครอยู่มักจะออกเดินไปให้รถชน
วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมด้วยนายสยาม ศิริมงคล รอง ผวจ.สมุทรปราการ นางศิริพรรณ หาญพาณิชย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด สมุทรปราการ นายธวัชชัย นามสมุทร นายอำเภอบางบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทหารจากหน่วยกองร้อยควบคุมสถานการณ์ที่ 3 กองทัพเรือ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีชายชราวัย 59 ปี ป่วยด้วยโรคความจำเสื่อมทำให้ภรรยาต้องล่ามโซ่ไว้ในบ้านไม้สองชั้นสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้พัง ที่บ้านเลขที่ 532/1 หมู่ 3 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อหาทางช่วยเหลือ
อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกล่าวว่า หลังจาก รมว.พัฒนาสังคมฯ ทราบเรื่องจึงสั่งการให้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเร่งด่วน จากการลงพื้นที่ก็พบว่าผู้ป่วยคือนายชูชาติ หนุนเพชร อายุ 59 ปี มีอาการป่วยด้านความจำ หรืออัลไซเมอร์ เดินไม่ค่อยสะดวก มีนางบัวลอย หนุนเพ็ชร อายุ 56 ปี ภรรยาคอยดูแล ส่วนสาเหตุที่ต้องล่ามโซ่นั้นจากการสอบถามทราบว่าหลังจากที่นายชูชาติป่วยก็มักจะเดินออกนอกบ้านเวลาที่ภรรยาออกไปทำงานเป็นประจำ และจำทางกลับบ้านไม่ได้ บางครั้งกระโดดให้รถชน ทำให้ทางครอบครัวต้องใช้โซ่ล่ามขาไว้เพื่อความปลอดภัย แต่จากการพูดคุยพบว่าภายในครอบครัวยังมีความรักซึ่งกันและกันและพร้อมที่จะดูแลผู้ป่วย หลังจากนี้จึงจะต้องให้ทีมสหวิชาชีพ และจิตอาสาเข้ามาช่วยดูแลเพิ่มเติม แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดก็ได้มีการดูแลมาโดยตลอด ทำให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วย มีสภาพจิตใจที่ดี ไม่เกิดภาวะเครียด นอกจากนี้วันนี้ยังได้นำกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายและเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพเบื้องต้นมามอบให้ด้วย
นายสยาม ศิริมงคล รองผวจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า จากการพูดคุยทราบว่าเจ้าหน้าที่ทั้งจาก พม.จ.สป. สาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่จาก อบต.คลองด่าน ผช.ผู้ใหญ่บ้าน และทหารได้ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มป่วย ไม่มีการทอดทิ้ง โดยเฉพาะทีมทหารที่คอยนำอาหารและยาสามัญประจำบ้านมาให้อยู่เป็นประจำ แต่หลังจากนี้ต้องให้ทางอำเภอเข้ามาซ่อมแซมทางเดินเข้าบ้านและปรับปรุงตัวบ้านให้มีความแข็งแรง ไม่ผุพัง ส่วนรายได้ที่ไม่เพียงพอคงต้องหาอาชีพเสริมให้แก่นางบัวลอย เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีเวลาดูแลผู้ป่วยได้มากขึ้นจนไม่ต้องล่ามโซ่สามีอีกต่อไป
ด้านนางบัวลอย หนุนเพชร อายุ 56ปี กล่าวว่า หลังจากสามีจักรยานยนต์ล้ม 2 ครั้งทำให้ความจำเสื่อม และแพทย์ยังระบุว่าเป็นอัลไซเมอร์และสมองฝ่อร่วมด้วย ทำให้ที่ผ่านมาสามีมักจะเดินออกนอกบ้านในช่วงเวลากลางวันที่ตนไปทำงานโรงงาน และไม่มีใครดูแล จนได้รับบาดเจ็บหรือตำรวจนำตัวกลับมาส่งที่บ้าน จึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือว่าจะขอล่ามโซ่สามีไว้เฉพาะเวลากลางวันช่วงที่ตนไปทำงานเพื่อปลอดภัย ส่วนตอนเย็นตนก็จะพาสามีออกไปเดินเล่นใกล้ๆ บ้านเพื่อให้ผ่อนคลาย สำหรับครอบครัวตนมีลูก 4 คน แต่ 3 คนก็ป่วยไม่สามารถทำงานได้ ส่วนอีกคนมีครอบครัวแล้วก็ช่วยได้บ้าง จึงทำให้ตนต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนค่ารักษาพยาบาลก็ใช้บัตรทอง วันนี้ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือและจะซ่อมแซมบ้านให้