MGR Online - “ผู้ว่าการ สตง.” ระบุ สอบโครงการอุทยานราชภักดิ์เรียบร้อย แต่หาก รมว.ยธ. ยังสงสัยประเด็นใดจะสอบเพิ่มเติมเพื่อความกระจ่าง
วันนี้ (25 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ครั้งที่ 1/2559 โดยมี นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะ กรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะเลขานุการ ศอตช. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมประชุมโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย นายพิศิษฐ์ ได้เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ในส่วนที่มาของเงินบริจาค 20 ล้านบาท ก่อนเข้าประชุม ว่า ในวันนี้จะมีการประชุม สตง. พร้อมที่จะนำเสนอรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เราตรวจสอบ และก็มีหลักฐานข้อเท็จจริงให้ พล.อ.ไพบูลย์ ในฐานประธาน ศอตช. พิจารณาดูหาก พล.อ.ไพบูลย์ ยังมีข้อติดใจในประเด็นใด ทางเราก็ยินดีจะไปตรวจสอบเพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น แต่ที่เราตรวจมาก็ละเอียดพอสมควร ทุกอย่างอยู่บนหลักฐานข้อเท็จจริง
“สำหรับการตรวจสอบนั้น เราตรวจสอบทั้งจากเอกสารของเอกชน โรงหล่อพระรูป และหลักฐานบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตามวิธีการตรวจ ซึ่งทุกส่วนราชการเราก็ตรวจสอบแบบนี้ รวมทั้งดูของจริง หรืองานก่อสร้างด้วย ทั้งนี้ เรื่องการจะทุจริตหรือไม่ทุจริตไม่ใช่เรื่องที่จะนำไปกล่าวหา กลั่นแกล้งกัน หรือขณะเดียวกัน ถ้ามันมีหลักฐานชัดถึงขนาดเป็นเรื่องทุจริตเสียหายแล้วก็คงไม่สามารถที่จะไปพูดว่ามันไม่เสียหายได้ ดังนั้น สตง. จะเสนอในรายละเอียดต่อไป อย่างไรก็ตาม จุดยืนของ สตง. คือ ตรวจแล้วรายงานความจริงให้ประชาชนทราบ เมื่อถึงเวลาเราจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ต่อมา หลังจากการประชุม นายพิศิษฐ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังด้วยว่า วันนี้ไม่มีการพูดประเด็นดังกล่าวในที่ประชุมเต็มคณะของ ศอตช. และไม่มีวาระเรื่องการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอทุยานฯ โดยตั้งแต่ที่มีประเด็นคำว่า “หัวคิว” หมายความว่าอะไร ทาง สตง. ก็พยายามที่จะตรวจสอบตอบประเด็นปัญหานี้และจะไปดูรายละเอียดเพื่อให้กระจ่างขึ้น แต่เท่าที่ สตง. ตรวจสอบมาโดยสภาพข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่พบข้อสังเกตอะไรที่เป็นเรื่องที่ทุจริตการหักหัวคิวตามที่พูดกัน
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า สตง. มีหน้าที่ตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ประเด็นข้อสงสัยของสังคม สตง. จะกลับไปตรวจสอบเพิ่มเติม และวันนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ก็ไม่ได้สั่งการให้ไปตรวจสอบเพิ่ม เพราะ สตง. เป็นหน่วยงานอิสระไม่มีใครมาสั่งได้ แต่ที่เราผนึกกำลังเป็น ศอตช. ก็เพื่อจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกระจ่างกับสังคมเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยธ. สั่งให้ตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 2 - 3 ประเด็นจะสอบหรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าว ตนจะคุยรายละเอียดกับท่านก่อนว่าท่านยังมีประเด็นอะไรคาใจแต่สำหรับตนมีข้อเท็จจริงที่ได้ข้อยุติแล้ว แต่ยังไม่บอกว่าเป็นข้อยุติกรณีการหักหัวคิว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนการจ่ายค่าที่ปรึกษาโรงหล่ออุทยานราชภักดิ์ 5 แห่ง ถือเป็นการจ่ายหัวคิวหรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ค่าที่ปรึกษาเราต้องดูจากหลักฐานข้อเท็จจริงประกอบ ในข้อเท็จจริงคนที่จะตอบปัญหานี้ได้ดีที่สุด คือ โรงหล่ออุทยานราชภักดิ์ 5 แห่ง ที่เป็นผู้จ่ายเงินให้ ในส่วนของบัญชีการเงินค่าใช้จ่ายที่เป็นที่ปรึกษาสามารถที่จะหักค่าใช้จ่ายได้ตามสภาพข้อเท็จจริง ใครที่ได้รับค่าที่ปรึกษาไปก็ต้องไปเสียภาษีเป็นรายได้ ใครเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายค่าที่ปรึกษาจะต้องลงหลักฐานเพื่อประกอบการเสียภาษี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ สตง. จะตรวจสอบได้จากหลักฐานการใช้จ่ายเงินของภาคเอกชนที่ต้องเสียภาษี
“เรื่องนี้มีการจ่ายเงินค่าที่ปรึกษาแน่นอน แต่เป็นการทยอยจ่ายเงิน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดผมอยากให้ได้ข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว ใจเย็น ๆ รอฟัง สตง. จะแถลงข่าวต่อหน้า ศอตช. โดยพร้อมเพียงกัน เพราะเราไม่ได้ตรวจสอบเพียงองค์กรเดียว แต่มี ป.ป.ท. ตรวจสอบด้วย แล้วต่างคนต่างตรวจสอบ จากนั้นมาดูว่าข้อเท็จจริงตรงกันหรือไม่ สุดท้ายหลักฐานที่ สตง. ตรวจสอบยังสามารถที่จะใช้ตรวจสอบต่อไปอีกได้ โดยจะมอบให้ ป.ป.ช. ไปทำต่อ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ต้องเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ตนได้พบกับท่านและมีการสอบถามข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ในส่วนข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ สตง. ได้รวบรวมไว้แล้ว และ พล.อ.อุดมเดช ได้ให้ข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ เราไม่ได้คุยกันแบบคนรู้จักกัน เพราะความจริงก็ไม่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่เรามีหน้าที่ตรวจสอบ และท่านก็มีหน้าที่ชี้แจง แต่รายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย รอให้แถลงข่าวทั้งหมดพร้อมกัน เพราฉะนั้นมันจะต่อจิกซอว์ไม่ได้ และอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ตนยืนยันว่า สตง. ยังไม่พูดว่าใครถูกใครผิด สตง.มีแต่ข้อเท็จจริงและข้อสังเกต และคาดว่าไม่ใช่ต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานอีกแล้ว เพียงแต่ขอเวลาเพราะขณะนี้ ศอตช. ยังมีภารกิจหลายอย่าง
เมื่อถามว่า ค่าหักหัวคิวคือค่าที่แปลไปเป็นค่าที่ปรึกษาหรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่พูดกันไปเอง สุดท้ายคำว่าค่าที่ปรึกษาหรือค่าหัวคิวนั้นจะตอบด้วยข้อเท็จจริงและหลักฐาน
ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวหลังประชุม ศอตช. ว่า การประชุม ศอตช. เพื่อสรุปงานช่วงประมาณ 7 - 8 เดือนที่ผ่านมา ให้ข้าราชการได้รับทราบ ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ได้รายงานความคืบหน้าการทำงานด้านต่าง ๆ กลับมา อาทิ โครงการห้าล้านหนึ่งตำบล ฯลฯ แต่วันนี้มีเวลาน้อยมาก เพราะต้องต้อนรับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ประเทศเวียดนาม จะเดินทางมาเยี่ยมที่กระทรวงยุติธรรม ประเทศไทย ส่วนเรื่องความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ได้มีการพูดคุยเพียงแค่หนึ่งนาทีสุดท้ายก่อนออกจากห้องประชุมให้ทาง สตง. ไปเพิ่มเติมอย่างที่เคยบอกมาแล้ว และการรายงานของ ศอตช. จะต้องทำเป็นคณะทำงานและหลายเรื่องผลการประชุม ศอตช. จะดำเนินการต่อไป