MGR Online - ตำรวจกองปราบตามรวบกรรมการบริษัท มานา เอ็ม แอนด์ จี จำกัด หลังทำเอกสารปลอมหนังสือรับประกันการชำระหนี้ของธนาคาร หลอกซื้อเหล็กเส้น มูลค่าความเสียหายเกือบ 99 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ชยเดช ไคยฤทธิ์ สว.กก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ศตวรรษ บุญมี สว.กก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.5 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม น.ส.ชัชชกร เจริญธนาดล อายุ 35 ปี กรรมการ บริษัท มานา เอ็ม แอนด์ จี จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 1/82 ซอยสุคนธสวัสดิ์ 16 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.252/2558 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2558 ข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันฉ้อโกง ได้ที่บ้านเลขที่ 40/477 หมู่ 10 ซอยนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
พ.ต.อ.พันธนะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้แทนบริษัทเอกชนค้าเหล็กแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2557 ได้มี นายมนต์ชัย อำนวยกิจวณิชย์ ผู้บริหารบริษัท มานา เอ็ม แอนด์ จี จำกัด และ น.ส.ชัชชกร กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทดังกล่าว สั่งซื้อเหล็กเส้นจากบริษัทของผู้เสียหาย โดยขอซื้อในระบบสินเชื่อ มีการทำหนังสือค้ำประกันการชำระหนี้ของธนาคารแห่งหนึ่งมาเป็นหลักประกันการชำระค่าสินค้า ต่อมาในวันที่ 8 กันยายน 2557 นายมนต์ชัย ได้นำหนังสือค้ำประกันการชำระหนี้ของธนาคารดังกล่าว จำนวน 2 ฉบับ โดยฉบับแรก เป็นหลักประกันชำระหนี้ รวม 50 ล้านบาทเศษ ส่วนฉบับที่ 2 เป็นหลักประกันชำระหนี้ 50 ล้านบาทถ้วน ไปมอบให้กับทางบริษัทผู้เสียหาย
พ.ต.อ.พันธนะ กล่าวต่อว่า จากนั้นบริษัทผู้เสียหาย ได้นำหนังสือค้ำประกันการชำระหนี้ดังกล่าวไปตรวจสอบกับทางธนาคารที่ออกหนังสือค้ำประกันดังกล่าว ซึ่งพบว่ามี น.ส.ปัญจพักตร คุณานันท์ศักดิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารแห่งนี้เป็นผู้ออกให้กับบริษัท มานา เอ็ม แอนด์ จี จำกัด จริง ทำให้บริษัทผู้เสียหายหลงเชื่อ ยอมขายเหล็กเส้นให้รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และมีหนังสือค้ำประกันการชำระหนี้เป็นหลักประกัน แต่ภายหลังได้ตรวจสอบไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคาร ก็พบว่า เป็นเอกสารปลอม จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และสามารถติดตามจับกุม นายมนต์ชัย และ น.ส.ปัญจพักตร กระทั่ง ต่อมาได้ตามจับกุม น.ส.ชัชชกร ไว้ได้ในที่สุด
สอบสวน น.ส.ชัชชกร ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพียงแต่ก่อนหน้านี้ ตนทำธุรกิจกับแฟนแล้วได้ไปรู้จักกับนายมนต์ชัย ซึ่งทำธุรกิจค้าเหล็ก ก่อนจะได้รับการชักชวนให้มาร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท มานา เอ็ม แอนด์ จี จำกัด โดย นายมนต์ชัย อ้อนวอนขอให้ช่วยเหลือ เนื่องจากถูกผู้ร่วมหุ้นของบริษัทฉ้อโกง ซึ่งตนคิดว่าแค่เพียงนำชื่อไปใช้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร จึงให้ชื่อไปเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว ที่ผ่านมา ตนก็ไม่ทราบว่าบริษัทแห่งนี้ประกอบกิจการอะไรอย่างแน่ชัด แต่ นายมนต์ชัย เคยขอให้ช่วยให้นำเอกสารไปติดต่อขอซื้อเหล็กเส้นกับบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ แล้วจะได้รับเหล็กเส้นมูลค่า 2 ล้านบาท เป็นผลตอบแทน
พ.ต.อ.พันธนะ กล่าวด้วยว่า อยากฝากไปยังบริษัทผู้เสียหายที่เคยถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวง สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ และหากมีการกระทำลักษณะดังกล่าวโดยเฉพาะการทำหนังสือค้ำประกันการชำระหนี้ของธนาคาร ขอให้ตรวจสอบไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคารนั้น ๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการปลอมเอกสารหรือไม่ เนื่องจากมูลค่าความเสียหายมีมูลค่าสูง สำหรับกรณีที่พบพนักงานธนาคาร กระทำความผิด นั้น ทางตำรวจก็จะประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารต่าง ๆ ด้วย ซึ่งเชื่อว่าธนาคารแต่ละแห่งก็มีมาตรการจัดการส่วนนี้อยู่แล้ว ส่วนผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. รับไว้ดำเนินคดีต่อไป