MGR Online - ผบช.ก.-ผบก.ป.แถลงจับกุมแก๊งปลอมเอกสารเท็จ ทั้งผู้ใหญ่บ้าน จนท.สาธารณสุข อดีตพระ อส.กู้ภัย ลูกสาว รวม 7 ราย ช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนีคดีจ้างวานฆ่าลูกสะใภ้เมื่อปี 2550 ด้านลูกสาวรับสารภาพเป็นคนวางแผนทั้งหมดเพื่อต้องการช่วยมารดาพ้นผิด
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายสมโภชน์ นวลพรหม อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร, นางกัสมา สังข์สม หรือทองสุข อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ, นายสุรัตน์ คลี่บำรุง หรืออดีตพระมหาสุรัตน์ สุรเมธี อายุ 42 ปี, นางนิจยา นวลพรหม อายุ 46 ปี นายจรินทร์ หญีตป้อม อายุ 38 ปี อาสาสมัครกู้ภัย, น.ส.รัศมี จันทร์งาม อายุ 39 ปี และ น.ส.กรรฑิรา จันทร์งาม อายุ 44 ปี สองพี่น้อง บุตรสาวนางจุรี จันทร์งาม อายุ 72 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน, ร่วมกันทำใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือรายการในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎรโดยมิชอบ, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน โดย น.ส.รัศมี ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา เบิกความอันเป็นเท็จ และนำสืบหรือแสดงเอกสารอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันช่วยเหลือ นางจุรี จันทร์งาม อายุ 72 ปี ผู้ต้องหาคดีใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น หลังจากว่าจ้างมือปืนให้สังหารโหดลูกสะใภ้คือ น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลควนเนียง ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน สาเหตุเพราะต้องการกีดกัน ไม่ยินยอมให้ นายวิกรม จันทร์งาม อายุ 36 ปี บุตรชายได้แต่งงานกับ น.ส.ริ้วแพร เหตุเกิดที่คลีนิกเวชกรรมใน อ.ควนเนียง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550
ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมสองมือปืนและนางจุรีส่งตัวดำเนินคดีในชั้นศาล โดยระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นฎีกา นางจุรีได้ขอประกันตัวออกมา ก่อนที่ น.ส.รัศมีจะเข้ายื่นคำร้องต่อศาลว่านางจุรีเสียชีวิตแล้วจะขอคืนเงินประกัน มีการใช้เอกสารใบมรณบัตรที่ออกโดยฝ่ายปกครองมาแสดงเป็นหลักฐาน แต่ภายหลังศาลไม่เชื่อและมีการไต่สวนกรณีการเสียชีวิตจนเป็นที่แน่ชัดว่าจำเลยรายนี้ยังมีชีวิตอยู่ และเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จึงสั่งปรับนายประกันและออกหมายจับจำเลยไว้ กระทั่งนางจุรีทนแรงกดดันไม่ไหวติดต่อเข้ามอบตัวที่ บก.ป. จากนั้นชุดสืบสวนได้ขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดกรณีออกใบมรณบัตรโดยมิชอบ จนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 7 รายดังกล่าว
ด้าน น.ส.รัศมีให้การว่า เรื่องราวทั้งหมดตนเป็นคนคิดแผนการขึ้นเองเพราะต้องการช่วยเหลือมารดาที่ต้องโทษ ไม่มีใครร่วมกระทำผิด แต่ที่ทำไปเพราะมารดาถูกใส่ร้าย อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวนได้พิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อนางจุรี อีก 3 ข้อหา โดยขณะนี้นางจุรีรับโทษอยู่ในเรือนจำสงขลา ตามคำพิพากษาศาล