ควันหลงยุบแท่งงานสอบสวน “โคตรฮา”ตัวแทน สตช.ยอมรับตำรวจมีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง /เผยยุทธจักรสีกากี “คับแค้น”หนัก- หวาดระแวงกันเต็มที่ “เจ้านายไม่เชื่อใจลูกน้อง - ลูกน้องไม่ไว้ใจลูกพี่” จนต้องมีคำสั่งห้ามตำรวจพกอาวุธปืนเข้ากรมปทุมวันเด็ดขาด!!??
“จันทร์อ่อนแรง อ่อนล้า ท้าความฝัน... เป็นจันทร์ ทอแสง แข่งตะวัน... จนถึง วันสุดท้าย ลมหายใจ.. สิบสอง กุมภา จันทร์ลาแล้ว... เรือสอบสวน จะแจว ไปทางไหน... คงล่องลอย แคว้งคว้าง กันต่อไป... สหพันธ์ ที่ฝันไว้ สลายพลัน....” สวัสดีครับ กระผม “บิ๊กเกรียน”ขอรายงานตัวพร้อมปฏิบัติหน้าที่นำเรื่องราว - ข่าวคราววงนอกวงในยุทธจักรสีกากีมาตีแผ่ให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบ.....
00000.....ไม่ว่าการตายของพ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สน.เทียนทะเล หรืออีกฐานะหนึ่งคือเลขาธิการสมาพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ จะออกมาในแนวฆาตกรรมอำพรางหรือเป็นการอัตนิวิบากกรรม ความเศร้าสะเทือนใจที่เกิดขึ้นมิใช่เกิดขึ้นเพียงบุตร-ธิดา ภรรยาและบุคคลใก้ลชิดเท่านั้นแต่ยังแผ่ซ่านไปยังบรรดาข้าราชการตำรวจทั่วประเทศเกือบ 3 แสนนายรวมทั้งประชาชนโดยทั่วไป ปรากฏการณ์ชีวิตแลกอุดมการณ์ไม่เคยเหือดหายไปจากสังคมไทย เฉพาะสังคมตำรวจแค่ต้นปีที่ผ่านมามีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรอย่างน้อย 3 รายต้องพลีชีพเพราะทนแรงกดดันจากการปฏิบัติหน้าที่ไม่ไหว.....
00000..... รายแรกประเดิมพุทธศักราชใหม่ปีวอกคือร.ต.อ.วิโรจน์ ดอนจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จบชีวิตความรุ่งโรจน์ในสายสอบสวนด้วยอาวุธปืนประจำกายที่บ้านพัก รายต่อมาคือร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ พงส.สน.ทุ่งสองห้อง สังกัดกองบัญชการตำรวจนครบาล ใช้ปืนจ่อยิงศรีษะต่อหน้าลูกน้อย 2 คนและภรรยาในแฟลตตำรวจ กลายเป็นข่าวครึกโครม มีตำรวจกว่า 20 นายในโรงพักลงชื่อไม่ขอร่วมงานกับ ผกก.หัวหน้าสถานี แต่สุดท้ายคือ....เงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น....ล่าสุดแม้มิได้มาจากแรงกดดันจากการทำงานโดยตรงแต่เดิมพันชีวิตเป็นเรื่องของอุดมการณ์ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับ “รัฏฐาธิปัตย์”ที่ลงดาบ “หักดิบ”ออกคำสั่ง 6/2559 และ 7/2559 ปิดตำนานระบบงานสอบสวนตำรวจไทยที่เกือบทุกคนพึงพอใจเพราะมีโอกาสเจริญเติบโตโดยไม่ต้องวิ่งเต้น ประจบประแจงเจ้านาย รวมทั้งใช้เงินทองไปซื้อตำแหน่งมา
00000.....แน่นอนว่าแม้ “อำนาจ”อันแข็งแกร่งจะสั่งเป็นสั่งตาย หรือให้เดินไปทางซ้าย ย้ายไปทางขวาตามอำเภอใจแต่ต่อไปนี้ “บิ๊กเกรียน”ขอทำนายว่าจะเกิดอาการ “ดื้อเงียบ”และขยายวงกลายเป็นความหวาดระแวงระหว่าง “ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ไว้วางใจผู้บังคับบัญชา” และ “ผู้บังคับบัญชาไม่ไว้วางใจผู้ใต้บังคับบัญชา”...เลวร้ายที่สุดอาจจะลามไปเป็น “รัฐไม่เชื่อในรัฐ” มีการตั้งหน่วยงานซับซ้อน-ทับเขตอำนาจ จากที่เคยมีไว้เพื่อเป็นการ “คาน”แต่จะเป็นตรวจสอบซึ่งกันและกันด้วยความหวาดระแวง...ตัวอย่างมีให้เห็นโทนโท่ กลับไปดูคำสั่งลับให้สันติบาล 3 ตรวจค้นอาวุธปืน และห้ามตำรวจทุกหน่วยพกพาอาวุธปืนเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างเด็ดขาด เฉพาะบริเวณอาคาร 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยิ่งเพิ่มมาตรการเข้มข้น “ตัวต่อตัว” แถมท้ายคำสั่งหากเกิดความหย่อนยาน ละเลยตำรวจที่รับมอบหมายจะถูกลงโทษด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวน...อาการ(หนัก)แบบนี้ไม่ใช่หวาดระแวงกันธรรมดาแล้ว ถึงขั้นปองร้ายหมายเอาชีวิตกันมันต้องสุดๆกันล่ะ
00000.....22 ม.ค.2559 ก่อน “จันทร์” ลาโลกไม่ถึงเดือน ในโครงการเสวนาปฏิรูปงานสอบสวน (ตำรวจ) เพื่อประชาชน พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ ในฐานะเลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อน “จันทร์” บอกว่าระบบบริหารงานของตำรวจล้มเหลวเพราะพวกนายพล แต่ปัจจุบันคนกลุ่มนี้กลับได้เข้าไปร่างกฏหมายในสภาฯ ต้นเหตุของความล้มเหลวของตำรวจอีกประการก็คือเมื่อเจ้านายได้ยศเป็นนายพล เมื่อมีอำนาจพวกนี้ใครไปขัดใจไม่ได้...แต่ที่หัวร่อไม่ได้ร้องให้ไม่ออกคือคิวของพล.ต.ต.โสพรรณ ธระโสธร ผบก.สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน ( ผบก.สบส.)ระหว่างอภิปรายท่านแฉใส้เน่าๆในแวดวงของท่านเองว่า.....พนักงานสอบสวนเติบโตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องลงทุนวิ่งเต้นซื้อตำแหน่งเข้ามาแม้แต่บาทเดียว....แฮ่ม...ท่านผู้การกำลังหมายความว่ามีตำรวจสายอื่นซื้อขายเก้าอี้กันงั้นหรือ...เอ้าช่วยกันฮาหน่อยพระเดชพระคุณท่าน...!!??
00000.....แล้วไงล่ะ ระบบ “เลื่อนไหล” มันมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้วใช่ไหมเพราะเมื่อมีผลงาน “ความชอบ”ก็ต้องตามมาโดยไม่ต้องไปเลียแข้งเลียขาใคร.. ไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาเงินใส่กระเป๋าเจ้านาย หาของฝากตอนคุณผู้หญิงจะกลับบ้าน “ผู้การโสพรรณ”มาในฐานะตัวแทน สตช.ท่านได้อ้างถึงขอดีนานัปประการรวมทั้งติงหัวข้อเสวนาที่อ้างถึง “เพื่อประชาชน”เพราะเห็นมีแต่ตำรวจพูดถึงสิทธิประโยชน์ของตัวเอง....เฮ้อออออ....อย่า “โลกสวยนะจ๊ะโลกสวย” แอะอะอ้างประชาชน (เหมือนใครไม่รู้) ความจริงก็คือความจริง “กองทัพเดินด้วยท้อง” ถ้าไม่มีแรงจูงใจใครอยากจะมาทำงานสายสอบสวน ข้อหา “ค้าสำนวน”มันทำคนเดียวได้ที่ไหนถ้า “ผู้กินกับ” หรือ ท่าน “ผู้กันไว้กิน”ไม่เอาด้วย มันต้องอิงทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด เมื่อให้พนักงานสอบสวนมีอิสระปราศจากการแทรกแทรงคนที่ได้ประโยชน์ก็คือประชาชน ส่วนคนเสียประโยชน์เห็นๆกันอยู่ก็คือบรรดาเจ้านาย หรือ “ผู้มีอำนาจ”ที่สั่งนกเป็นไม้ ไม้เป็นนกไม่ได้
00000.....ท่านผู้การโสพรรณ ยังเปรียบงานสอบสวนเหมือนร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถ้าประชาชนไม่สะดวก บริการช้าไม่รวดเร็ว ตรงนั้นต่างหากคือปัญหาเพราะอย่างไรเสียเชื่อว่าเมื่อยังอยู่ใน “มดลูก”ของ สตช.(อันนี้เกรียนว่าเอง) จะมีแต่สิ่งดีๆประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึง รวดเร็วแน่นอน.....เฮ้ออออ...”บิ๊กเกรียน”ขอถอนใจอีกเฮือก....เรื่องเร็วหรือช้าตามทัศนะ-ในฐานะประชาชนตาดำๆขอกราบเรียนใต้เท้าว่ายังไม่สำคัญเท่ากับ “ความยุติธรรม-เที่ยงตรง” ไม่ใช่จับเอง สอบเอง กระทืบเอง...เอ๊ยย...ขออภัยต้องรีบถอนคำพูด....ไม่ใช่จับเอง สอบเอง รวบรวมพยานหลักฐานเอง...แบบนี้ใครเป็นคนเสียประโยชน์ถ้าไม่ใช่ประชาชนตาดำๆ หาเช้ากินค่ำ...อย่าลืมว่ากฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา แถมตำรวจไทยยังกล่าวหาโคตรเก่ง ถ้าเจอคนผิด เจอโจร ก็แล้วไปแต่ถ้าไม่ใช่เป็นแพะเป็นแกะอย่างที่ตกเป็นข่าวบ่อยๆไม่เน่าในวันนี้จะไปเน่านอกวันไหน...ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ...พอพนักงานสอบสวนเขารวมกลุ่มกันได้ จนก่อตั้งเป็นสหพันธ์พนักงานสอบสวนฯมีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว มีเสียงนักเลงดีสีกากีคนใก้ลชิดบิ๊กอำนาจ..อุทานฟ้องลูกพี่ว่า...ดูดู๋..พวกมันขอแยกวงไม่แยกเปล่า ดันจะไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม ขี่พวกเราอีกชั้น ยุทธการ “หักดิบ”จึงกำหนดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย 00000.....ก็ว่ากันไป มีอำนาจซะอย่าง สุดท้าย “บิ๊กเกรียน”จะคอยดูว่าหน้าตาพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยุคปฏิรูป จะออกมาแบบไหน จะเหลือใครสักกี่คน จะ “รุ่ง”หรือ “เละ”ไม่ช้าไม่นานได้เห็นแน่...
00000.....สิบสอง กุมภา จันทร์ลาแล้ว...เรือสอบสวน จะแจวไปทางไหน...คงล่องลอย เคว้งคว้าง กันต่อไป...สหพันธ์ ที่ฝันไว้ สลายพลัน...หลัง “จันทร์”เสียชีวิตเพียงวันเดียวพ.ต.อ.ภรภัทร เพช็รพยาบาล ในฐานะประธานสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ แถลงข่าวสื่อมวลชนประกาศยุติบทบาท แต่......อีกตำแหน่งที่สมาชิกสหพันธ์พนักงานสอบสวนฯภาคภูมิใจคือมีชื่อของพ.ต.อ.ภรภัทร เพ็ชรพยาบาล เข้าไปเป็นอนุกรรมการ คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม....ทุกคนเชื่อว่านี่คือการรุกคืบอีกก้าว และถือเป็นการยอมรับความมีตัวตนของสหพันธ์พนักงานสอบสวนฯ...ก็ต้องถามไปยังอดีตประธานสหพันธ์พนักงานสอบสวนฯ ท่าน “เลิก”เป็นประธานสหพันธ์ฯแต่ยังรับตำแหน่งในคณะกรรมการธิการขับเคลื่อนฯอยู่หรือไม่ !!??
00000.....ถูกสะเก็ดเป็นแผลเหวอะหวะ...สหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ( ส.ปอ.ท.) นำโดยนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หน.คสช.ให้ทบทวนคำสั่งที่ 6/2559 และ 7/2559 รวมทั้งกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องดูแล-ให้ความเป็นธรรมแก่พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ ที่ผูกคอตาย...ผลมีคำสั่งกรมการปกครอง โดยร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภิต อธิบดีกรมการปกครอง ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยฐานก้าวก่าย และแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล....อุ้ยต๊ายตายอกอีแป้นแตก...นี่เอากันขนาดนี้เลยเรอะ “บิ๊กเกรียน”กราบงามๆท่านผู้มีอำนาจ หยุดซะทีเรื่องใช้ “กำปั้นเหล็ก”ทุบซ้ายทุบขวา “คนไม่ใช่แมว” นะฮ้า...!!?? หัวใจทำด้วยเนื้อทั้งนั้น แม้เขาจะยอมก้มหัวให้แต่ไม่มีวันได้ความนับถือ
00000.....นี่ก็ไม่เบา...คำปฏิเสธของนายอาเดม และยูซุฟู คงไม่ดังแค่สยามประเทศ ใคร!!?? รู้สึกเช่นไร..คงห้ามกันไม่ได้ แต่ในฐานะ “คนไทย” บอกตรงว่ารู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล ฝากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง “เข้มหนัก”อย่าประมาทอย่างเด็ดขาด แต่ที่อยากเอามาเม้าท์-มอยเสี่ยสมหวัง อัสราษี เสี่ยดังเสื้อแดงโพสต์ข้อความลงเฟสบุค ให้เหตุผลยังไม่จ่ายเงิน 2 ล้านเป็นค่าหัวมือระเบิดศาลท่านท้าวมหาพรหม ก็เพราะมีข้อสงสัย-เคลือบแคลงหลายประการ “ตบท้าย”เสี่ยเสื้อแดงระบุว่า ผบ.ตร.ในขณะนั้น (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง) ต้องการปิดคดีก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นเกียรติประวัติ...เอ้า แบบนี้คนที่ยังอยู่ในราชการ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรมณกุล “ว่าที่ ผบ.ตร.”จะออกมาโต้กันอีกสักยกไหม......ตบท้ายให้คิด....”อำนาจของกรรมยิ่งใหญ่ที่สุด” สวัสดีครับพบกันใหม่วันศุกร์หน้าขอให้ทุกท่านโชคดีมีเงินใช้....00000