xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอสอบปมฟอกเงิน-รับของโจร เครือข่ายธรรมกาย กรณีรับเช็ค 2 พันล้าน เหตุไร้มูลหนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - รองอธิบดีดีเอสไอ เผย เตรียมสอบปมฟอกเงิน - รับของโจร พร้อมแยกสอบแบบเจาะราย 6 กลุ่ม และครือข่ายธรรมกาย - พระ 20 รูป กรณีรับเช็คไม่มีมูลหนี้ 2 พันล้านบาท รับเช็คไม่มีมูลหนี้ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ 4 ราย อายัดทรัพย์ศุภชัยเพิ่ม 400 ล้านบาท กรณีโอนชื่อบุคคลอื่นซื้อที่ดิน

วันนี้ (2 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ชั้น 1 ห้องประชุม 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ พร้อม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะพนักงานสอบสวนพิจารณาคำสั่งของ นายนภดล บุญศร อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ในคดีพิเศษที่ 146/2556 (คดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด)

โดยมีประเด็นสำคัญในการพิจารณาความผิดของกลุ่มผู้รับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ทั้งหมด 7 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มบุคคลที่ไม่มีมูลหนี้, กลุ่มวัดพระธรรมกาย, กลุ่มสหกรณ์อื่น ๆ, กลุ่มผู้ต้องหาและเครือข่าย, กลุ่มบุคคลธรรมดาที่รับเช็ค, กลุ่มนายหน้าค้าที่ดิน และ กลุ่มนิติบุคคลที่ไม่มีมูลหนี้ ใช้เวลาการประชุมราว 2 ชั่วโมง

พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ผลการประชุมในวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาในประเด็นความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติม โดยมี นายศุภชัย เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ส่วนผู้รับเช็คคนอื่นจะมาพิจารณาว่ารับเช็คโดยมีมูลหนี้หรือไม่มีมูลหนี้กันต่อไป ซึ่งทางสอบสวนจะแยกพนักงานสอบสวนออกเป็น 7 กลุ่ม ส่งผลให้การดำเนินคดีรวดเร็วขึ้นและเดินไปพร้อมกัน คาดว่า ใช้เวลาไม่นาน ถ้าหากการสอบสวนคดีกลุ่มไหนเสร็จเรียบร้อยทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งข้อหากับผู้กระทำผิดในกลุ่มนั้นทันที

“อีกเรื่องทางพนักงานอัยการให้ ดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ กับ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร น.ส.ศรัณยา มานหมัด นายลภัส โสมคำ และ นายกฤษฎา มีบุญมาก ส่วนนี้สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เป็นผู้ดำเนินการแจ้งข้อหากับบุคคลทั้ง 4 นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ตรวจพบทรัพย์สินของ นายศุภชัย เพิ่มเติมอีก 3 รายการ 1. รายการของ นายสุวิช ฤทธิศร เป็นผู้ลงชื่อรับเช็คของ สหกรณ์คลองจั่น จำนวน 168 ล้านบาท นำไปซื้อที่ดินสร้างรีสอร์ต มูลค่า 20 ล้านบาท 2. เกี่ยวกับที่ดิน ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พื้นที่ 1,984 ไร่ มี นางบุญชอบ บุญจันทึก รับเงินจากสหกรณ์คลองจั่นยูเนียนฯ จำนวน 367 ล้านบาท และ 3. ที่ดิน อ.เมือง จ.มหาสารคาม พื้นที่ 3 ไร่เศษ มูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท ซึ่งทำการอายัติทรัพย์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว” พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าว

พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับ นายจิรเดช วรเพียรกุล และ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ นั้น พนักงานสอบสวนชุดเก่าสรุปสำนวนส่งอัยการ คดีพิเศษ 146/2556 ข้อหา ร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยทั้งสองคนไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ฯ ไม่ได้มีส่วนในการครอบครองเงินเพียงแค่รับเช็คจาก นายศุภชัย ซึ่งไม่เข้าองค์ประกอบความผิดในเรื่องของ ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ทางพนักงานอัยการพิจารณาห็นตามพนักงานสอบสวนที่เสนอมาจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องทั้งคู่แต่กรณีรับเช็คทาง ดีเอสไอ จะดำเนินคดีในเรื่องของฟอกเงินและรับของโจร ส่วนจะมีคนอื่น ๆ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นขอเวลาตรวจสอบสักระยะ

พ.ต.ท.ปกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับการพิจารณาคดีเกี่ยวกับผู้รับเช็ค 878 ฉบับ แบ่งทั้งหมดออกเป็น 7 กลุ่มดังกล่าวแล้ว ซึ่งหลังการประชุมได้ให้พิจารณาคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินและรับของโจรกับกลุ่มต่าง ๆ เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนกลุ่มวัดพระธรรมกายอยู่ในกลุ่มรับเช็คไม่มีมูลหนี้ 1,200 ล้านบาท และรวมกับพระในเครือข่ายประมาณ 20 รูป รวมเป็นเงิน 2,000 ล้านบาท ขอเวลาสอบสวนเพิ่มเติมแต่ไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งอะไรทั้งสิ้น

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า คดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เริ่มต้นคดีแรกที่ ดีเอสไอ รับไว้ดำเนินการ คือ คดีพิเศษ 146/2556 ข้อหา ยักยอกทรัพย์ ต่อมาส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการแต่ทางอัยการมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมและเชื่อมโยงคดีที่ 2 คดีพิเศษ 63/2557 กรณี ฉ้อโกงประชาชน หากตรวจสอบกันจริงแล้ว คดีพิเศษ 63/2557 เกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจาก นายศุภชัย และพวก ทำเอกสารปลอมเพื่อชักจูงประชาชนมาลงทุนกับสหกรณ์ฯ เช่น ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงเกินความจริง เป็นต้น ส่งผลให้มีผู้ลงเชื่อนำเงินมาลงทุน 6,866 ล้านบาท หลังจากได้ยอดเงินจะนำเข้าสหกรณ์ฯ ต่อมากลายเป็นคดีพิเศษ 146/2556 เกี่ยวข้องกับการออกเช็ค 878 ฉบับให้กับ 7 กลุ่ม โดยมีการสร้างหลักฐานปลอมในการปิดบังยอดบัญชีจริง

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น