xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านหินเพิงโคราชร้องกระทรวงยุติธรรม ถูกบริษัทเอกชนปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ชาวบ้านหมู่บ้านหินเพิงจังหวัดนครราชสีมายื่นหนังสือร้องเรียนกระทรวงยุติธรรม ถูกบริษัท ฟาร์มโชคชัย ปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน หลังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ด้าน “บิ๊กต๊อก” เตรียมใช้วันแมปในพื้นที่ทับซ้อนทั่วประเทศ

วันนี้ (1 ก.พ.) เวลา 10.30 น. ชั้น 2 ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายสมาน เขียนโคกกวด พร้อมด้วย ตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านหินเพิง ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ราว 30 คน เดินทางมายื่นเอกสารร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรม หลังบริษัท ฟาร์มโชคชัย กำหนดเวลาปิดเปิดประตูทางเข้าออกหมู่บ้าน

นายสมานกล่าวว่า บริษัทฯ ทำประตูทางเข้าออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4 พันไร่ซึ่งเป็นหญ้ารกร้าง กว่า 10 ปี โดยชาวบ้านในหมู่บ้านใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรและทำการเกษตร ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จนกระทั่งช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ระบุเวลาปิด-เปิดทางเข้าออกตั้งแต่ 07.00-13.00 น. ทำให้ชาวบ้านได้รับเดือดร้อนอย่างมากและไม่สามารถออกไปไหนได้หากเลยกำหนดเวลา อีกทั้งตนสงสัยว่าโฉนดที่ดินบริเวณนี้ทำไมเพิ่งออกมาทีหลังเนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีมาสมัยตั้งแต่ปู่ย่าตายาย

นายสมานกล่าวอีกว่า ทางบริษัททำประตูด้านหน้าพร้อมกับมีป้อมยาม ส่วนด้านหลังทำประตู 2 ชั้นและปิดสนิท ไม่ทราบว่าที่ทำไปเพราะอะไร หรืออาจเป็นการกลั่นแกล้งชาวบ้าน ที่ผ่านมาตนและชาวบ้านเคยร้องเรียนต่อ อบต.ขนงพระ เพราะเป็นผู้มีอำนาจโดยตรงสั่งการได้ แต่ไม่ทำ รวมทั้งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ เช่น กระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สุดท้ายไม่เป็นผลจึงทำให้ต้องเดินทางมาร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความเป็นธรรม

“อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดูแลชาวบ้านหมู่บ้านหินเพิงซึ่งมีประมาณ 20 กว่าหลังคาเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนและยากลำบากจริงๆ การมาวันนี้อยากให้กระทรวงยุติธรรมเข้าไปช่วยเหลือเจรจาเพื่อให้บริษัทดังกล่าวเปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน รวมทั้งมอบเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์และทำเกษตรกรรม โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และไม่ให้มีสิ่งกีดขวางใด” นายสมานกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้แล้วและเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนเดินทางมาจำนวนมาก ส่วนบัตรสนเท่ห์หรือหนังสือร้องเรียนอื่นทางกระทรวงยุติธรรมรวบรวมเป็นชุดเดียวกันและก็ส่งให้เจ้าหน้าที่อนุกรรมการลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบริเวณนั้นเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่

พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนไม่ใช่เฉพาะชาวบ้านที่มาร้องเรียนในวันนี้เท่านั้น แต่จะทำทุกพื้นที่ทั้งหมดเนื่องจาก พล.อไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายกำหนดแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4,000 หรือวันแมป โดยหากบริเวณใดมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนกัน ทั้งที่ดิน ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ ส.ป.ก. หรือทางสาธารณะ ชุดตรวจสอบจะดำเนินการแบบเดียวกันและศึกษาที่มาของพื้นที่บริเวณนั้นว่าสามารถออกเอกสารสิทธิ ไม่ว่าจะเป็น น.ส.3 หรือโฉนดที่ดิน จากหนังสือนิคมสร้างตนเองก่อน

“กระทรวงยุติธรรมจะเอาโฉนดที่ดินทั้งหมดของนิคมสร้างตนเองไปให้สมาชิกที่เป็นชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ว่าอยู่ในพื้นที่บริเวณใดกันบ้างมายืนยันในอัตราส่วนตามกำหนดจะได้รู้ว่าออกทับพื้นที่สาธารณะตรงไหน หรือออกเกินแผนที่ท้าย พ.ร.บ.นิคมสร้างตนเองหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิทับพื้นที่ทางสาธารณะตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง ทับที่ชาวบ้าน ที่ป่า ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ควรจะแก้ไข เพราะประชาชนเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน แต่ปรากฏว่าที่ทำกินออกโดยนิคมฯ สุดท้ายกลับไปอยู่ในมือนายทุนทั้งหมด จึงเตรียมนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อแก้ไขอย่างเป็นระบบทั้งหมด”







กำลังโหลดความคิดเห็น