xs
xsm
sm
md
lg

“หลวงปู่พุทธะอิสระ” ลุยดีเอสไอทวงคดี “ธัมมชโย”ปมปาราชิก หาก “มส.-พศ.” นิ่งต้องรับผิดชอบฐานละเลย(มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ลุยดีเอสไอ ทวงความคืบหน้า 11 ประเด็นที่เคยร้องเรียนกรณี “ธัมมชโย” ปมพระลิขิต “สมเด็จพระสังฆราช” ต้องปาราชิกแล้ว หาก “มส.-พศ.” รวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบฐานละเลย เตรียแจ้งเอาผิดแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์



วันนี้ (26 ม.ค.) เวลา 09.00 น. อาคารบี ชั้น 8 สำนักคดีความมั่นคง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ถิรพล พิณเมืองงาม ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับ 11 ประเด็นที่เคยร้องเรียนกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยใช้เวลาพูดคุยเกือบ 2 ชั่วโมง

หลวงปู่พุทธะอิสระปิดเผยหลังการหารือเสร็จสิ้นว่า วันนี้มาเพื่อติดตามข้อมูลทั้ง 11 ประเด็น หลังจากมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนบางสำนักว่ามีการคัดเลือกคดีและจำหน่ายคดีออก ซึ่งดูว่ามีคดีอะไรบ้างที่จำหน่ายออกและคงเอาไว้ ทำให้ทราบว่าที่ตกเป็นข่าวไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เพราะมีอีกหลายประเด็นที่ดีเอสไอกำลังสืบสวนสอบสวนอยู่และจะรีบสรุปสำนวนให้ทันเวลาที่รับปากเอาไว้

หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวอีกว่า ทางดีเอสไอส่งหนังสือยืนยันเรื่องพระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีมูลความจริงและสามารถดำเนินการได้ โดยมีสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับมหาเถรสมาคม (มส.) จะต้องนำไปพิจารณาเพราะถือว่าพระบัญชาเป็นกฎหมาย และหากไม่กระทำการใดๆ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของพระพุทธะอิสระที่จะดำเนินการเองและจะส่งเรื่องให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา คาดว่าประมาณวันที่ 28 ม.ค.นี้

“อาตมาไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ขอเพียงอย่าปกป้องธัมมชโย ซึ่งไม่สนใจอยู่แล้วว่าใครจะเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่คนที่เป็นสมเด็จพระสังฆราชต้องไม่ปกป้องคนชั่วและไม่ผิดธรรมวินัย ส่วนคดีธัมมชโยนั้นทางดีเอสไอแจ้งความคืบหน้าว่าส่งหนังสือสรุปการสืบสวนสอบสวนประเด็นพระลิขิต หรือพระบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เอาไปให้ทั้ง สำนักนายกรัฐมนตรี, ผอ.สำนักพุทธศาสนาฯ และ มส.แล้ว โดยไม่มีกำหนดกรอบเวลาชัดเจนเพียงแค่บอกว่าไม่นาน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมากเพราะรู้ว่าพึ่งไม่ได้มากอยู่แล้ว แต่จะไปที่ ป.ป.ช.เพราะมีคดีเกี่ยวกับ ม.157 เข้าข่ายกฎหมาย ป.ป.ช.อยู่ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์นี้จะเดินทางไปยื่นเรื่องที่ ป.ป.ช. โดยจะเอาผิดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”

หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 11 ประเด็นที่ติดตามข้อมูลจะเกี่ยวข้องกับคดี ม.112 กรณีธัมมชโย ถ้าไม่ใช่พระสงฆ์ตั้งแต่ปี 2542 ตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช แต่ปี 2554 ทาง พศ.และ มส. เอาชื่อธัมมชโยที่ไม่ใช่พระไปขอพระราชทานสมณศักดิ์ ก็เข้าข่ายผิด, คดีเกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ซึ่งอัยการใกล้สั่งฟ้องแล้วรอตรวจสอบเอกสาร, คดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, คดีแต่งกายเลียนแบบพระ, คดีเกี่ยวกับความมั่นคงของพระพุทธศาสนา และพระธรรมวินัย, คดีตรวจสอบเรื่องเงินประจำตำแหน่งของสมเด็จพระสังฆราชที่ พศ.และ มส.เบิกมาใช้โดยมิชอบประมาณ 10 กว่าล้านบาท

หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวต่อว่า ยังมีบางประเด็นที่ได้ปรึกษากันว่าควรจะถอนคดีออกเพราะจะทำให้เกิดความล่าช้า หากตรวจสอบ 11 ประเด็นทั้งหมด อาทิ กรณีการตรวจสอบเรื่องเงินที่ พศ. เบิกจ่ายให้กับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งทั้ง 2 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ เพราะหากให้ตรวจสอบอาจจะช้าและไม่ทัน, คดีพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เนื่องจากมรณภาพไปแล้วไม่รู้จะเอาผิดต่อใคร กรณีการยักยอกทรัพย์ นอกจากนี้ ส่วนประเด็นเสร็จแล้วสรุปได้เลย คือ ประเด็นพระลิขิต ซึ่งมีผลบังคับแต่ไม่มีใครทำอะไรเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีบางคนที่เกี่ยวข้องออกมาพูดว่าพระลิขิต หรือพระบัญชา ไม่มีผลทางกฎหมาย เป็นเพียงว่าให้ความเคารพในการปกครองเท่านั้น โดยทางด้านหลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า อำนาจในการปกครองของสมเด็จพระสังฆราชมีอยู่ใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 18 พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งสังฆปริณายก คำสั่งใดอันเป็นคำสั่งชอบด้วยพระธรรมวินัยหรือกฎหมายบ้านเมือง ถือว่ามีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย เจ้าพนักงานของรัฐมีทำหน้าที่ต้องกำกับดูแลให้คำสั่งเหล่านั้นเป็นไปตามพระบัญชา นั่นคือ มส., พศ. และ ตำรวจ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบพุทธศาสนาเนื่องจากเป็นกฎหมาย อย่างไรก็ตาม วันที่ 28 ม.ค. าจะนำหลักฐานมาเพิ่มให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากหลวงปู่พุทธะอิสระได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้นได้เดินทางต่อไปยัง สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมลูกศิษย์ราว 20 คน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่แจ้งความเอาผิดต่อพระธัมมชโยในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์










 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น