กรมศุลกากรร่วมกรมอุทยานฯ นำงาช้างที่ตรวจยึดจากสนามบินสุวรรณภูมิมาแจ้งความ สตช.

MGR Online - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การค้างาช้างผิดกฎหมาย ขณะที่กรมศุลกากร และกรมอุทยานฯ นำงาช้างจำนวน 7 กิ่ง หลังตรวจยึดได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิมาแจ้งความที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศปทส.ตร. ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมศุลกากร, ฝ่ายทหาร และผู้รับผิดชอบสนามบินและท่าเรือนานาชาติในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย, กรมการขนส่งทางอากาศ, บริษัทการบินกรุงเทพฯ, ท่าเรือกรุงเทพฯ, ท่าเรือแหลมฉบัง,เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธร 1-9, ศชต., สตม., ตชด., บก.ปทส., ตท. ร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์การค้างาช้างผิดกฎหมายในรอบปีที่ผ่านมา และกำหนดมาตรการร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการค้างาช้างแอฟริกาที่ผิดกฎหมายโดยการนำเข้าส่งออกหรือใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวก่อนประชุมว่า วันนี้กรมศุลกากรและกรมอุทยานฯ ได้นำของกลางงาช้างจำนวน 7 กิ่ง น้ำหนักรวมประมาณ 25.6 กก. มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งบรรจุในกระเป๋าเดินทางสีเทาอ่อน เป็นกระเป๋าสัมภาระล่าช้าซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ได้บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาด้วยเครื่องเอกซเรย์ ระหว่างเครื่องบินมาพักรอเตรียมเดินทางต่อไปเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว แต่ไม่มีเจ้าของมาแสดงตัว มาแจ้งความต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่างาช้างจำนวนดังกล่าวมีต้นทางจากเมืองลูอันดา ประเทศแองโกลา กำลังจะเดินทางไปประเทศลาว โดยหลังจากนี้จะส่งให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบดีเอ็นเอพิสูจน์ว่าเป็นงาช้างเอเชียหรืองาช้างแอฟริกา ขณะที่จะมีการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนต่อไป แต่เรื่องนี้เป็นงาช้างที่มาจากต่างประเทศอาจต้องให้อัยการสูงสุดมาควบคุมการดำเนินการต่อไป

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า แผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ปี 2558 ได้สิ้นสุดลงและตอนนี้กำลังร่างแผนปี 2559 ขึ้นใหม่ โดยจะดำเนินการเพื่อความต่อเนื่อง ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของบประมาณจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อดำเนินการป้องกันจับกุมงาช้างผิดกฎหมายต่อ ซึ่งตำรวจมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั้ง 12 จังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่านของขบวนการค้างาช้าง เพื่อส่งไปยังประเทศที่มีความต้องการทั้งเวียดนามและจีน โดยที่ผ่านมาพบว่ามีการขนส่งทั้งทางรถยนต์ เรือ และเครื่องบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทั้งมีการออกตรวจร้านค้างาช้างผิดกฎหมายทุกวันอีกด้วย

พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ในคดีนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ในฐานความผิดนำเข้าสัตว์ป่าคุ้มมครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 23 และ 24 โดยจากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งเพื่อความชัดเจน

ด้านนายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวภายหลังสาธิตการตรวจสอบแยกภูมิประเทศของงาช้างต่อสื่อมวลชนว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นด้วยเครื่องมือเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ชนิดพกพา (fluorescence : XRF) ซึ่งถูกพัฒนาจากนักวิทยาศาสตร์ โดยมีความแม่นยำถึง 100 เปอร์เซ็นต์ พบว่าเป็นงาของช้างประเทศแถบทวีปแอฟริกา

อย่างไรก็ตาม จากนี้จะต้องนำงาช้างทั้งหมดไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดต่อไป