คาดกู้ซากเรือบรรทุกทรายสำเร็จ พรุ่งนี้ (7 ม.ค.) หลังล่มในแม่น้ำย่านปากเกร็ด จากการชนกับเรือขนน้ำตาล เจ้าหน้าที่เผยวางแผนกว่า 1 เดือน พร้อมแจ้งเตือนเรือที่สัญจรไปมาในเวลาค่ำคืน หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ
วันที่ 5 ม.ค. 59 ที่วัดเชิงเลน หมู่ 8 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสมยศ ศิลปีโยดม นายอำเภอปากเกร็ด นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำยลท่าอิฐ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สภ.คลองข่อย และ นายวิทยา ยาม่วง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 ได้เดินทางเข้าร่วมสำรวจการกู้ซากเรือเหล็กบรรทุกทราย ขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 26 เมตร ลึก 4 เมตร หนัก 700 ตัน ราคาประมาณ 1.3 ล้านบาท ที่เกิดอุบัติเหตุชนกับเรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่ม เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 23 พ.ย. 58 ที่ผ่านมา
จากการสำรวจความลึกของร่องน้ำตรงจุดที่เรือจมมีความลึกประมาณ 35 เมตร ประกอบกับเรือที่จมบรรทุกทรายมาเต็มลำทำให้ยากแก่การกู้ซากเรือขึ้น ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการกู้ซากครั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำซ้ำซาก เนื่องจากเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาตรงจุดนี้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรของเรือบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากเกรงว่าจะเกิดอันตราย โดยเริ่มกู้ซากมาตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 58 จนถึงวันนี้เพิ่งจะเริ่มพ้นน้ำ คาดว่าพรุ่งนี้จะสามารถเก็บกู้สำเร็จ
ในการกู้ซากครั้งนี้ต้องใช้เรือยนต์ขนาด 450 แรงม้า จำนวน 4 ลำ ในการลากจูงให้เข้าร่องน้ำตื้น จากนั้นใช้ทุ่นที่เป็นถังเหล็กขนาดใหญ่จำนวน 2 ใบ ทำการสูบบรรจุลมเข้าด้านในเพื่อให้เกิดแรงพยุงตัวเรือเหล็กให้พ้นน้ำ แต่เนื่องจากภายในยังมีปริมาณทรายจำนวนมากทำให้หัวเรือโผล่พ้นน้ำมาเท่านั้น หลังจากนี้จะต้องทำการสูบเอาทรายที่อยู่ด้านในออกก่อนจึงจะสามารถเคลื่อนย้ายเรือเหล็กดังกล่าวส่งซ่อมแซมต่อไป
นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ เปิดเผยว่า เกิดเหตุก่อนลอยกระทง 2 วัน เรือที่จมมาจากลัดเกร็ด ส่วนเรือบรรทุกน้ำตาลทรายมาจาทางวัดใหญ่ เกิดการชนกันจนล่ม ใช้เวลาเก็บกู้และว่างแผนมากว่า 1 เดือน เนื่องจากขนาดและน้ำหนักเรือ ขณะเก็บกู้ทางจังหวัดนนทบุรีและกรมเจ้าท่าได้มีการแจ้งเตือนเรือที่สัญจรพร้อมทั้งติดสัญญาเตือนในเวลาค่ำคืน มีหลายหน่วยงานที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะสำเร็จ
