xs
xsm
sm
md
lg

ศาลนัดฟังพิพากษา “มือปืนป็อปคอร์น” ยิงปะทะเสื้อแดงแยกหลักสี่ 3 มี.ค.ปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป ฉายามือปืนป็อบคอร์น (แฟ้มภาพ)
MGR Online - อดีตคณะกรรมการสิทธิฯ เบิกความเป็นพยานคดี “ป็อปคอร์น” ระบุได้รับร้องเรียนจากจำเลยว่าถูกบังคับให้รับสารภาพ ด้าน “สุชาติ ศรีสังข์” ยันระหว่างพามวลชนไปแยกหลักสี่ถูกขว้างปาก้อนหิน และได้ยินเสียงปืนยิงกันนาน 1 ชั่วโมง หลังเบิกความเสร็จศาลนัดฟังคำพิพากษา 3 มี.ค.ปีหน้า

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย คดีหมายเลขคดีดำ ที่ อ.1626/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป เจ้าของฉายามือปืนป็อปคอร์น อายุ 24 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำอาวุธปืนออกนอกเคหสถานภายในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา มาตรา 288, 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 8ทวิ, 72, 72 ทวิ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 ม.5, 6, 11 และ 18

คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2557 สรุปความผิดจำเลยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกได้มีปืนเล็กยาวไม่ทราบชนิดและขนาด ติดตัวไปที่ทางแยกหลักสี่ เขตหลักสี่ พื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และยิงปืนเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอทีสแควร์ จน น.ส.สมบุญ สักทอง ผู้เสียหายที่ 1 นายอะแกว แซ่ลิ้ว ผู้เสียหายที่ 2 นายนครินทร์ อุตสาหะ ผู้เสียหายที่ 3 และนายพยนต์ คงปรางค์ ผู้เสียหายที่ 4 ได้รับอันตรายสาหัส เเละเป็นเหตุให้นายอะเเกว ผู้เสียหายที่ 2 เสียชีวิตภายในระยะเวลาต่อมา เหตุเกิดที่แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายวิวัฒน์มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ต่อมานายสอและ กูมุดา ทนายความจำเลยนำพยานเข้าเบิกความ 2 ปาก ประกอบด้วย นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และนายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำกลุ่ม กปปส.

ทั้งนี้ นพ.นิรันดร์เบิกความต่อศาลสรุปว่า เหตุที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ต้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้เพราะมีผู้ชุมนุมร้องเรียนว่ามีการละเมิดสิทธิโดยการใช้อำนาจรัฐต่อตัวนายวิวัฒน์ โดยนายวิวัฒน์ถูกคุมตัวในข้อหาใช้ความรุนแรงระหว่างการชุมนุม และถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงต่อร่างกาย ข่มขู่บังคับทำให้ต้องรับสารภาพ ซึ่งเมื่อต้นปี 2557 ตนและคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองได้เข้าพบนายวิวัฒน์ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อเข้าพบนายวิวัฒน์แจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวมาจากภาคใต้โดยมีชายฉกรรจ์นอกเครื่องแบบแล้วนำตัวจำเลยมาที่ กทม. ระหว่างนั้นกลุ่มชายดังกล่าวได้พูดจาข่มขู่เพื่อให้นายวิวัฒน์ให้การรับสารภาพ

ต่อมานายสุชาติเบิกความระบุว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 ก่อนเกิดเหตุตนปราศรัยบนเวทีห้าแยกลาดพร้าว จากนั้นจึงพามวลชนมุ่งหน้าไปแยกหลักสี่ ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อไปรวมกลุ่มกับผู้ชุมนุมเวทีของหลวงปู่พุทธะอิสระ โดยขบวนมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประมาณ 20 คัน พอไปขบวนถึงแยกหลักสี่ได้มีกลุ่มคนมาพูดคุยเจรจา หลังจากนั้นได้มีการปาหินเข้ามาใส่ขบวนรถ ตนจึงประกาศว่าห้ามตอบโต้ ก่อนจะได้ยินเสียงดังคล้ายปืนและระเบิดดังขึ้นมาจากศูนย์การค้าไอทีสแควร์ ซึ่งได้ยินเสียงปืนดังนานประมาณ 1 ชั่วโมง พอเสียงปืนสงบจึงประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปที่เวทีแจ้งวัฒนะ และเมื่อถึงเวทีแจ้งวัฒนะตนได้พาผู้ชุมนุมกลับไปที่เวทีห้าแยกลาดพร้าว เพราะสถานการณ์ไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ยืนยันไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายวิวัฒน์ จำเลยในคดีนี้

ภายหลังจากนายสอและ กูมุดา ทนายความนายวิวัฒน์ จำเลย นำพยานเข้าเบิกความเสร็จสิ้นทั้ง 2 ปากแล้ว ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 3 มี.ค. 2559 เวลา 10.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น