ศาลนัดพร้อมคดี “ป็อปคอร์น” ยิงปะทะกลุ่มเสื้อแดงกลางแยกหลักสี่ อัยการระบุพยานโจทก์บางรายจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่พร้อมจะนำตัวมาเบิกความตามนัด ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก 3 พ.ย.นี้
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคดีหมายเลขคดีดำ ที่ อ.1626/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป มือปืนป็อปคอร์น อายุ 24 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำอาวุธปืนออกนอกเคหะสถานภายในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา มาตรา 288, 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 8ทวิ, 72, 72ทวิ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 ม.5, 6, 11, และ 18
คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2557 สรุปความผิดจำเลยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกได้มีปืนเล็กยาวไม่ทราบชนิดและขนาด ติดตัวไปที่ทางแยกหลักสี่ เขตหลักสี่ พื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และยิงปืนเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอทีสแควร์ จน น.ส.สมบุญ สักทอง ผู้เสียหายที่ 1 นายอะแกว แซ่ลิ้ว ผู้เสียหายที่ 2 นายนครินทร์ อุตสาหะ ผู้เสียหายที่ 3 และนายพยนต์ คงปรางค์ ผู้เสียหายที่ 4 ได้รับอันตรายสาหัส เเละเป็นเหตุให้นายอะเเกว ผู้เสียหายที่ 2 เสียชีวิตภายในระยะเวลาต่อมา เหตุเกิดที่แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายวิวัฒน์ มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ต่อมาอัยการโจทก์แถลงว่าได้จัดส่งหมายเรียกให้แก่พยานที่จะนำเข้าสืบในคดีนี้แล้ว โดยได้รับทราบผลจากการส่งหมายมาแล้วบางส่วนและมีพยานบางรายเดินทางไปต่างประเทศช่วงระหว่างวันที่ 6-11 พ.ย. 2558 และบางรายได้ถึงแก่ความตายแล้วซึ่งพยานที่ยังไม่ทราบผลการส่งหมายนั้น คาดว่าการส่งหมายน่าจะได้รับหลังจากนี้ ส่วนพยานที่เดินทางไปต่างประเทศหากเดินทางกลับมาแล้วโจทก์จะให้พนักงานสอบสวนติดต่อไปยังพยานเพื่อนำตัวมาเบิกความต่อศาลในวันกำหนด ส่วนทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า พยานที่นำเข้าสืบในคดีนี้ได้มีการประสานไว้แล้ว หากถึงวันนัดก็พร้อมที่จะนำพยานเข้าสืบ
ศาลพิจารณาแล้วจึงให้นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ในวันที่ 3 พ.ย.เวลา 09.30 น.
ภายหลัง น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทีมทนายความจำเลย กล่าวว่า วันนี้เป็นการนัดเพื่อสอบถามความพร้อมการนำพยานเข้าสืบซึ่งคดีนี้อัยการโจทก์มีพยานจะนำสืบประมาณ 40 ปาก ส่วนจำเลย เคยแถลงแล้วมีพยาน 10 ปากนำสืบต่อสู้คดี ในส่วนของข้อหาที่พนักงานอัยการแก้ไขฟ้องหลังจากที่นายอะแกว แซ่ลิ้ม หนึ่งในผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เสียชีวิตลงนั้น เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านอัยการได้แก้ไขฟ้องเพิ่มในความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแล้ว โดยคดีจะเริ่มนำสืบพยาน 3 พ.ย.นี้
