xs
xsm
sm
md
lg

ร้องทุกข์รองปลัดยุติธรรม ลูกชายติดคุกตลอดชีวิตคดียาเสพติด เชื่อไม่ได้ทำผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม พร้อมครอบครัวของผู้ต้องขังคดียาเสพติด ร้องทุกข์ต่อรองปลัดกระทรวงยุติธรรมขอความเป็นธรรมและร้องขอให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูก สน.ท่าเรือ จับกุมในคดียาเสพติด โดยให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด

สืบเนื่องจากกรณีนายกฤษณะ พงษ์ทอง หรือเอ็ม อายุ 26 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ปี 4 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ จับกุมพร้อมของกลางยาไอซ์ 49.90 กรัม ยาบ้า 968 เม็ด และจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นสกูปปี้ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน สลย 262 กรุงเทพมหานคร ก่อนโดนแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ติดตามจับกุมได้บริเวณหมู่บ้านพฤกษชาติ ถ.รามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2556 ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1 ล้านบาท

ล่าสุด วันนี้ (21 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ชั้น 8 สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ นายกมล พงษ์ทอง อายุ 57 ปี และ น.ส.ดลนภา สารพัฒน์ อายุ 50 ปี บิดามารดาของนายกฤษณะ พงษ์ทอง พร้อมด้วย น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม นางณัฐาศิริ เบิร์กแมน ผู้จัดการโครงการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นเอกสารขอความเป็นธรรมให้แก่บุตรชาย เพราะทางครอบครัวเชื่อว่าบุตรชายไม่ได้ทำ และสงสัยในขั้นตอนการสืบสวนของตำรวจ สน.ท่าเรือ

นายกมลกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรมและนำข้อมูลหลักฐานใหม่มาให้เพิ่มเติมหลังจากลูกชายติดคุกรวมเป็นระยะเวลา 2 ปี 9 เดือน 21 วัน ที่เรือนจำคลองเปรม แดน 2 โดยตนจะไปเยี่ยมประจำทุกวันพุธ โดยลูกชายบอกกับตนว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและให้ช่วยเดินเรื่องข้างนอกให้ด้วย

“ที่ผ่านมาคำกล่าวอ้างของตำรวจให้การว่าลูกชายผมส่งยาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ในความจริงครั้งที่ 1 และ 2 หายไปไหนไม่มีในประวัติ รวมทั้งตอนค้นตัวลูกชายนั้นไม่ได้มีการถ่ายรูปเป็นหลักฐานเอาไว้ด้วย อ้างว่ากลัวเป็นอันตราย นอกจากนี้ยังอ้างว่าจะจับลูกชายผมไปขยายผลต่อ แต่สุดท้ายไม่ได้ทำอะไรเลย ทำให้ผมตั้งข้อสงสัยการทำงานของตำรวจว่าไม่ชอบมาพากล” นายกมลกล่าว

ด้าน น.ส.พรเพ็ญเปิดเผยว่า มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเป็นองค์กรคอยช่วยเหลือผู้ร้องเรียนด้านต่างๆ รวมทั้ง ยาเสพติด โดยคดีนี้เมื่อช่วงประมาณปลายเดือน ธ.ค. 56 ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1 ล้านบาท ต่อมาศาลอุทธรณ์ยื่นตามศาลชั้นต้นและตัดสินเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 57 แต่ทางครอบครัวได้ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 58 เนื่องจากเห็นว่าเป็นโทษคดีหนักและมีหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งจริงๆ แล้วคดียาเสพติดจะห้ามยื่นฎีกายกเว้นบางกรณี โดยขณะนี้รอศาลพิจารณาคำร้องขออนุญาตว่าจะรับหรือไม่ หากศาลรับจะยกข้อฎีกาพร้อมคำร้องมาพิจารณาใหม่

พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า เบื้องต้นขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดซึ่งมีความละเอียดอ่อนมาก นอกจากนี้ ผู้ที่ตกเป็นผู้กระทำผิดยังเป็นเยาวชนอีกด้วย โดยขั้นตอนหลังจากนี้ทางกระทรวงยุติธรรมจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เรือนจำคลองเปรมเพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าสอดคล้องมีแนวโน้มความเป็นจริงหรือไม่ หลังจากนั้นจะแปลงข้อมูลที่ได้มาเป็นคำถามเชิงจิตวิทยาให้นายกฤษณะตอบ และขั้นตอนต่อจากนั้นจะนำเข้าเครื่องจับเท็จ ทั้งนี้ หากข้อมูลที่ได้ทำให้มั่นใจว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ก็จะเริ่มการสอบสวนย้อนเหตุการณ์กลับไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นไม่สามารถสรุปได้ว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือผู้ต้องหากระทำผิดจริงหรือไม่ แต่ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงยุติธรรมต้องการช่วยเหลือคนที่บริสุทธิ์ให้ได้ความยุติธรรมแน่นอน


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น