ปวีณ พงศ์สิรินทร์ กบดานเงียบเชื่อ “กำไต๋”เตรียมแฉกลับ พบดอดเก็บสำเนาแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจก่อนลี้ภัย ขณะที่ต่างชาติได้โอกาส แฉยับประเทศไทยยังค้าทาส

เรื่องดัง/ข่าวเด็ด- เขย่าสีกากี โดย “บิ๊กเกรียน”ก่อนลี้ภัย ขณะที่ต่างชาติได้โอกาส แฉยับประเทศไทยยังค้าทาส /พิลึกคดีสิบเวรยิง ผกก.จนป่านนี้ยังไม่ชัดเจนมีความผิดฐานข่มขืนจริงหรือเปล่า เจอพิรุธ!รีบส่งสาวลาวกลับประเทศ / ตะลึง!!?? ตม. เผยนักท่องเที่ยวไม่ยอมกลับประเทศ ปักหลักทั่วไทยเกือบ 1 ล้าน เป็นปัญหาใหญ่ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกำลังมะรุมมะตุ้ม

....สังคมตำรวจไม่ใช่สังคมศักดินา ไม่มีนาย ไม่มีบ่าว ไม่ใช่สังคมชั้นสูง แต่ผู้ใต้บังคับบัญชากับผู้บังคับบัญชาเพราะตำรวจเป็นสังคมติดอาวุธ.....ไม่ใช่ทาส....แต่เป็นสังคมเพื่อนคู่ชีวิตซึ่งตายด้วยกันและตายแทนกันได้ เราอยู่ด้วยกัน...ให้เกียรติกันตามตำแหน่งหน้าที่คุณวุฒิ ตำรวจไม่ใช่ผู้ขายแรงงานเพื่อแลกเงิน หากแต่เราขายชีวิตรักษาบ้านเมืองไว้ซึ่งสังคมอื่นทำไม่ได้....คำคมประจำสัปดาห์นี้ “บิ๊กเกรียน”มาพร้อมกับความหดหู่กรณีดาบตำรวจ ยิงผู้กำกับ และนายตำรวจติดตาม 3 ศพเหตุเกิดบนสถานีตำรวจภูธรปลวกแดง จ.ระนอง สร้างความตระหนกแก่สังคม รวมทั้งเป็นสัญญาณเตือนภัยให้บรรดาผู้บังคับบัญชาทั้งหลายได้ตระหนักถึงพิษภัย หากยังไม่ปรับตัวใช้ “พระเดช”มากกว่า “พระคุณ”มัจจุราชอยู่ใก้ลตัวเพราะนายมีปืนฝ่ายเดียวซะเมื่อไหร่ ลูกน้องก็มีปืนนะจ้ะ....

00000.....หลังเกิดเหตุสลดใจ ตำรวจทั่วประเทศโดยเฉพาะระดับผู้บังคับบัญชาชักเริ่มหนาว ติดประกาศเตือนให้วุ่นห้ามพกอาวุธเข้าห้องทำงาน โถ....มากลัวอะไรกันตอนนี้ ถ้ายุติธรรมนำหน้าไม่กดขี่ข่มเหงใครหน้าไหนจะมาตัดอนาคตตัวเอง กรณี “ปลวกแดง”ควรทำให้กระจ่าง อย่าอึมครึม ใครผิดใครถูกต้องว่าให้ชัด ผลพิสูจน์แพทย์เป็นอย่างไร สาวเพื่อนบ้านที่ระบุถูกข่มขืนในห้องขังมีร่องรอยอะไรหรือไม่ สำคัญนิติวิทยาศาสตร์สามารถระบุถึงตัวตนได้ ถ้านายดาบทำชั่วจริงต้องแถลงกันให้ชัด หยุดวิธีการเก่าๆใช้สื่อเป็นเครื่องมือ...อ้างแหล่งข่าว...อ้างนายตำรวจระดับสูงยืนยันมือยิง ผกก.ยอมรับสารภาพก่อนหน้าแล้วแต่แปลกที่รีบส่งผู้เสียหายกลับประเทศ.....อย่าคิดเองเออเองว่าซ้ำเติมคนตาย คดีนี้ตำรวจชั้นผู้น้อยกว่า 2 แสนนายทั่วประเทศกำลังจับตามอง ส่วนบรรดาเจ้านายประเภทกดขี่ข่มเหงวันนี้เริ่มปอดแหก “บิ๊กเกรียน”ขอย้ำ ถ้าเป็น “นายดี”ไม่ต้องกลัว ขนาดไม่ยอมให้พกอะไรเข้าพบท่านเจ้านายที่เคารพจะเอาฮาไปถึงไหน !!??...

00000.....นี่ก็ผลพวงจากผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ( นรต.35)อดีตรองผบช.ภ.8 และหัวหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ยังคงเก็บตัวเงียบ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา (นรต.36) ผบ.ตร.มาจังหวะเดียวกับ เป็นทั้งปี่กับขลุ่ย “บิ๊กเกรียน”รวมทั้งคอลัมน์นิสต์รุ่นเดอะหลายสำนักออกมากระตุกเตือน “ได้ไม่คุ้มเสีย” ข้อหาไม่รักชาติบ้าง ทำร้ายชาติบ้าง ไม่ใช่ลูกผู้ชายบ้าง จนไปถึงทำงานเพื่อหวังเก้าอี้ มองอย่างไรมีแต่ “เข้าเนื้อ”คนพูด.....ว่างๆ “ลุงตู่”ลองเรียกพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกฯเข้าไปคุย หรือยังไม่เชื่อ มีแน่ใจว่า “ปวีณ” เป็นของจริงหรือของปลอมก็ให้สุ่มถามตำรวจทั่วประเทศ รับรองลุงได้คำตอบแน่ๆ.....มองมุม “ปวีณ”ถ้าเขาบอกว่าคนเอาผลประโยชน์ของชาติเข้าแลกน่าจะเป็นผู้มีอำนาจมากกว่าเพราะที่พังไม่เป็นท่ามาจากอะไร ถ้าไม่ถือคติ “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” เสมือน “เอาคืน”หรือปกป้องใครบางคนด้วยการ “ต้อน”อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ให้”จนมุม”.....

00000.....เขาจึงบอกว่าอย่าต้อนสุนัขให้จนตรอก “หมามันยังสู้”ประสาอะไรกับ “คน”แถมยังมีดีกรีถึงนายพลตำรวจ....วันนี้เป็นไง “แป๊ะ”สั่ง”ปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิตพรามณกุล ( นรต.35)รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง และรับผิดชอบคดีค้ามนุษย์ ไปตรวจสอบแรงงานต่างด้าวแถวมหาชัย “พี่ปู”ยังไว้เชิงบอกนักข่าวว่ามาตามบัญชานายกฯที่สั่งผ่านมายัง ผบ.ตร. นี่ให้มันรู้ซะบ้าง....แต่....ประโยชน์อะไร วันนี้รัฐบาลสหรัฐฯปลุกเร้าอเมริกันชนให้คว่ำบาตรผลิตภัณฑ์อาหารทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลาที่มาจากประเทศไทย คริส สมิธ สส.พรรคลีพับริกัน รัฐนิวเจอร์ซี บอกว่า สินค้าอาหารทะเลของไทยมาจากฝีมือแรงงานทาส เขาเชื่อว่าหากอเมริกันชนรู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมากินนั้นเกิดจากการค้าทาสเชื่อว่าทุกคนจะมีจริยธรรมแยกแยะเส้นทางที่ถูกต้องให้กับตัวเองได้ และเชิญชวนให้งดซื้อสินค้าจากประเทศไทยดังกล่าว.....ยิ่งไปกว่าหากแฟนๆ “บิ๊กเกรียน”ชอบท่องเน็ต น่าจะเห็นสารคดีต่างประเทศที่ออกมาโจมตีแรงงานทาสประมง ทั้งการถ่ายทำ การนำเสนอ บอกได้คำเดียว “ไทบยับเยิน”เพราะฝีมือฝรั่งตาน้ำข้าว.....

00000.....กลับมากรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ การลี้ภัย “หนีตาย”ไปยังประเทศออสเตรเลีย มีนัยอะไรหรือไม่ “บิ๊กเกรียน”ไม่ทราบ แต่ชาติที่ตีแผ่ขบวนการค้ามนุษย์ประเทศไทย ก็คือสื่อมวลชนจากออสเตรเลีย “ปวีณ” จะมีแผนล้ำลึกอะไรหรือไม่สุดแท้แต่ ที่สำคัญคือ “คนมีอำนาจ”หน้ามืดตามัวจนลืมผลเสีย ตอนนี้ที่เสียหายไปแล้วคือผลการลงทุนลงแรงทั้งทหาร ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และทุกกรมกองที่ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อตอบสนองการยกระดับปัญหาค้าทาสแรงงานให้เป็นวาระแห่งชาติ นั้นกลายเป็นศูนย์เปล่า ซ้ำยังมีแนวโน้มหนักกว่าเดิม จากที่เคยชี้เป็นชี้ตายให้กับตำรวจตัวเล็กๆที่ชื่อ “ปวีณ” วันนี้ “เกมเปลี่ยน” คนชี้เป็นชี้ตายให้กับรัฐบาลกลายมาเป็นพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์.....00000......ยังไม่พอ เมื่อพูดกันแล้วต้องเข้าให้ถึงแก่น พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก 1 ในผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่เป็นประเด็นกับ “ปวีณ” เป็นใครมาจากไหนมีข้อมูลเก่าๆมาฉายซ้ำอีกรอบว่า “พี่แป้น”เป็นเตรียมทหารรุ่น 16 จปร.27 ไม่ใช่ทหาร”น่อมแน้ม”แต่เป็นทหารสายฮาร์ดคอร์คนหนึ่งของกองทัพบก และเป็นนายทหารที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ เคยรับผิดชอบด้านความมั่นคงพื้นที่ชายแดนใต้ตอนบน มีภารกิจเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด ขบวนการค้ามนุษย์ และอาวุธ ปฏิบัติการฮือฮาสะท้านโลกเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 บุกเข้าจู่โจมมัสยิดกรือเซะ มีแนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็น ตายหมู่ 32 ศพ.....
 
00000.....ช่วงที่มีการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดของพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ เข้าตรวจค้นบ้านพักนายสุวรรณ แสงทอง หรือโกหนุ่ย นักธุรกิจพันล้านเจ้าของแพปลา จ.ระนอง พบบัญชีจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ 1 เล่มมีเงินหมุนเวียน 50 ล้านบาท 1 ในจำนวนนั้นมีรายชื่อ พล.ท.มนัส รวมอยู่ด้วยโดยมีการโอนเข้าบัญชีหลายครั้งรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 14 ล้านบาท สำหรับเพื่อนร่วมรุ่น ตท.16 มีนายทหารคนดังมากมายอาทิ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และสมาชิก สนช. พล.ท.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผบช.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ลพบุรี พล.ท.วินัย กล่อมอินทร์ อดีตผบช.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ เป็นต้น.....ใช่ว่ารายชื่อนายทหารเหล่านี้จะเกี่ยวอะไรด้วย เพียงแค่อยากให้สังคมเห็นภาพชัดๆอีกครั้งว่าทำไม พล.ท.มนัส คงแป้น จึงพูดกับพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ว่า “ผมไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมัน” และนี่กระมังจึงเป็นเหตุผลสำคัญของการตัดสินใจ “ลาออก”ก่อนตามมาด้วยการลี้ภัย.....

00000.....ถึงตอนนี้ “บิ๊กเกรียน”หมดหวังไม่คิดว่า “ปวีณ”จะยอมกลับแผ่นดินเกิดง่ายๆแล้ว แต่ยังหวังว่าท่านคงไม่ “งัด”อะไรมาแฉข้ามประเทศให้ได้ “อับอาย -ระส่ำระสาย”กันอีก เพราะล่าสุดนักข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตะแล๊บแก๊บบอกมาว่าพล.ต.ต.ปวีณ ได้ขอสำเนารายงานการประชุมแต่งตั้งโยกย้าย ผบช.-ผบก.ในครั้งที่เขาถูกย้ายจากรองผบช.ภ.8 ไปเป็นรองผบช.ศชต.ก่อนนำมาสู่การร้องเรียนจนลุกลามบานปลาย ถ้าไม่ผิด แสดงว่าอาจจะมีใครหลายคน “เดือดร้อน”โดยเฉพาะพวกไอ้ห้อยไอ้โหน หรือพวกผิดฝาผิดฝั่งทั้งหลาย....ใครอยู่ในพื้นที่ค้ามนุษย์ - มีส่วนร่วม หรือปล่อยปละละเลยแต่เผือกได้ดี หวังว่า “บิ๊กแป๊ะ”คงเตรียมรับมือไว้แต่เนิ่นๆ...อ้อเกือบลืม....ที่ตะลอนหาข้อมูลข่มขู่ “ปวีณ”นั้นแท้จริงเตรียมเล่นงานเขาอีกดอกหรือเปล่า คนแดนไกลจากออสเตรเลียชื่อเดียวกับท่าน ผบ.เขาฝากถาม... “น้องแป๊ะ -ค้นข้อหาเจอหรือยัง” กร๊ากกกกกก !!??.....

 
00000.....เหตุบ้าน-การเมืองเยอะเตือนคนไทยอย่าลืมภัยก่อการร้าย “บิ๊กเกรียน”ยังไม่ลืมเหตุการณ์วางระเบิดศาลท่านท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ จนทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ตอนนั้นหน่วยงานที่ “รับเละ”มากที่สุดก็คือ “สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” เละไม่เละขนาดพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.ในขณะนั้นยังออกมาโจมตีแฉขบวนการส่วย ตม.ว่ากันว่ามีรายรับถึงวันละ 1.8 ล้านบาท 10 ข้อทุจริต “บิ๊กเกรียน”ขอทิ้งน้ำหนักข้อแรกคือปัญหาชาวต่างชาติ อยู่เกินกำหนดการขอวีซ่า หรือoverstay ท่านพ่อแม่พี่น้องทราบไหมว่ามีชาวต่างชาติจากทั่วโลก “เที่ยวเพลิน” หรือ “ปักหลัก”อยู่ในสยามบ้านเฮาเมื่อปี 2557 ถึง 800,000 ราย จุดนี้จึงเกิดการทจริตเมื่อ ตม.อนุโลมให้นักท่องเที่ยว หรือชาวต่างชาติที่ไม่ยอมเดินทางกลับบ้านมอบพาสปอร์ตให้กับตัวแทน หรือเอเยนต์ มาขอผ่อนผันต่อวีซ่า “ช่องว่าง”ตรงนี้จึงทำให้เกิดขบวนการ “ส่วย”และเป็นสาเหตุของบุคคลไม่พึงประสงค์ที่เข้ามาสร้างปัญหาให้กับประเทศไทย......

00000.....ปี 2558 ทางการไทยโดยสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เริ่มมีนโยบายที่เข้มข้นขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวตกค้าง หรือ “เที่ยวเพลิน”ไม่ยอมกลับบ้านเริ่มลดน้อยลงเหลือ 600,000 คนและเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนเป็นรูปธรรมต่อไปนี้ชาวต่างชาติที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวจะมาปักหลักแย่งอาชีพคนไทย หรือเข้ามาร่วมใช้ทรัพยากรของคนไทยจะไม่สามารถทำได้ง่ายๆอีกต่อไปแล้ว และการต่อวีซ่า จะกระทำได้ต่อเมื่อต้องไปปรากฏตัวและถ่ายรูปด้วยตัวเอง ส่วนพวกอยู่เกินหรือไม่มาแจ้งเดิมอยู่เกินกำหนดนาน 10 เดือนหรือ 10 ปีปรับ 2 หมื่นบาทเปลี่ยนเป็นกรณีเข้ามอบตัวเกิน 90 วัน ปรับ 2 หมื่นห้ามเข้าประเทศ 1 ปี เกิน 1 ปีห้ามเข้า 3 ปี เกิน 3 ปีห้ามเข้า 5 ปี เกิน 5 ปีห้ามเข้า 10 ปี ส่วนกรณีถูกจับกุมไม่เกิน 1 ปีห้ามเข้า 5 ปี เกิน 1 ปีห้ามเข้า 10 ปีระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2559....

00000.....ชอบใจ !!! เพราะกฎ-ระเบียบบ้านเรามันหย่อน ปล่อยปละละเลยมานาน มาตรการนี้ได้ผลเปราะหนึ่งแต่ควรมีแผนอย่างอื่นมารองรับในระยะยาวด้วย “ปะหน้า -บิ๊กณัฐ” พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. “บิ๊กเกรียน” นักข่าวแก่ หัว(ใจ)เหี่ยวยังต้องนั่งนิ่งตั้งใจฟัง ทุกด่านของประเทศไทย เหนือ ใต้ ออก ตก ติดวงจรปิดส่งตรงถึงห้องทำงานซอยสวนพลู แถมออนไลน์เข้า “มือถือ”ลูกน้องคนไหน ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่รอดสายตาตลอด 24 ชั่วโมง....

00000.....แน่ไปกว่าก็คือศูนย์อำนวยการควบคุมและกำกับดูแลบริหารข้อมูลคนต่างด้าว (Thai Immigration 24/7 Center Tic โมติคอน smile )การเชื่อมต่อด่านสำคัญทุกด่าน รวมทั้งระบบคัดกรองบุคคลไม่พึงประสงค์ตั้งแต่ขึ้นเครื่องฯจากต้นทาง ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆเช่นการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้เป็นผู้เชียวชาญตรวจหนังสือเดินทาง ปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้ไม่เกิดความผิดพลาดถึง 100 เปอร์เซ็นต์ การพัฒนาบุคคลการด้านภาษาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเรียนยังมหาวิทยาลัยปักกิ่งจำนวน 15 นายเพื่อตอบรับจำนวนคนจีนที่ทะลักเข้าประเทศไทยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงวันละ 10,000 .....นี่เป็นเพียง 1 ใน 10 ของโครงการที่ “บิ๊กณัฐ”กำลังเร่งให้เห็นเป็นรูปธรรม....พี่น้องคนไทยหายห่วงกันได้ “บิ๊กเกรียน”การันตี... “ไม่ได้โม้”...ระบบ “คัดกรอง”บุคคลไม่พึงประสงค์เข้าประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปด้วยดี... ส-บ-ม-ย-ห...สบายมั่กอย่าห่วง...สวัสดีครับผม....0000