ศาลอาญาโชว์ผลงานสืบพยานเสร็จใน 8 เดือน ก่อนพิพากษาคดีค้ามนุษย์ลวง 9 สาวลาวค้าประเวณี ในร้านคาราโอเกะที่สุพรรณบุรี สั่งจำคุกแม่เล้า 17 ปี 4 เดือน
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลอาญาได้พิพากษาคดีค้ามนุษย์ เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 8 เดือน หลังจากที่ทางพนักงานอัยการยื่นคดีฟ้องต่อศาล เมื่อเดือน เม.ย. 2558 คดีหมายเลขดำที่ คม.3 /2558
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเดือน ส.ค. 2557 - 14 ม.ค. 2558 ต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏจำเลยเป็นหญิงสาวชาวลาวพร้อมพวกอีก 1 คน ที่หลบหนี ได้กระทำผิดในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ด้วยการร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปและหลอกลวงหญิงผู้เสียหายชาวลาว อายุ 14-17 ปี รวม 9 ราย เพื่อการอนาจารและค้าประเวณี ซึ่งจำเลยกับพวกได้รับเงินจากการค้าประเวณี จำเลยให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุมสอบสวน และพิจารณา โดยอ้างว่าได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างพนักงานเสิร์ฟและค้าประเวณีไปด้วย เหตุเกิดที่ร้านน้องเกรทคาราโอเกะ ต.เนินพระปราง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2558 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ จำคุก 4 ปี, ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ ฐานร่วมกันเป็นธุระ จัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งหญิงอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อสนองความใคร่ของบุคคลอื่นโดยใช้อุบายล่อลวง จำคุก 7 ปี, ฐานร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ให้กระทำการค้าประเวณี จำคุก 10 ปี, ฐานร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งหญิงอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 26 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้หนึ่ง 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 17 ปี 4 เดือน ริบสมุดบันทึก 19 เล่ม และถุงยางอนามัย 7 อัน ของกลาง และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย 8 คน รวมเป็นเงิน 297,000 บาท
โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวต่อว่า การพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์สามารถพิจารณาพิพากษาคดีเสร็จภายใน 8 เดือนนับแต่วันยืนคำฟ้อง ขณะที่ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทั่วโลกกำลังจับตามองการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ จึงได้จัดตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ขึ้นในศาลอาญา เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2558 ที่ผ่านมา โดยได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบงานยุติธรรมทางอาญาในคดีค้ามนุษย์ระหว่าง ศาลอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้การดำเนินคดีค้ามนุษย์เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อได้ว่า คดีอื่นๆ จะสามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็วเช่นกัน เนื่องจากศาลยุติธรรมได้เห็นความสำคัญของคดีค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในหลายประเทศทั่วโลก
