หนองคาย - ชุดเฉพาะกิจ มท. ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัด บุกตรวจค้นร้านอาหารใน 2 อำเภอ หลังชาวบ้านร้องเรียนลอบค้าประเวณี ช่วยเหลือหญิงลาวอายุ 16-17 ปีได้ 9 คน พร้อมคุมเจ้าของร้านดำเนินคดี
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 ก.ค. นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายมานะ สิมมา ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายไพทูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัด นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมือง พ.อ.พงศ์คณิศร์ ธรรมะสกุล ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.หนองคาย ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย และกองกำลังรักษาความสงบ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบร้านอาหาร 2 แห่ง
แห่งแรกร้านพูลทรัพย์ เป็นร้านคาราโอเกะ เลขที่ 308 หมู่ 10 บ้านนาช้างน้ำ อ.ท่าบ่อ มีนางสมพิศ ดงหลวง อายุ 41 ปี เป็นเจ้าของร้าน พบหญิงสาวชาวลาว 6 คน แห่งที่สอง ร้านเคเอส เลขที่ 208 หมู่ 7 บ้านเสียว ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย มีนายโกศล อุปฮาด อายุ 60 ปี เป็นเจ้าของ ภายในร้านพบหญิงสาวชาวลาว 3 คน หญิงสาวทั้งหมดอายุระหว่าง 15-17 ปี
ซึ่งขณะที่เข้าตรวจสอบนั้นหญิงสาวกำลังให้บริการเสิร์ฟเครื่องดื่มแก่ลูกค้า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ พร้อมของกลางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถุงยางอนามัยจำนวนมากที่พบอยู่ในร้าน พร้อมสมุดบันทึกลูกค้า
นางพัด อายุ 17 ปี หญิงชาวลาว กล่าวว่า มาทำงานในร้านอาหารพูลทรัพย์ได้ประมาณ 2 เดือน มีรายได้วันละ 300 บาท นายจ้างให้ทำงานเสิร์ฟอาหาร ปรนนิบัติแขก บางครั้งก็ค้าประเวณีด้วย แล้วแต่ลูกค้าต้องการ
นายสุชาติกล่าวว่า ได้รับการแจ้งเบาะแสจากองค์กรช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรม แจ้งว่าร้านอาหารดังกล่าวมีการลักลอบนำหญิงสาวชาวลาวมาค้าประเวณี กระทรวงมหาดไทยจึงได้เปิด “ปฏิบัติการสองฝั่งโขง” โดยเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ตรวจสอบ มีการส่งสายลับเข้าไปสอบถามจนทราบว่าหญิงบริการชาวลาวบางรายระบุว่าถูกหลอกมาค้าประเวณีที่ร้าน เมื่อมีลูกค้าก็จะพาไปร่วมประเวณีภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมได้ทำการสอบประวัติ ตรวจมวลกระดูกเพื่อให้ความคุ้มครองช่วยเหลือหญิงสาว ส่วนเจ้าของร้านจะถูกดำเนินคดีในฐานค้ามนุษย์ โดยเฉพาะร้านเคเอสนั้นไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย
