ศาลอาญานัดพร้อมคดีอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มกองทัพประชาชน และเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย 85 คน ชุมนุมหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท.พร้อมปราศรัยโจมตีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้นปี 57 ขณะอัยการยื่นฟ้องเพิ่ม 20 คน คาดฟ้องครบ 145 คนต้นปี 59 นัดสืบพยานโจทก์ปี 60 “หมอระวี” เผยเตรียมยกคำวินิจฉัยศาล รธน.ที่ระบุ กคป.ชุมนุมโดยสงบ ขึ้นต่อสู้
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดพร้อมคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.พ.ระวี มาศฉมาดล นายทศพล แก้วทิมา แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย หรือ กคป. กับพวกรวม 85 คน ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 , 216 , 362 และ 365 และร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ม.4,5,6,7,9,10 และ 18 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปจากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2557 นพ.ระวี แกนนำ กคป.กับพวก นำผู้ชุมนุมและรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงไปปิดล้อมและบุกรุกเข้าไปในพื้นที่สำนักงานบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต โจมตีการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยวันนี้ นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกลุ่ม กคป.และพวกผู้ชุมนุมทั้ง 85 คนเดินทางมาศาล
ขณะที่วันเดียวกัน พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 ได้ยื่นฟ้อง นายสำคัญ ปีกขุนทด อายุ 49 ปี ชาวชัยภูมิ , นายทศพล ขวัญรอด อายุ 53 ปี ชาวนครศรีธรรมราช , นายสมเดช เสือทอง อายุ 43 ปี ชาวระนอง , นายสันติ เหง้าวิชัย อายุ 43 ปี ชาวร้อยเอ็ด , นายเกษม บุญชนะ อายุ 48 ปี ชาวชุมพร , น.ส.รัตน์สมีดาว หนูขุนนาง อายุ 34 ปี ชาวยะลา , นางลักษมี สินประเสริฐ อายุ 59 ปี ชาวกทม. , น.ส.พิพัฒน์ภร มีเต็ม อายุ 32 ปี ชาวชลบุรี , น.ส.นิภา แซ่เล้า อายุ 64 ปี ชาวกทม. , น.ส.ปุณยนุช เป็นสุข อายุ 39 ปี ชาวชลบุรี , นายสมศักดิ์ ศรีสุข อายุ 39 ปี ชาวนครศรีธรรมราช , นายธานินทร์ อินทรพฤกษา อายุ 46 ปี ชาวกระบี่ , นายเกียรติพงศ์ แพรกุล อายุ 56 ปี ชาวชุมพร , นายชาญชัย ธนากุลวินิจ อายุ 45 ปี ชาวนนทบุรี , จ.ส.อ.ธนากฤช ตันติ๊บ อายุ 57 ปี ชาวเชียงราย , นายสัมมิตร จุ้ยปลอด อายุ 73 ปี ชาวนครศรีธรรมราช , นายสัมพันธ์ จันสเถียร อายุ 29 ปี ชาวนครศรีธรรมราช , นายพิชญ์ณัฐ รจนานนท์ อายุ 30 ปี ชาวกทม. , นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ อายุ 58 ปี ชาวสุราษฎร์ธานีและนส.วรรณดี บุญช่วย อายุ 49 ปี เป็นจำเลยที่ 1- 20 ในความผิดรวม 6 ข้อหาฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง , เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแต่ผู้ชุมนุมไม่เลิก , ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในพื้นที่ ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความรุนแรงฯ มากขัดขืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่สั่งการเกี่ยวกับการชุมชุม , ใช้เครื่องขายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 , 216 , 362 , 365 , ประกาศของศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ 3/2557 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 4 – 7 , 9 , 10 , 18 จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. - 18 ก.พ. 2557 จำเลยร่วมกับ นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.)และพวกผู้ชุมนุม รวม 85 คนนำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงไปปิดล้อมและบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ สำนักงานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สาขาใหญ่ ถ.วิภาวดี - รังสิต โจมตีการทำงานของรัฐบาล
โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข 3999/2558 ซึ่งศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องเพื่อสอบคำให้การจำเลยทั้ง 20 คนแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธ
น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความจำเลย ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่อัยการได้ยื่นฟ้อง นายสำคัญกับพวกรวม 20 คน แล้วได้มีการขอรวมพิจารณาสำนวนคดีเป็นคดีเดียวกับ นพ.ระวี กับพวกรวม 85 คน ซึ่งศาลอนุญาตให้รวมสำนวนและนัดพร้อมคดีในวันที่ 25 ก.พ.2559
นพ.ระวี กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ต้องหารวม 145 คน ซึ่งอัยการได้ทยอยสั่งฟ้องผู้ต้องหา คาดว่าจะสั่งฟ้องครบทุกคนในช่วงต้นปี 2559 นี้ และหลังจากนั้นศาลจะนัดสืบพยานโจทก์ได้ประมาณปี 2560 ในการสั่งฟ้องข้อหาต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของแต่ละบุคคล โดยแกนนำ กคป.อาจจะถูกฟ้องในบางคดีซึ่งต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ นพ.ระวีกล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการต่อสู้คดีจะยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการชุมนุมปิดล้อม ปตท.ของกลุ่ม กคป.เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อกฎหมาย พร้อมเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน และพยานบุคคลเพิ่มเติมมาให้การต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
