xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจน้ำเบิกความคดี “พรชนก-สามี” ฆ่าหั่นศพครูญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี จำเลยเดินทางมาศาลอาญา
อัยการนำ “สารวัตรตำรวจน้ำ” งมชิ้นส่วนศพคดี “พรชนก-สามี” ฆ่าหั่นศพครูชาวญี่ปุ่น เบิกความพบชิ้นส่วนมนุษย์ในกระสอบปุ๋ยทิ้งคลองใน อ.บางบ่อ สมุทรปราการ ส่วนลูกชายผู้ตายแจ้งไม่ประสงค์จะมาเบิกกความ ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์อีกครั้ง 25 พ.ย.นี้

ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (24 พ.ย.) ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดีฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น หมายเลขดำที่ อ.4330/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง และนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา ชาวสมุทรปราการ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย ลักทรัพย์ในเวลาเคหสถานในเวลากลางคืน มีไว้เพื่อนำออกและใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น โดยจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพข้อหาฆ่าคนตายและลงมือเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้ว่าไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธข้อหาฆ่าคนตาย แต่รับสารภาพข้อหาลักทรัพย์

คดีนี้อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุพฤติการณ์ความผิดว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. - 13 ต.ค. 2557 ต่อเนื่องเกี่ยวพันกันโดยตลอด จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ พวกจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังนายโยชิโนริ ชิมาโตะ (YOSHINORI SHIMATO) ครูสอนภาษาญี่ปุ่น อายุ 79 ปี ซึ่งมีอาการป่วยนอนอยู่บนเตียงภายในบ้านเลขที่ 201/2371 หมู่บ้านออคิดวิลล่า หมู่ 7 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จากนั้นพวกจำเลยได้วางแผนและใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว 1 เล่มที่ตระเตรียมไว้แทงและฟันนายโยชิโนริตามร่างกายอย่างแรงหลายครั้ง แล้วดึงตัวลงจากเตียงก่อนใช้มือจับศีรษะกดกับหมอนจนนายโยชิโนริขาดใจตายสมเจตนา จากนั้นร่วมกันทำลายซ่อนเร้นทำลายศพด้วยการใช้มีดเล่มดังกล่าว ตัด แล่ กรีด หั่นชำแหละชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ เป็นชิ้นๆ ไว้ในอ่างอาบน้ำแล้วเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนศพใส่ถุงถ่วงด้วยทราย 4 ถุงนำไปทิ้งน้ำที่คลองนางทิ้ง ม.7 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

โดยหลังฆ่าผู้ตายแล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันลักเอาเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ราคา 20,000 บาท กระเป๋าเดินทางราคา 10,000 บาท กระเป๋าข้างแบบหนังราคา 10,000 บาท สมุดเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม ป้ายวิญญาณบรรพบุรุษ และอื่นๆ รวมราคาทรัพย์ 41,500 บาท แล้วจำเลยที่ 2 ได้สวมวิกปลอม ใส่แว่นตาดำ สวมหมวกมีปีก ลักษณะอำพรางใบหน้า ก่อนใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ กดเอาเงินสดหลายครั้งเป็นเงิน 520,000 บาทไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง, ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชิ้นส่วนศพของนายโยชิโนริ ผู้ตาย และติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ในวันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสองจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลางมาฟังการสืบพยาน

ต่อมาพนักงานอัยการได้นำ ร.ต.ท.ขวัญลิขิต สุวรรณชัยรบ อายุ 27 รอง สว.กก.2 กองบังคับการตำรวจน้ำ เบิกความเป็นพยานโจทก์ปากแรกว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2557 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปตรวจค้นหาพยานหลักฐานที่คลองนางทิ้ง ต.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจำนวน 6 นาย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูอีก 20 คนไปร่วมงมค้นหาพยานหลักฐาน ต่อมาเวลา 20.30 น.ก็ได้พบกระสอบปุ๋ยจำนวน 1 กระสอบ เมื่อเปิดปากกระสอบปุ๋ยออกก็พบชิ้นส่วนมนุษย์และมีเศษหินทรายถ่วงน้ำหนักอยู่ภายในกระสอบปุ๋ยดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงลงไปงมหาหลักฐานเพิ่มเติมในคลองน้ำทิ้งบริเวณจุดเดิมพบถุงดำใส่ขยะ 1 ถุงจมอยู่ใต้น้ำ จึงนำขึ้นมาตรวจดูพบกะโหลกศีรษะและข้อมือที่มีนิ้วติดอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำน้ำงมหาพยานหลักฐานจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น.จึงได้ยกเลิกภารกิจค้นหาพยานหลักฐาน ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ตนทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำอีกชุดหนึ่งไปงมหาพยานหลักฐานยังคลองนางทิ้งบริเวณจุดเดิม และพบถุงดำอีก 2 ถุง ตรวจสอบทราบว่าพบชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ภายในถุงเช่นกัน

ทั้งนี้ ภายหลัง ร.ต.ท.ขวัญลิขิตเบิกความเสร็จสิ้นแล้ว พนักอัยการแถลงต่อศาลว่า สำหรับพยานอีก 2 ปาก คือ บุตรชายของนายโยชิโนริ ชิมาโตะ ผู้ตายที่อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่นได้แจ้งผ่านสถานทูตญี่ปุ่นว่าไม่ประสงค์ที่จะมาเบิกความ ส่วน พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พยานโจทก์อีกรายนั้นแจ้งว่าจะมาเบิกความในวันอื่นเนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปในวันที่ 25 พ.ย. 2558 เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้อัยการโจทก์ได้ยื่นส่งบัญชีเอกสารจำนวน 88 รายการ พร้อมขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 30 กว่าปาก เช่น พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง สน.บางเสาธง แพทย์ที่ชันสูตรชิ้นส่วนมนุษย์ และแพทย์ที่พิสูจน์ดีเอ็นเอของผู้ตายกับบุตรชายที่เป็นชาวญี่ปุ่น ใช้ระยะเวลา 6 นัด ส่วนทนายจำเลยแถลงขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 4 ปาก คือ จำเลยที่ 1 และ 2 กับบุตรของจำเลยที่ 1 และบุตรของจำเลยที่ 2 ซึ่งเกิดกับสามีชาวญี่ปุ่นคนก่อน ใช้ระยะเวลา 1 นัด ขณะที่จำเลยทั้งสองไม่ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว จึงถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมาโดยตลอด
กำลังโหลดความคิดเห็น