ผบช.ก.รับขบวนการต่อต้านสถาบันฯ มีอยู่จริง ล่าตัวการในต่างแดน

MGR Online - ผบช.ก.ยอมรับขบวนการต่อต้านสถาบันฯ มีอยู่จริง พร้อมดำเนินการต่อผู้ประสงค์ร้ายที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ยืนยันการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีหมิ่นฯ มาจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งสิ้น ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงกรณีการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มขอนแก่นโมเดล ว่ารายละเอียดต่างๆ ยังไม่ขอพูดถึง แต่ขอให้เชื่อมั่นว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ตนจะลงมาดูและด้วยตนเอง ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามพยานหลักฐาน ไม่มีการกลั่นแกล้งใครใดใดทั้งสิ้น ใครทำความผิดก็คือผิด ไม่ผิดก็คือไม่ผิด ซึ่งต่อไปนี้พยานหลักฐานพาดพิงไปถึงใคร เมื่อเป็นพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ก็คือสิ่งที่ต้องยอมรับสภาพว่าเป็นจริง แต่ถ้าพยานหลักฐานไปไม่ถึงก็เป็นเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องได้รับสิทธิตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนอยากจะเรียนให้ทราบว่าตราบใดที่ยังดำรงตำแหน่ง ผบช.ก. อยู่ อยากให้กองบัญชาการสอบสวนกลางและกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนในทุกเรื่อง

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าขบวนการต่อต้านสถาบันหรือกลุ่มที่ไม่หวังดีมีอยู่จริง ในส่วนนี้หลังจากภารกิจปั่นเพื่อพ่อ ตนจะลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง บุคคลใดที่มีเจตนาร้ายไม่ประสงค์ดีต่อสถาบันฯ จะไม่ละเว้น ส่วนใครที่ทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รับข้อมูลจากสื่อโซเชียลมีเดียมาแล้วส่งต่อก็จะจัดให้อยู่อีกกลุ่มหนึ่งและต้องเชิญตัวมาพูดคุยหรือไปพบเพื่อทำความเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าว รวมถึงดำเนินการต่อบุคคลที่ประสงค์ร้ายต่อสถาบันฯ ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ สถาบันฯ เป็นสิ่งที่เราได้ยึดเหนี่ยว ทำให้คนไม่ทะเลาะ กัน ไม่แตกแยกกัน ซึ่งเมื่อใดก็ตามไม่มีสถาบันทุกคนก็จะแตกแยกกันทำให้บ้านเมืองวุ่นวายสับสน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอเวลา 1 อาทิตย์น่าจะมีความกระจ่างมากขึ้น

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. รักษาราชการแทนตำแหน่งผู้บังคับการปราบปราม และได้มอบหมายภารกิจในส่วนนี้ไปแล้ว ให้กระทำโดยเร็ว สำหรับข้อมูลกลุ่มขอนแก่นโมเดล รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ที่ประสงค์ร้ายต่อสถาบันฯ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่ากลุ่มใดทำอะไร เคลื่อนไหวที่ไหน และทำอะไรที่ผิดกฎหมายบ้าง อีกส่วนเรื่องของโซเชียลมีเดียบุคคลที่ทำคลิปในยูทิวบ์ และเฟซบุ๊ก ได้มอบหมายให้รักษาราชการแทนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) มาดูแลในส่วนนี้ ซึ่งต้องเอาข้อมูลทั้งสองส่วนมาพิสูจน์ทราบหาความเชื่อมโยงของกลุ่มต่างๆ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าจนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาในกลุ่มขอนแก่นโมเดลที่ยังไม่สามารถจับกุมได้และส่งฟ้องไปแล้วมีกี่ราย พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ยังไม่อยากพูดถึงรายละเอียดในส่วนนี้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างคัดกรองข้อมูลที่มาที่ไปว่า พยานหลักฐานสามารถเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันฯ ที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองเก่า ได้มีการสอบสวนข้อมูลไปอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า การทำงานต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน จะไม่กำหนดเป้าหมายว่าไปเชื่อมโยงกับใครหรือไม่ เพราะฉะนั้นกลุ่มขบวนการต่างๆ ต้องยอมรับว่ามีอยู่จริง ซึ่งใครทำผิดก็ต้องไม่ปฏิเสธกฎหมาย ตนจึงขอโอกาสนี้แจ้งเตือนผู้ที่หมิ่นสถาบันฯ ว่าจะไม่ละเว้นผู้ที่กระทำผิดโดยเด็ดขาด และขอให้เชื่อว่าทุกคดีที่ตนทำมาเป็นจริงทุกเรื่องและมีพยานหลักฐานในสิ่งที่กระทำทั้งสิ้น หากใครไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวว่าตำรวจจะใช้อำนาจไปคุกคาม โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกกลุ่มทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีทนายความออกมาบอกว่าผู้ต้องหาบางรายยังในกลุ่มขอนแก่นโมเดลอยู่ในเรือนจำ อาจเป็นไปได้ว่าจะถูกใส่ร้ายหรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง บางครั้งคนกระทำความผิดอยู่ต่างประเทศ หรืออยู่ในเรือนจำ บางครั้งหลักฐานที่พบมันมีความเชื่อมโยงกันจริง แต่รายนี้มีผู้โต้แย้งสงสัยซึ่งต้องทำข้อสงสัยนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการออกหมายจับตำรวจในสังกัด บช.ก.เพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่มี การออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีหมิ่นทั้งหมดมาจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งสิ้น ส่วนพยานหลักฐานบางเรื่องรวบรวมได้เร็ว บางเรื่องได้ช้า ก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คดีทั้งหมดมีอายุความ เมื่อได้พยานหลักฐานเกี่ยวข้องเชื่อมโยงเพิ่มเติมก็จะดำเนินการออกหมายจับทุกราย ไม่มีข้อละเว้น

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันมีรายงานแจ้งว่า นายฉัตรชัย ศรีวงษา อายุ 24 ปี กลุ่มขอนแก่นโมเดล ถูกควบคุมตัวได้และส่งให้ตำรวจกองปราบปรามส่งฝากขังที่ศาลทหารผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน