xs
xsm
sm
md
lg

ยธ.ตรวจเยี่ยม รพ.ราชทัณฑ์ ตามโครงการ “กอดพ่อผู้บังเกิดเกล้า”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีราชทัณฑ์ ตรวจเยี่ยมทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ตามโครงการ “กอดพ่อผู้บังเกิดเกล้า” ภายในสถานคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อดูความเรียบร้อยด้านต่างๆ

วันนี้ (30 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พล.ท.ทิวะพร ชะนะพะเนาว์ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาตรวจเยี่ยม โดยมีนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ร่วมให้การต้อนรับพร้อมอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งขึ้น

สำหรับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2548 มีทั้งหมด 9 ชั้น บริเวณชั้น 1 เป็นแผนลงทะเบียนผู้ป่วย ชั้น 2 แผนกผ่าตัดและทันตกรรม ชั้น 3 ห้องสำนักงานหรือห้องประชุม ชั้น 4 แผนกจิตเวช ชั้น 5 แผนกศัลยกรรม ชั้น 6 แผนกอายุรกรรม ชั้น 7 แผนกโรคเรื้อรัง ชั้น 8 แผนกผู้ป่วยวิกฤต และชั้น 9 ห้องพักหรือสำนักงานเจ้าหน้าที่ โดยแยกประเภทผู้ป่วยชายและหญิงออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งปัจจุบันรับผู้ป่วยได้ถึง 500 เตียง

พล.ท.ทิวะพรกล่าวว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีการจัดโครงการให้ผู้ต้องขังได้พัฒนาจิตใจ ตามหลักสูตรสัคคสาสมาธิ ตามแนวของ พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินุธโร) เพื่อฝึกฝนเรื่องสมาธิให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ปกติ มีความสุขหลังพ้นโทษกลับไปใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายวิทยาเผยว่า วันนี้เดินทางมาตรวจมาตรฐานของโรงพยาบาลแห่งนี้ซึ่งได้ผ่านเกณฑ์ตรวจสอบจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้มีมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลข้างนอกอื่นๆ โดยดูแลรักษาผู้ต้องขังทั่วประเทศ รวมทั้งผู้ต้องขังที่เป็นต่างด้าวหรือต่างชาติที่ไม่มีสิทธิรักษาตามโรงพยาบาลทั่วไปจะจัดงบประมาณแรงงานต่างด้าวให้เนื่องจากว่าบางโรคร้ายค่ารักษาค่อนข้างแพง

นายแพทย์วีระกิตติ์กล่าวว่า โครงสร้างเดิมเป็นสถานพยาบาลแต่ขออนุมัติจัดสร้างให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีบุคลากรแพทย์ประจำ 30 คนคอยดูแลผู้ป่วย สำหรับผู้ต้องขังภายในกรมราชทัณฑ์มีสิทธิรักษาตามปกติและผู้ต้องขังจากต่างจังหวัดต้องทำหนังสือเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนแต่ส่วนใหญ่รับทั้งหมดทุกเคส

ต่อมาเวลา 11.00 น. บริเวณหอประชุมภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พล.ท.ทิวะพร ชะนะพะเนาว์ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย วิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ สุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำบางขวาง ร่วมโครงการ “กอดพ่อผู้บังเกิดเกล้า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 4 ธ.ค. 58 ช่วงเช้า เวลา 09.00-11.30 น. และ ช่วงบ่าย เวลา 13.00-15.00 น.ภายในโครงการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้แสดงความรักต่อพ่อผู้บังเกิดเกล้าด้วยการกอด กราบเท้าพ่อ และบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัว ซึ่งมีส่วนร่วมในการพัฒนาแก้ไขพฤตินิสัยตัวผู้ต้องขัง รวมทั้ง มีครอบครัวของผู้ต้องขังเดินทางมาเยี่ยมญาติอย่างใกล้ชิด เป็นผู้ต้องขัง 1,357 คน ญาติที่เข้ามาเยี่ยม 4,404 คน

จากนั้น เวลา 11.30 น. พล.ท.ทิวะพร ชะนะพะเนาว์ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย อายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำบางขวาง และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ พาสื่อมวลชนเดินตรวจสถานที่คุมขังภายในเรือนจำเพื่อดูความเรียบร้อยของเรือนนอนและกิจกรรมต่างๆของแต่ละแดน

นายวิทยาเปิดเผยว่า วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ถือว่าเป็นวันพ่อและวันสำคัญของชาติ ผู้ต้องขังเองมีความเป็นพ่อและลูก การพลัดพรากจากครอบครัวมาทำให้เกิดความคิดถึงเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการมีญาติมาเยี่ยมนั้นเป็นสิ่งมีคุณค่าในความเป็นคนจึงเปิดโอกาสมาเจอกันเพื่อผ่อนคลายเชื่อมโยงสถาบันครอบครัว

ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมเยี่ยมญาติเป็นการสร้างความใกล้ชิดความอบอุ่นของครอบครัวเพื่อให้กลับกลายเป็นคนดี เพราะเชื่อว่าสถาบันครอบครัวสามารถจรรโลงจิตใจไม่ต้องกลับมาเป็นแบบเดิมอีก โดยมีหลักเกณฑ์ต้องเป็นผู้ต้องขังรับโทษเด็ดขาดชั้นกลางพบได้ 1 ครั้ง และชั้นดีพบได้ 2 ครั้ง ส่วนต่างชาติหรือต่างด้าว 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม บางคนไม่ได้ร่วมกิจกรรมดังกล่าวทางญาติก็สามารถมาเยี่ยมได้ตามปกติ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลาราชการ วันละรอบๆ ละ 20 นาที

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น