ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เรือนจำ-ทัณฑสถาน 14 จังหวัดภาคใต้ จัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ครั้งที่ 12 ที่ภูเก็ต เผยแพร่ศักยภาพผู้ต้องขังผ่านชิ้นงานคุณภาพ นำรายได้เป็นทุนหมุนเวียนในการฝึกอาชีพผู้ต้องขังต่อไป ให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงต้นเอง และครอบครัวภายหลังพ้นโทษ
เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (15 ก.ย.) ที่บริเวณลานจอดรถเวทีกลางสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต นายสมจิต สัจสัญญาวุฒิ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เป็นประธานพิธีเปิดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 12 และมอบโล่รางวัลแก่เรือนจำ และทัณฑสถาน ที่ชนะผลการประกวดผลิตภัณฑ์ และมอบของที่ระลึกแก่ผู้สนับสนุนการจัดงาน มีนายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนผู้บัญชาการเรือนจำทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ผู้อำนวยการ/ผู้แทนทัณฑสถาน เขต 8 และเขต 9 แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมในพิธีเปิด
นายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 12 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 กันยายน 2558 ณ บริเวณลานจอดรถเวทีกลางสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต โดย มีเรือนจำ และทัณฑสถาน ในเขต 8 และเขต 9 รวม 24 แห่งเข้าร่วม เพื่อการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังให้เป็นบุคคลที่สามารถเข้ากับสังคมทั่วไปได้เมื่อพ้นโทษแล้ว ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมภายนอก รวมทั้งเป็นการนำผลิตภัณฑ์จากการฝึกอาชีพของผู้ต้องขังสาขาต่างๆ ที่มีความคงทน ประณีต สวยงาม คุณภาพดี รูปแบบหลากหลายออกเผยแพร่สู่สาธารณชนเพื่อต้องการให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากฝีมือผู้ต้องขังอย่างแท้จริง รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็นทุนหมุนเวียนในการฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังต่อไป
ขณะที่ นายสมจิต สัจสัญญาวุฒิ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ภายใต้พันธกิจหลักของกรมราชทัณฑ์ คือ ควบคุมผู้ต้องขังอย่างมืออาชีพ บำบัด ฟื้นฟู อย่างมีประสิทธิภาพ และการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นบุคคลที่สามารถเข้ากับสังคมทั่วไปได้ ผู้ต้องขังได้เข้ารับการฝึกวิชาชีพก่อให้เกิดความรู้ความชำนาญยิ่งขึ้น สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอง และครอบครัวภายหลังพ้นโทษ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และสังคมภายนอกให้การยอมรับ
ดังนั้น การจัดงานนิทรรศการฯ ในครั้งนี้เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์งานราชทัณฑ์ให้ปรากฏต่อสาธารณชน และยอมรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษแล้วเข้าทำงาน ในส่วนของการฝึกวิชาชีพนี้เกิดจากการบูรณาการภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านมีความภาคภูมิใจร่วมกันว่า ภารกิจของกรมราชทัณฑ์เป็นผลสำเร็จด้วยดี สามารถปรับเปลี่ยนพฤตินิสัย ละลายพฤติกรรมของผู้กระทำผิดก่อให้เกิดจิตสำนึก และความรับผิดชอบต่อสังคมได้อย่างแท้จริง อันเป็นการส่งผลให้อัตราการกระทำผิดซ้ำลดลง นายสมจิต กล่าวในที่สุด