xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ชี้คุกทหารราชทัณฑ์ดูแล นช.ตายให้ฟังหมอแจง ค้านสร้างคุกลดนักโทษแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯ ย้ำเรือนจำ มทบ.11 ราชทัณฑ์ดูแล ทหารไม่ใจร้าย รับธรรมดาถูกวิจารณ์ 2 นช.ตาย แนะฟังแพทย์ดีกว่า ทราบรายงานแล้วญาติ “หมอหยอง” ก็ไม่ติดใจ ชี้ทุจริตสร้างอุทยานฯ ยศใหญ่แค่ไหนก็สอบ อย่าเพิ่งไปว่าเสียหาย อย่าเหมารวมเลวทั้งองค์กร กังวลดูแลนักโทษ สั่ง ยธ.ดูแล เล็งแยกคดีหนัก-เบา แก้ปัญหาแออัด เรียนรู้สิ่งไม่ดี ย้ำหลักการต้องลดจำนวนนักโทษอบรมคืนสู่สังคม ไม่ใช่สร้างคุกใหม่

วันนี้ (10 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลักเป็นประธานการประชุม ครม.ถึงกรณีปัญหาเรือนจำที่ มทบ.11 ที่หลายฝ่ายมองว่ากำลังเกิดปัญหาเพราะมีนักโทษเสียชีวิตถึง 2 รายว่า “เรือนจำ มทบ.11 หรือเรือนจำชั่วคราว แขวง นครไชยศรี ในวันนี้ไม่ใช่เรือนจำของทหาร แต่เป็นพื้นที่ของทหารเดิม แต่ทางกรมราชทัณฑ์มาขอใช้พื้นที่ ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นของกรมราชทัณฑ์ เพราะฉะนั้นการดูแลต่างๆ เป็นของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น การที่จะขอเจ้าพนักงานเพิ่มเติมช่วยเหลือก็ขอได้ แต่เป็นเรือนจำที่อยู่ภายใต้สังกัดของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเรือนจำมีจำนวนไม่พอเพียงและไม่เหมาะสม กรมราชทัณฑ์จึงได้ทำเรื่องขอมา ไม่ใช่ว่าพอนักโทษเข้ามาอยู่ในคุกทหารแล้วจะเป็นโน่นเป็นนี่ มันไม่ใช่ ก็ใช้ระบบการดูแลเหมือนเรือนจำอื่นๆ พอไปใช้คำว่าเรือนจำทหารก็ตกใจกันหมด ทหารมันใจร้าย ไม่ใช่ ทหารใจดี ไม่มีใจร้ายหรอก”

เมื่อถามย้ำว่า แต่เกิดกรณีผู้ต้องขังเสียชีวิตติดต่อกัน 2 ราย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดา ฟังแพทย์เขาชี้แจงดีกว่า แพทย์แถลงว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เราไม่ใช่แพทย์จะรู้ได้อย่างไร ไม่มีใครอยากให้มีใครตายทั้งนั้น จะมีใครอยากให้คนตาย เมื่อถามว่า รมว.ยุติธรรม มีการรายงานถึงกรณีการเสียชีวิตของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง มาหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รับทราบแล้ว มีการรายงานมาตามขั้นตอนของกฎหมาย มีผลการพิสูจน์ ชันสูตรศพของแพทย์เรียบร้อย ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องตนจะสั่งการได้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ต้องมีแพทย์กันแล้ว ทุกอย่างมีขั้นตอนมาตามลำดับ ญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ตนไม่ได้เป็นคนชี้เป็นชี้ตายทุกเรื่องเสียเมื่อไหร่

เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีการทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ดำเนินการสอบสวนไปตามขั้นตอน ทุจริตใครผิดก็ต้องสอบ ใครเกี่ยวโยงตรงไหนก็ไปสอบมาจะยศใหญ่แค่ไหนก็ต้องไปสอบมา แต่ถ้ายังไม่สอบก็อย่าไปว่าให้เขาเสียหาย “มันมีอีกตั้งเยอะที่ทำมา ส่วนใหญ่เป็นส่วนที่ดี มีส่วนเล็กๆ ที่มันไปทำผิดก็ไปว่ากัน ไม่ใช่ไอ้นี่ทำผิดปั๊บก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ทั้งหมด เลวทั้งหมดมันไม่ใช่ สมมติสื่อคนหนึ่งไม่ดี แล้วสื่อทั้งหมดเลวหรือไม่ ก็ไม่ใช่ สื่ออย่าไปพูดอะไรแล้วทำให้องค์กรเขาเสียหาย ตำรวจทำผิดคนเดียวก็ไปกล่าวหาว่าตำรวจเลวทั้งหมด ไม่ได้ คนทำดีเหนื่อยแทบตายก็มีเยอะอยู่ ผมดูแล้วตำรวจทำดีมีมากกว่าทำเสีย ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ คนทำดีมีเยอะกว่า ถ้าส่วนดีมีไม่เยอะกว่า ป่านนี้คงเลวกันไปหมดแล้ว”

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้เรื่องที่ตนมีความกังวลอีกเรื่อง คือ การดูแลนักโทษต่างๆ ของกรมราชทัณฑ์ วันนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมไปดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าพูดถึงพื้นที่รวมๆ ในการรับนักโทษทั้งหมดทั่วประเทศ สามารถรองรับได้เพียงประมาณ 1 แสนราย แต่วันนี้มียอดนักโทษ 3-4 แสนราย เวลาทานข้าวยังต้องทานคนละรอบ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนแยกไว้ว่าผู้ที่โดนคดีมากหรือคดีน้อย ส่วนใหญ่จะเข้ารวมกันไป ก็เลยไปรวมกันทั้งหมด คนที่ผิดน้อยๆ ก็ไปฟังพวกที่เป็นเซียนที่ผิดมากๆ แล้วอยู่ด้วยกันก็มีการพัฒนาฝีมือออกมาอยู่ข้างนอก ตอนนี้ตนจึงสั่งการให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร จึงจะแยกออกจากกัน อาจจะต้องมีการทำเพิ่มเติมในเรื่องของการควบคุมดูแลในส่วนผู้ที่ต้องคดีเบา หรือผู้ที่ใกล้พ้นโทษจะต้องทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็ไปแออัดกัน คับคั่งอยู่ข้างใน กลายเป็นเรื่องการรวมดาวด้วยกัน เหมือนชั้น ป.1 รวมอยู่กับอุดมศึกษาในที่เดียวกัน เรียนรู้กันไปทั้งหมด ซึ่งปล่อยไว้ไม่ได้ เรากำลังดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้อยู่ แต่ก็ต้องใช้งบประมาณพอสมควร จึงต้องมีการทบทวน

นอกจากนี้ได้สั่งการให้ลงไปดูแลเรื่องอุปกรณ์จองจำต่างๆ กรณีของผู้ที่ใกล้พ้นโทษ อาจจะใช้วิธีติดอุปกรณ์เพื่อควบคุมตัวนักโทษ อาจจะต้องมีชิบติดตามตัวนักโทษ เพื่อลดความแออัด แล้วก็ยังมีเรื่องของเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุด ปัจจุบันมีเพียงที่เดียวคือเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ที่ขณะนี้แออัดมาก ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไร หลักการไม่ใช่หมายความว่าเราต้องสร้างคุกให้เพิ่มมากหรือใหญ่ขึ้น แต่ต้องมากคิดว่าทำอย่างไรจึงจะลดนักโทษลง โดยคนเหล่านี้ต้องกลับคืนสู่สังคม โดยการอบรมให้มีคุณภาพ ไม่เช่นนั้นก็จะไปรวมกันอยู่ก็จะทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อบรมหรือพัฒนาอะไรก็ไม่ได้ ต้องยอมรับว่าตรงนี้เป็นปัญหาของเรา รัฐมนตรียุติธรรมได้มีการเสนอเข้ามาแล้ว ตนกำลังทบทวนและจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป

“สิ่งสำคัญอย่าลืมว่าเขาเป็นมนุษย์ นักโทษทุกคนก็เป็นคนไทยทั้งหมด ถึงเขาจะทำความผิด แต่กติกาโลกก็บอกไว้แล้วว่าถ้าถูกตัดสินไปแล้วรับผิด ออกมาก็จะต้องเป็นคนดีเพื่อกลับคืนสู่สังคม เรื่องนี้เราต้องทำให้ได้ ไม่ใช่ออกมาแล้วเกิดความคับแค้นใจแล้วทำความผิดใหม่ก็จะต้องกลับเข้าไปใหม่ ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ดังนั้นหลักการคิดที่จะไปสร้างคุกเพิ่มให้รองรับรักโทษที่เพิ่มขึ้น 3-4 แสนรายนั้น เป็นหลักการที่ไม่ถูกต้อง เราต้องคิดในเชิงบริหารจัดการใหม่ เพราะหลายคนก็เป็นห่วงผู้รับโทษที่กลับออกมาจะอยู่อย่างไร ซึ่งหากเราดูแลเขาดีได้ คนเหล่านี้ก็สามารถเป็นคนดีได้ ต้องดูทั้งเรื่องสภาพแวดล้อมทางสังคม ความยากจน ก็เหมือนกับองคุลีมารถ้ายอมรับ ทุกคนก็ใหอภัยได้”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตากับปัญหาด้านการค้ามนุษย์ เพราะถ้าทุกคนเห็นและรู้แต่ไม่บอกเจ้าหน้าที่ ก็จะมาโทษเจ้าหน้าที่ แต่ถ้ามาบอก ก็จะได้รู้ว่ามีการกระทำความผิดอยู่ที่ใดบ้าง อย่างเช่นกรณีการจับกุมนายสมพล (โกหนั้ง) จิโรจน์มนตรี นายกสมาคมประมงกันตัง จังหวัดตรัง ในคดีค้ามนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่รู้ว่าปล่อยไปได้อย่างไร จนถึงขั้นได้เป็นนายกสมาคมประมง ซึ่งมีการนำคนมากักขังทรมาน ทำงานวันละ 18 ชั่วโมง ดังนั้นต้องขจัดคนเหล่านี้ให้หมดโดยใช้กฏหมาย เพราะเราต้องสรุปรายงานสถานการณ์ ความก้าวหน้าในการดำเนินคดีต่อต่อต่างประเทศทุกเดือน

เมื่อถามกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ถูกผู้บังคับบัญชาย้ายไปอยู่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) จากนั้นทำหนังสือลาออก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “การปรับย้ายเป็นเหตุผลของตำรวจ ซึ่งมีเหตุผลของเขา จะเหมาะสมไม่เหมาะสม แต่อย่าไปคิดว่าเขาทำเรื่องนี้เรื่องเดียวแล้วจะเก่งที่สุดในโลก เป็นซุปเปอร์แมน การจะไปจับทหารหรือใครผมไม่สนใจ จับใครก็จับไป จับ พล.ท.กี่คนก็จับไป ผมไม่ได้เดือดร้อน มีการบอกว่าถูกเขียนขู่ ฆ่า วันนี้ผมน่ากลัวกว่า ผมยังไม่กลัว ผมยังไม่ลาออก ทำความดีแล้วจะไปกลัวอะไร ถ้าคิดว่าไม่เป็นธรรมก็ร้องเรียนมา ร้องทุกข์ ซึ่งมีขั้นตอนของมันอยู่แล้ว ข้าราชการต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่จะมาพูดผ่านสื่อ แต่ต้องระวังถ้าร้องไปแล้วเกิดข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ ก็ต้องโดยเบิ้ลสองเด้งอีก ต้องมั่นใจนะ ก็อยากที่บอกว่าคดีค้ามนุษย์ประกันตัวไม่ได้ ใหญ่โตจากไหนก็ไม่ให้ประกัน ก็เห็นมีวิ่งเต้นกันเยอะ แต่ยืนยันไม่ให้ประกัน ไปสู้คดีกันมา”
กำลังโหลดความคิดเห็น