xs
xsm
sm
md
lg

ป.รวบแก๊งเรียกรับใต้โต๊ะต่อใบอนุญาตแรงงานพม่า-ทำมานาน เชื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTV ผู้จัดการ - ตำรวจกองปราบฯ จับกุมแก๊งเรียกรับผลประโยชน์จากการต่อใบอนุญาตแรงงานพม่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำมานานแล้วและเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับเข้าเกี่ยวข้อง ทางด้านผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเพียงการเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนของสถานทูต



วันนี้ (4 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.4 บก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วย ทหารศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) และทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 1 แถลงผลจับกุม น.ส.อภิญญา มีสมมนต์ หรือป้าเอื้อย อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/21 ซอยพหลโยธิน 44 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. และนายอากร ไกรฤกษ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/27 หมู่ 7 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2286 และ 2288/2558 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 3 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น 3 กระบอก และเครื่องกระสุนชนิดต่างๆ จำนวน 680 นัด ได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสองราย

พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางกระทรวงแรงงานได้รับร้องเรียนจากบริษัทจัดหางานหลายแห่งว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวในการต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย จึงเข้าร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.สั่งการ บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น กระทั่งพบว่าการยื่นขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานสัญชาติพม่านั้นจะมีตัวแทนบริษัทจัดหางาน หรือโบรกเกอร์ เป็นผู้รวบรวมนำมายื่นให้เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน เมื่อตรวจสอบแล้วก็จะส่งต่อไปยังสถานทูตพม่าเพื่อรับรองสัญชาติของแรงงานทั้งหมด ก่อนส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงแรงงาน

พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ในระหว่างที่เรื่องถูกส่งกลับมาที่กระทรวงแรงงาน และต้องถูกส่งให้บริษัทจัดหางานเพื่อออกใบอนุญาตให้กับแรงงานแต่ละรายก็พบพิรุธเมื่อมีการดำเนินการล่าช้า จนเกิดช่องโหว่เปิดโอกาสให้มีการเรียกรับผลประโยชน์โดยอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ออกใบอนุญาตได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งมี น.ส.อภิญญากับพวกเป็นผู้เรียกเก็บเงินจากบริษัทจัดหางาน โดยคิดเงินจำนวน 250 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 ราย ทั้งนี้ หากบริษัทจัดหางานแห่งใดไม่ให้ความร่วมมือในการจ่ายค่าธรรมเนียมลักษณะนี้ก็จะแกล้งประวิงเวลาให้ล่าช้าจนการต่อใบอนุญาตแรงงานช้าไปด้วย ทำให้บางรายวีซ่าของแรงงานหมดอายุลง เกิดความเสียหายต้องเสียเวลาดำเนินการอีกหลายขั้นตอน ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลออกหมายจับพร้อมทั้งตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว นอกจากนี้เชื่อว่ายังมีเจ้าหน้าที่รัฐในหลายระดับ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของประเทศพม่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการกระทำความผิดด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป

สอบสวนนายอาการให้การปฏิเสธโดยอ้างว่ามีการเก็บเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวจริง แต่ได้กระทำการตามหน้าที่ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากทางสถานทูตพม่า โดยทำมาเป็นเวลาประมาณ 4 ปี ทั้งนี้ สำหรับแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าแต่ละรายที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยและอาศัยอยู่จนครบกำหนดระยะเวลาขั้นตอนแรกในการขอต่อใบอนุญาต หรือออกวีซ่าเพื่ออยู่ในประเทศไทยจะต่อได้ครั้งละ 2 ปี รวม 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นก็จะต่อได้อีก 2 ครั้ง ขั้นตอนการเดินเอกสารตรงนี้ทางบริษัทจัดหางานต้องรวบรวมเอกสารทั้งหมดนำส่งกระทรวงแรงงาน หลังจากนั้นเอกสารจะถูกส่งไปยังสถานทูตพม่าเพื่อออกเอกสารรับรอง มีค่าธรรมเนียม 250 บาท ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนดำเนินการ

นายอากรให้การอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่แน่ใจว่าเป็นระยะเวลานานเพียงใด แรงงานต่างสัญชาติพม่าจำนวนมากที่วีซ่าขาดอายุ อาจจะล่าช้าไป 1 เดือน หรือมากกว่านั้น เมื่อมีการดำเนินการส่งเรื่องไปยังกระทรวงแรงงานแล้ว ขั้นตอนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ล่าช้า จุดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีที่ตนทำงานให้กับทางสถานทูตพม่า เพราะเป็นเพียงฝ่ายที่รอรับเอกสารยืนยันสัญชาติให้เท่านั้น บางครั้งเมื่อเอกสารจำนวนมากไปค้างอยู่ที่กระทรวงแรงงานก็ส่งผลให้แรงงานหลายรายวีซ่าต้องขาดอายุ เรื่องนี้ตรวจสอบได้หมด โดยเงินจำนวน 250 บาทเป็นเพียงค่าธรรมเนียมในส่วนของสถานทูตพม่า

ผู้ต้องหารายนี้ให้การต่อว่า ภายหลังทางสถานทูตพม่าเห็นว่าตนทำงานมานานมากแล้วจึงมอบหมายให้ น.ส.อภิญญามาทำหน้าที่แทน โดยในส่วนของค่าธรรมเนียมดังกล่าวก็ยังคงดำเนินการเหมือนเดิมเพียงแต่ไม่มีการออกใบเสร็จรับเงินไว้เท่านั้น ยืนยันว่าไม่เคยดึงเรื่องไว้หรือยึดเอกสารใครทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาตนได้รับเงินเดือนจากทางสถานทูตพม่าเท่านั้น ไม่ได้รับเงินจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ส่วนอาวุธปืนที่ครอบครองไว้นั้นก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เป็นเพียงความชอบส่วนตัวจึงมีสะสมไว้ แต่มีปืนเพียงกระบอกเดียวที่รับจำนำจากเพื่อน

ทั้งนี้ ทางชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวนรับไว้ดำเนินคดีโดยจะขยายผลตรวจสอบไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบกรณีอาวุธปืนที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่

 
 




กำลังโหลดความคิดเห็น