“ศุกข์โข” ซัด “สารวัตรเอี๊ยด” รับปากจะฝากเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่เร่งหาหลักฐานโยงแอบอ้างเบื้องสูง เผย “หมอหยอง” สารภาพลวงโลก อ้างเป็นร่างทรงหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ส่วน “สารวัตรเอี๊ยด” สุดแสบเคยเบ่งกินฟรีร้านเอ็มเค
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา นายสุริยัน อริยะพลวงศ์ หรือหมอหยอง และพวก ว่ามีความเชื่อมโยงกับใครหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจะออกหมายจับใครหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
สำหรับการสอบสวนปากคำนายศุกร์โข ตามเสรี หนึ่งในผู้ต้องหานั้นได้ให้ความร่วมมือกับชุดสอบสวนเป็นอย่างดี โดยนายศุกข์โขได้ให้การว่ารู้จักกับ พ.ต.ต.ปรากรม ที่สถานบันเทิงเออ ฟินิตี้ ย่านรัชดา-พระราม 9 เนื่องจาก พ.ต.ต.ปรากรมเป็นลูกค้าที่ร้าน และทุกครั้งที่ พ.ต.ต.ปรากรมไปเที่ยวจะแสดงพฤติกรรมเบ่งวางอำนาจอ้างรู้จักผู้ใหญ่ บางครั้งเบ่งกินฟรี ถึงกับเคยขู่จะให้เจ้าของร้านไล่ตนออก ต่อมาเริ่มสนิทกัน พ.ต.ต.ปรากรมได้สั่งให้มาช่วยงานและคอยติดตามใกล้ชิด ด้วยความกลัวจึงได้ทำตามและติดตาม พ.ต.ต.ปรากรมไปทุกที่ นอกจากนี้ พ.ต.ต.ปรากรมได้ให้สัญญาว่าหากตนมาช่วยงานก็จะฝากให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ปรากรมได้มีการนำบุคคลภายนอกฝากเข้าภายใน โดยใช้เส้นสายนายตำรวจระดับสูงท่านหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายศุกข์โขนั้นขณะนี้ชุดสืบสวนดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนยังพบว่านายศุกร์โข มีความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ต้องหาคดี มาตรา 112 และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เพียงแต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดรัดกุม จนถึงขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากในส่วนของการเอาผิดต่อบริษัทเอกชนนั้นต้องรอให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาอีกครั้ง หากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ธง รวมทั้งเสื้อของงานกิจกรรมสำคัญว่าบริษัทใดเป็นผู้ผลิตและมีการทุจริตเฉกเช่นเดียวกับกรณีของเข็มกลัดหรือไม่ ขณะที่นายตำรวจทั้ง 8 นายที่ถูกโยกย้ายมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก.ยังไม่มีการถูกควบคุมตัวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.ชวัลนุช ศักดิ์ณรงค์เดช ลูกสาวของนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ผู้ต้องหาในคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา พ.ต.ต.ปรากรมในข้อหาลักทรัพย์ มาชี้ยืนยันทรัพย์สินเพิ่มเติม 3 รายการ ประกอบด้วย 1. ตุ๊กตาเทพจีนทำด้วยงาช้าง ลูกปัดหินที่อยู่ในกล่องเหล็ก 1 เม็ด และหนุมานกรอบสีเหลืองทอง เป็นทรัพย์สินที่ยึดได้จากตู้นิรภัย ภายในห้อง 1813 คอนโดฯ ลาเมซอง ที่ พ.ต.ต.ปรากรมเป็นเจ้าของ น.ส.ชวัลนุช ยืนยันว่าทั้ง 3 รายการเป็นทรัพย์สินของครอบครัวตนจริง
ส่วนอาการของนายสุริยัน หรือหมอหยอง พบว่ามีความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันพอกตับ ประกอบกับมีความเครียดและวิตกกังวลจากผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เบื้องต้นแพทย์ได้ให้การรักษา โดยให้ยาลดความดัน พักรักษาตัวเพื่อสังเกตอาการ ก่อนนำส่งไปควบคุมในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีภายใน มทบ.11 ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (30 ต.ค.) เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและสอบปากคำ ทั้งนี้ หมอหยองให้การรับสารภาพว่าตนกุเรื่องว่าเป็นร่างทรงของเจ้าแม่พันปี และหลวงปู่ รวมทั้งองค์พระพิฆเณศ เพื่อหลอกหลวงประชาชนให้เคารพนับถือจากความศรัทธา โดยใช้ห้องเลขที่ 127/35 พหลโยธินปาร์ค ซอยพหลโยธิน 14 ซึ่งเป็นห้องพักของตนเอง เปิดเป็นสำนักเข้าทรง
นอกจากนี้มีรายงานว่า เมื่อปลายปี 2557 พ.ต.ต.ปรากรมและพวกไปทานอาหารที่ร้านเอ็มเค สุกี้ ภายในห้างย่านลาดพร้าว และได้เบ่งกินอาหารฟรีโดยอ้างว่าน้ำซุปที่ร้านมีกรวดทำให้ฟันของสารวัตรคนดังแตก จนเกิดการฟ้องร้องและต่อมาทางร้านอาหารดังกล่าวได้ชดเชยเงิน 4 แสนบาท ให้ พ.ต.ต.ปรากรม เป็นค่าเสียหาย ซึ่งเป็นคดีความอยู่ที่ บก.ปป.