รองโฆษก ตร.ย้ำคนสนิท “สว.เอี๊ยด” ยังไม่เอี่ยวคดีหมิ่นฯ รอสอบสวน ปัด “ประวุฒิ” ลาออกราชการ

ASTV ผู้จัดการ - รองโฆษกตำรวจ เผย “ศุกร์โข” ไม่เกี่ยวคดีหมิ่นฯ แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนในครอบครองเท่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเชิงลึก หากการพบมีความเกี่ยวข้องในคดีหมิ่นสถาบัน เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป พร้อมปัดข่าวลือ “ประวุฒิ” ลาออก อ้างยังไม่ได้รับการติดต่อจาก พล.ต.อ ประวุฒิ

วันนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีขบวนการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ นายศุกร์โข ตามเสรี อายุ 32 ปี คนสนิทของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด อดีต สว.กก.1 บก.ปอท. ในข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า จากการสอบปากคำ นายศุกร์โข ได้ข้อมูลเพิ่มเติมบ้างแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนจะมีการให้ข้อมูลผู้เกี่ยวข้อง หรือมีการพูดถึง พ.ต.ต.ปรากรม หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่อยู่ระหว่างกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน

พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ส่วนความสัมพันธ์ของ นายศุกร์โข กับผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันฯ อยู่ระหว่างสอบสวน ขณะที่อาวุธปืนของกลางมาอยู่ที่นายศุกร์โขได้อย่างไร และ พ.ต.ต.ปรากรม เกี่ยวข้องอย่างไรนั้น ต้องให้พนักงานสอบสวนชี้แจง เพราะเป็นข้อมูลที่อยู่ในการดำเนินการของพนักงานสอบสวน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนที่มีองค์กรภาคเอกชนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จะต้องมีการสอบสวนว่ามีการพาดพิงหรือเกี่ยวข้องกันอย่างไร ขณะนี้การเชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ อยู่ที่พนักงานสอบสวนว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายศุกร์โข จะรู้เห็นการกระทำความผิดของ พ.ต.ต.ปรากรม หรือไม่นั้น พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวน หากมีความเชื่อมโยงก็จะปรากฏออกมาเอง ที่ผ่านมา นายศุกร์โข ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเป็นประโยชน์ ซึ่งคดีของ นายศุกร์โข จะไม่ถูกนำมารวมกับสำนวนคดีหมิ่นสถาบันฯ ที่มีผู้ต้องหา คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ หรือ “อาท” วัฒนเทวาศิลป์ เลขานุการส่วนตัวของหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม เพราะนายศุกร์โขถูกดำเนินคดีข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองเทานั้น ยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหมิ่นสถาบันฯ แต่หากการสืบสวนในเชิงลึกพบว่ามีความเกี่ยวข้องก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

เมื่อถามว่า ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินให้กับตำรวจแล้วหรือไม่ พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า เบื้องต้นมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอยู่ หากพบว่าเชื่อมโยงกับบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 8 ราย ที่ทาง ปปง. เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ก็จะเชิญมาให้ข้อมูลด้วย รวมถึงที่การตรวจสอบการทำธุรกรรม จำนวน 148 ธุรกรรม ที่เข้าข่ายกระทำความผิดด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ทุกสำนวนยังไม่ส่งให้แก่ทางพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องรอให้ทาง ปปง. ดำเนินการสักระยะ ถามต่อว่าจากข้อมูลเส้นทางการเงินของ ปปง. ที่พบมีการโยงใยไปถึงนายตำรวจระดับสูงหรือไม่ รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.ก. ทั้ง 8 นาย ที่ถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการนั้น พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการ ซึ่งทุกวันนี้มีการใช้ชีวิตอิสระ และปฏิบัติหน้าที่โดยปกติ ไม่มีการควบคุมตัวตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

พล.ต.ต.ทรงพล ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ 10) ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ว่า ยังไม่มี เพราะ พล.ต.อ.ประวุฒิ ลาพักร้อนตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.- 1 พ.ย. 2558 ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับการประสาน หรือการติดต่อจาก พล.ต.อ.ประวุฒิ แต่อย่างใด ถามต่อว่า เมื่อมีกระแสข่าวเช่นนี้ พล.ต.อ.ประวุฒิ จะต้องออกมาชี้แจงหรือไม่นั้น รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.ประวุฒิ ยังอยู่ที่ต่างประเทศ หากกลับมาแล้วคงได้ความชัดเจน ขอยืนยันว่ายังไม่ได้รับหนังสือลาออก