ASTV ผู้จัดการ - “ศรีวราห์” เผย ศาลอนุมัติหมายจับ “ศุกร์โข ตามเสรี” คนสนิท “สารวัตรเอี๊ยด” ข้อหาอาวุธปืน เบื้องต้นยังไม่พบพฤติการณ์หมิ่นเบื้องสูง คาดกองทัพส่งตัวให้ 30 ต.ค. ส่วนคดี “หมอหยอง” และพวก สำนวนคืบกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คาดสัปดาห์หน้าแล้วเสร็จ ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกออกหมายจับด้วยหรือไม่ ขึ้นกับพยานหลักฐาน
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
พล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.714/ 2558 ลงวันที่ 29 ต.ค. 2558 เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ นายศุกร์โข ตามเสรี อายุ 32 ปี ในข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง” โดยพฤติการณ์เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด .380 จากบ้านพักของผู้ต้องหาย่านบางโคล่ เขตบางคอแหลม แต่ในขณะนี้ยังไม่พบความผิดข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อย่างไรก็ตาม หากสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับคดีหมิ่นสถาบันฯ ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนความเกี่ยวข้องของนายศุกร์โข กับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนก่อนหน้านี้ พบว่าอยู่ในขบวนการเดียวกัน
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาร์ต คนสนิทหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ตนได้เร่งรัดให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีฐานหมิ่นสถาบันฯ ให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า โดยขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาในขบวนการที่มีกับบริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวอีกด้วย หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน ทั้งนี้ ตนไม่สามารถระบุจำนวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่ยืนยันว่าต้องมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกแน่
ผู้สื่อข่าวถามถึงนายตำรวจสังกัด บช.ก. ทั้ง 8 นายที่ถูกเรียกมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ในชั้นนี้ยังไม่พบความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด หากพบก็ต้องดำเนินการ ถามต่อถึงเรื่องของการยึดทรัพย์ขบวนการนี้ รรท. รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า หากมีความผิดเข้าตามหลักกฎหมายก็ต้องดำเนินการ
เมื่อถามถึงบริษัทที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในการจัดทำเข็มกลัดและเสื้อนั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดว่าเป็นบริษัทเอกชนรายใดทั้งสิ้น แต่หากการสอบสวนพาดพิงไปถึงบุคคลหรือบริษัทเอกชนรายใดก็ต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำทั้งหมดตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อถามว่ายังมีข้าราชการตำรวจรายอื่น ๆ อีกหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ แต่หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงก็ต้องดำเนินการ
ถามต่อถึงกรณีชุดเจ้าหน้าที่ของ พ.ต.ต.ปรากรม ว่า ได้เข้าไปนำของกลางในคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ได้อย่างไร รรท. รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่าทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่ พ.ต.ต.ปรากรม เอาไปนั้นไม่ใช่ของกลางในคดี เนื่องจาก พ.ต.ต.ปรากรม นำออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจยึด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ว่า พ.ต.ต.ปรากรม นั้นเข้าไปเอาทรัพย์สินดังกล่าวได้อย่างไร ถามต่อว่าแสดงว่าต้องมีเจ้าหน้าที่คนอื่นเข้าไปพร้อมกับ พ.ต.ต.ปรากรม ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าต้องมี อย่างไรก็ตาม หากพบใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดี เพราะผู้ต้องหาจะเข้าไปทำสิ่งเหล่านี้คนเดียวไม่ได้แน่นอน
เมื่อถามว่า ต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดหรืออยู่ในชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนั้นหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ต้องรอผลการสอบสวนก่อน ซึ่งตนยังไม่ได้คุยกับ พ.ต.ต.ปรากรม ถึงประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
ถามต่อว่า ขณะนี้ตัวของ นายศุกร์โข ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมไว้แล้วใช่หรือไม่ รรท. รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องสอบถามทางกองทัพ แต่เชื่อว่าในวันที่ 30 ต.ค. นี้ เจ้าหน้าที่ทหารจะได้นำตัวมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
เมื่อถามถึงความเกี่ยวข้องระหว่างนายศุกร์โข กับ พ.ต.ต.ปรากรม ว่า อยู่ในฐานะอะไรกัน พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้หัวเราะออกมา ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามถามว่าพอจะบอกได้หรือไม่ว่าความสนิทสนมอยู่ในระดับใด พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้
ถามต่อว่า นายศุกร์โข มีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีที่ พ.ต.ต.ปรากรม ฝากให้เข้ารับราชการว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีอยู่ในสำนวน
เมื่อถามว่าคดีความผิดตาม ม.112 นี้ จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกออกหมายจับด้วยหรือไม่ รรท. รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ขึ้นอยู่ว่าศาลจะอนุมัติหมายจับเมื่อใด ถามต่อว่ามีผู้ที่มียศเหนือ พ.ต.ต.ปรากรม รวมอยู่ด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนบอกได้เพียงว่าถ้าหลักฐานพาดพิงถึงใครก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายและระเบียบ ส่วนจะถึงใครก็ต้องแล้วแต่พยานหลักฐาน